PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

"วิษณุ" เล่าเรื่อง "บรรหาร ศิลปอาชา" คุณบรรหารทำงานอย่างแฟร์ที่สุด…

updated: 24 เม.ย 2559 เวลา 10:17:17 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
"วิษณุ" ยก" บรรหาร" เป็น "อดีตนายกฯ" สุดขยัน ชูผลงานชิ้นโบว์แดง ตั้งคกก.แต่งตั้ง "ส.ว." ปี 39 ได้แฟร์ที่สุด
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผย เมื่อวันที่ 23 เมษายน ถึงการอนิจกรรมของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า รู้สึกตกใจกับการจากไปของนายบรรหาร และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวศิลปอาชา

นายวิษณุกล่าวว่า เคยร่วมงานกับนายบรรหารในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี อยู่ประมาณ 1 ปี ได้เห็นถึงความขยัน ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่อาจมีต่างจากนักการเมืองคนอื่น ๆ งานใดที่ตั้งใจจะทำ ต้องใช้คำว่าเกาะติดไม่ปล่อย แม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย จำได้ว่าช่วงนั้นมีงานก่อสร้างพระเมรุสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี คุณบรรหารก็ได้ไปตรวจการก่อสร้างพระเมรุที่ท้องสนามหลวงเกือบทุกวัน รวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่รู้สึกว่าเป็นภารกิจ ก็จะทำเลยกลายเป็นที่มาของคำที่พูดกันว่าล้วงลูก แต่ความจริงตนเห็นว่า ไม่ใช่การล้วงลูก แต่เป็นลักษณะนิสัยส่วนตัวที่เกาะติดแม้กระทั่งในรายละเอียด ถ้าหากคุณบรรหารผู้คุยกับคนระดับผู้บังคับบัญชาที่รับมอบหมายงานนั้น ๆ แล้วไม่เข้าใจ แทนที่จะให้ผู้บังคับบัญชาคนนั้นไปหาคำตอบมา ซึ่งเสียเวลา ก็จะให้ผู้บังคับบัญชานั้นไปเชิญเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ บางทีเป็นระดับ ซี 3-4 มาพบเพื่อพูดคุย บางทีได้คำตอบแล้วแก้ปัญหาได้รวดเร็วกว่า ไม่ต้องมาเกรงใจ ระมัดระวัง รักษาหน้าตากัน เลยเป็นที่มาที่ทำให้คนไปมองว่า คุณบรรหารล้วงลูก แต่ความจริงคนที่ถูกเรียกไปจะรู้สึกเลยว่าไม่ได้เป็นการล้วงลูก แต่เป็นการให้คำแนะนำจนแก้ปัญหาได้ตรงประเด็นที่สุด

นายวิษณุกล่าวว่า ผลงานชิ้นโบว์แดงที่ตนเห็นคือตอนที่คุณบรรหารเป็นนายกฯ และมีส่วนคัดเลือก ส.ว.แบบแต่งตั้งครั้งสุดท้ายก่อนจะมี ส.ว.เลือกตั้ง ในปี 2539 คุณบรรหารก็ได้ทำหน้าที่เป็นอย่างดี แม้จะมีโควต้าที่สามารถเลือกและแต่งตั้งใครก็ได้ทั้งหมด 200 กว่าคน แต่ก็ยอมให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสรรหาซึ่งตนก็ร่วมอยู่ด้วยในฐานะเลขานุการ เมื่อมีการเสนอชื่อพิจารณา คุณบรรหารก็เข้าร่วมพิจารณาด้วย ซึ่งตนมีหน้าที่อ่านชื่อทีละคนตามที่แต่ละองค์กรเสนอมาเพื่อโหวตโดยใช้เสียงข้างมาก แต่บางคนที่คุณบรรหารโหวตให้ คณะกรรมการคนอื่น ๆ กลับไม่โหวตตามจนแพ้ คุณบรรหารก็ไม่ติดใจอะไร เพราะฉะนั้น ตนเห็นว่าคุณบรรหารทำงานอย่างแฟร์ที่สุด

"เมื่อครั้งท่านนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมจำได้แม่นยำว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทอดพระเนตรแล้วรับสั่งสั้น ๆ ประโยคหนึ่ง ซึ่งคุณบรรหารภูมิใจมาก คือ ทำได้เรียบร้อยดี ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของคุณบรรหาร แล้วท่านเป็นคนจงรักภักดี อะไรที่เป็นการสนองพระราชดำริ หรือเป็นการทำให้เห็นถึงความจงรักภักดี ท่านจะทำอย่างสุดใจ" นายวิษณุกล่าวและว่า "และการที่คุณบรรหารได้มีโอกาสเข้าเฝ้าเพื่อถวายรายชื่อรัฐมนตรีครั้งหนึ่งนั้น ผมก็มีโอกาสติดตามไปด้วย พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งถามว่า นายกฯ หนักใจอะไรไหม คุณบรรหารก็กราบพระบาทว่า ข้าพเจ้าไม่เคยเป็นนายกฯ ก็หนักใจว่าไม่รู้ทำอย่างไร แล้วไม่รู้จะทำได้ดีหรือไม่ พระเจ้าอยู่หัวทรงพระสรวล แล้วรับสั่งว่า คุณบรรหารทำยังไงกับเมืองสุพรรณฯ ก็ช่วยทำอย่างเดียวกันกับประเทศไทยก็แล้วกัน ถือเป็นพระราชดำรัสที่คุณบรรหารรับใส่เกล้าใส่กระหม่อมและตั้งใจที่จะปฏิบัติมาตลอดช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ผมรู้สึกโชคดีที่ได้ทำงานกับท่านด้วยในสมัยนั้น"

นายวิษณกล่าวว่า มีเหมือนกันที่คุณบรรหารมาติดตามงานกับตนโดยตรง และด้วยความที่เป็นคนเกาะติด บางครั้งโทรศัพท์สั่งงานตนตอน 2-3 ทุ่ม พอรุ่งเช้าตื่นขึ้นมา ก็โทรมาถามแล้วว่า งานที่สั่งเมื่อคืนทำเสร็จหรือยัง และในสมัยนั้นที่ตนเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พอเจอคุณบรรหารในฐานะนายกฯ ก็มักจะล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งมาจดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ให้ถามคนนั้นคนนี้ แล้วมีเรื่องที่ถามตน ตนยังพูดกับท่านเลยว่า จดตั้งเยอะแยะมากมาย คุณบรรหารบอกว่าใช่ กลัวจะลืม และเผื่อวันหลังจะได้ติดตามงานต่อได้ว่า ที่สั่งไปแล้วทำไปถึงไหน นี่เป็นลักษณะพิเศษของคุณบรรหารสมัยเป็นนายกฯ

ไม่มีความคิดเห็น: