PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

สีเดียวกัน



สีเดียวกัน !!
บิ๊กตู่ ซื้อใจ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ลั่น เป็นคนสีเดียวกัน เลือดสีเดียวกัน ใส่ชุดสีกากีเหมือนกัน ยกเป็น เครื่องจักร ฟันเฟือง ช่วยให้รถเดินหน้าได้ รัฐบาลเป็นแค่ แบตเตอร์รี่ ขอเชื่อใจผม ผมก็ไว้ใจท่าน เราต้องไม่สนับสนุนให้เกิดความแตกแยก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวในตอนหนึ่งของการมอบนโยบายโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านภาคกลาง 6 จังหวัด กว่า 3,878 คน ที่ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
นายกฯ กล่าวว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นองค์กรหนึ่งที่จะต้องช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งถึงวันนี้ เราทำงานร่วมกันมาเข้าสู่ปีที่ 2 ซึ่งเป็นความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง หมู่บ้านถือเป็นสังคน ขนาดเล็กที่สุด และมีการพัฒนาต่อยอดมาโดยตลอด วันนี้จะต้องเร่งรัดการทำงานให้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานบ้าง
วันนี้รัฐบาลต้องทำความเข้าใจกับทุกคน ว่า การทำงานจะต้องมองที่ปัญหาของประเทศเป็นหลัก รวมทั้งโลกภายนอก บทบาทของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คือการพัฒนาท้องถิ่น ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ รวมทั้งการแก้ปัญหาในพื้นที่ การให้การบริการ ซึ่งที่ผ่านมา ก็เห็นว่าทุกคนทำงานอย่างเต็มที่
"วันนี้ถือว่า ผมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนสีเดียวกัน มีเลือดสีเดียวกัน จะเห็นได้ว่าวันนี้ ผมก็ใส่ชุดสีกากีเหมือนทุกคน"
"วันนี้ถ้าเรามีความเข้าใจที่ตรงกัน อยู่ร่วมกันในสังคมให้ได้ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่หากวันใดมีความขัดแย้ง มีความเห็นที่แตกต่าง ก็จะเกิดปัญหา
ดังนั้นจะต้องวางเป้าหมาย โดยยึดประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นส่วนสำคัญที่สุด
นอกเหนือจากการสร้างความสงบเรียบร้อยในพื้นที่แล้ว ก็ยังต้องพัฒนาร่วมกันประชาชนในพื้นที่ ก็จะถือว่าทุกคนมีส่วนร่วมกันรัฐบาลชุดนี้ และคสช. เพราะถ้าหาคนในพื้นที่ไม่เข้าใจกันแล้วจะไปไม่ได้ทุกเรื่อง จะติดขัดไปหมด วันนี้เราต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันให้ได้
"วันนี้ท่านต้องเชื่อใจผม ผมก็ไว้ใจท่าน เราต้องไม่สนับสนุนให้เกิดความแตกแยก เห็นต่างได้ แต่ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่เป็นธรรม คนเราไม่มีทางที่จะเท่าเทียมกันได้
แม้แต่การปกครอง ในระบอบต่างๆ แต่สิ่งที่จะเท่าเทียมกันได้ คือการอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ละเว้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่จะต้องทำวันนี้ คือทำอย่างไรสังคมจะเกิดความสงบ ไม่ขัดแย้ง ไม่เห็นต่าง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานเราทุกคนจะต้องร่วมมือกัน เพราะถือว่าทุกคนเป็นเครื่องจักรในการพัฒนาประเทศ รัฐบาลเป็นเพียงแบตเตอร์รี่ หรือกล่องควบคุม และทุกคนก็เป็นเครื่องจักร เป็นฟันเฟืองต่างๆ สามารถทำให้รถวิ่งไปข้างหน้าได้ เฟืองตัวใดตัวหนึ่งจะขาดไปไม่ได้
"ไม่เคยไม่ชอบใคร หรือรังเกียจใครเป็นการส่วนตัว เพราะผมเป็นทหารอยู่กับพวกท่านมาก่อน วันนี้เราต้องเอาอดีตทั้งหมดมาร่วมกันดูว่าจะแก้ไขอย่างไร "
รถยนต์ที่ใช้มาก็ต้องมีการพัฒนาปรับปรุงให้ทันกับยุคสมัย ไม่ใช่ปล่อยมลพิษให้กับโลก ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ต้องช่วยกันประคับประคองรถคันนี้ให้ทันสมัย มีการขับเคลื่อนให้สอดคล้องทั้งใน และนอกประเทศ
เราจะอยู่คนเดียวในโลก หรืออาเซียนไม่ได้ เราต้องมองอนาคตในระยะยาว และเอาอดีตที่ผ่านมาดูว่าทำอะไรกันไปบ้าง ต้องแก้ไขปัญหาในอดีตให้ได้ และวางแผนอนาคตในระยะ 5-10 ปีต่อไป
"ถ้าเรายังไม่คิดแก้ปัญหา หรือพัฒนาปรับปรุงตัวเอง วันข้างหน้าหากเกิดศึก สงคราม มันก็จะย้อนกลับไม่สู่อดีตที่ไม่สามารถรวมกันสู้ได้
วันนี้เราไม่ได้สู้กันด้วยเรื่องของการสู้รบ แต่วันนี้เราต้องต่อสู้กับเรื่องเศรษฐกิจทั้งภายใน และภายนอก ซึ่งบังคับควบคุมไม่ได้ ต่อให้ทำดีอย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ดูโลกภายนอก มันก็ไปไม่ได้ เราต้องเริ่มจากจุดที่เล็กที่สุด คือประชาชน และหมู่บ้าน เราช้าไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เราหยุดรอมานานเกินไป เพราะเรามีปัญหามา ทั้งความขัดแย้ง ความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม ต้องกลับมามองว่ากฎหมายอยู่ตรงไหน ถ้ามองเห็นทุกอย่างก็จบ เพราะทุกเรื่องกฎหมายเขียนไว้หมดแล้ว เพียงแต่จะใช้หรือไม่เท่านั้น อย่าลืมว่ากฎหมายยกเว้นไม่ได้ ทุกอย่างต้องกลับมาสู่กระบวนการทางกฎหมาย แล้วหาทางแก้ให้เป็นขั้นตอน
แต่แน่นอนว่าให้ทุกคนพอใจเป็นไปไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมีความคิด รัฐบาลไม่ได้จำกัดความคิดเห็นที่แตกต่าง เพียงแต่จะต้องคิดให้ได้ก่อนว่า แตกต่างกันเพื่ออะไรเราต้องฟังเหตุผลและข้อมูลทุกด้าน ไม่ใช่หยิบยกอะไรมาเรื่องเดียวแล้วตีกันทั้งหมด ปัญหาไม่มีทางแก้ได้. ถ้าเอาความขัดแย้งขึ้นมาก่อน เราต้องมาร่วมมือทำงานกันก่อน ส่วนเรื่องความขัดแย้งค่อยมาดูที่หลังค่อยๆ แก้กันไป
วันนี้เราต้องมาร่วมกันสร้างประชาธิปไตยให้เท่าเทียม ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกันให้ได้เสียก่อน"นายกฯ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: