PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

จุดจบ ราชาผู้ติดเซ็กซ์

วิเคราะห์บอลจริงจัง
ถ้าถามถึงนักกอล์ฟที่โด่งดังที่สุดตลอดกาลของโลกนี้ แน่นอนว่า ทุกคนคงตอบเหมือนกัน ว่าเป็นไทเกอร์ วูดส์
เขาเป็นนักกีฬาที่รวยที่สุดในโลก มีโฆษณานับสิบชิ้น มีธุรกิจมูลค่ามหาศาล บุคลิกดี หล่อเหลา และที่สำคัญฝีมือของไทเกอร์คือของจริง
แค่อายุ 32 ปี เขาได้แชมป์เมเจอร์ไปแล้ว 14 รายการ คือใครๆก็คิดว่า สถิติแชมป์ 18 เมเจอร์ของแจ๊ค นิคลอส คงจะโดนเขาทำลายง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม ชีวิตของไทเกอร์ จากพุ่งสูงเหมือนดาวบนฟ้า กลับร่วงลงมาอยู่บนพื้น เพียงระยะเวลาแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น
จากมือ 1 ของโลก เชื่อหรือไม่ ไทเกอร์ทำตัวเอง อันดับหล่นไปอยู่ที่ 1005 ของโลก หล่นลงมากว่าพันอันดับ ขณะที่ชีวิตส่วนตัวก็ล่มสลายอย่างไม่เป็นท่า
คำถามคือ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
----------------------------------------
ในปี 2009 ไทเกอร์ กำลังอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิต
เขาเป็นมือหนึ่งของโลกแบบไร้คู่ต่อกร ขณะที่นิตยสารฟอร์บส์ ยกให้เขาเป็นนักกีฬาคนแรก ที่ทำเงินได้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ไทเกอร์ มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับบารัค โอบาม่า ปธน.สหรัฐ ที่ทำเนียบขาว เขาได้รับเกียรติอย่างยิ่งจากผู้นำประเทศ
ขณะที่ชีวิตครอบครัวก็สวยงาม เขาแต่งงานกับ เอลิน นอร์เดเกร็น นางแบบสาวชาวสวีเดน ที่สวยเหมือนนางฟ้า ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน คือบุตรสาววัย 2 ขวบ แซม และลูกชายแรกเกิด ชาร์ลี
ชีวิตของไทเกอร์ ดูสวยงาม ดูเพอร์เฟ็กต์ ไม่น่าจะมีอะไรมาทำให้ชีวิตของตกต่ำได้
อย่างไรก็ตาม ใต้ฉากหน้าที่สวยหรู ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร
----------------------------------------
ย้อนกลับไปในปี 2007 นิตยสาร เนชั่นแนล เอ็นไควเรอร์ (Enquirer) ไปแอบจับภาพได้ว่า ไทเกอร์ ไปนัวเนียกับสาวเสิร์ฟร้านแพนเค้ก ที่ชื่อมินดี้ ลอว์ตัน
เอ็นไควเรอร์ จะแฉเรื่องนี้ แต่สุดท้ายไทเกอร์ยับยั้งเอาไว้ ด้วยการไปเจรจากับ เอ็นไควเรอร์ บอกว่า รูปทุกอย่างเป็นการเข้าใจผิด และขอร้องอย่าให้เผยแพร่รูปนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนการกับให้สัมภาษณ์ในประเด็นอื่นๆแบบเอ็กซ์คลูซีฟแทน
ผู้บริหารของเอ็นไควเรอร์ มองว่า การได้ไทเกอร์มาสัมภาษณ์แบบพิเศษ มันน่าจะมีประโยชน์มากกว่าแฉเรื่องคาวๆแค่ครั้งเดียว จึงตอบตกลงไทเกอร์ และให้ไทเกอร์ มาสัมภาษณ์ลงนิตยสารลูกของบริษัท ที่ชื่อ Men's Fitness
ตามปกติไทเกอร์จะไม่มีสัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับสื่อไหนทั้งสิ้น นั่นทำให้ Men's Fitness ฉบับนั้น เป็นเล่มที่ขายดีที่สุดตลอดกาลเลยทีเดียว
สุดท้าย เรื่องรูปลับๆกับเด็กเสิร์ฟ จึงไม่มีการนำมาเผยแพร่ แต่ทางเอ็นไควเรอร์ ก็ตกลงกับไทเกอร์ว่า นี่จะเป็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ที่บริษัทจะยอมปิดเรื่องนี้ เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน
แต่ถ้าหาก เอ็นไควเรอร์ ไปเจออะไรอีกครั้ง คราวนี้จะไม่ยอมเก็บเป็นความลับแน่นอน
เวลาผ่านไป 2 ปี เอ็นไควเรอร์ ก็แอบส่งนักข่าวไปสปายไทเกอร์อยู่ตลอด แต่จับอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน
อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤศจิกายน 2009 ระหว่างที่ไทเกอร์ ไปแข่งศึกออสเตรเลียน มาสเตอร์ส ปรากฎว่า เขาก็พลาดจนได้
ไทเกอร์ นอนพักที่ห้องสูท ในโรงแรมคราวน์ ทาวเวอร์ส ที่เมืองเมลเบิร์นระหว่างแข่งขัน ซึ่งนักข่าวจากเอ็นไควเรอร์ ก็แอบซุ่มอยู่ตลอด หวังว่าจะเจอแจ็กพอต
ประมาณว่า ไทเกอร์อาจจะหิ้วโสเภณีเข้ามาสักคน ก็สามารถเอาไปขยายต่อเป็นข่าวได้
และแล้วก็มีผู้หญิงที่มาหาไทเกอร์ที่ห้องจริงๆ แต่ไม่ใช่โสเภณี แต่เธอคนนี้มีชื่อว่า ราเชล อูชิเทล นักข่าวสาวคนดังจากช่องวอร์เนอร์บราเธอร์ส ทีวี เธอบินตรงจากสหรัฐ มาที่ออสเตรเลีย เพื่อมาหาไทเกอร์โดยเฉพาะ
นั่นแปลว่า นี่ไม่ใช่คู่นอนธรรมดาแล้ว แต่เป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ใช้คำว่าคบชู้ได้เลย ซึ่งคราวนี้ เอ็นไควเรอร์ รู้แน่ว่า สองคนนี้แอบมีความสัมพันธ์กันแบบลับๆ และไม่ยอมปล่อยข่าวนี้หลุดมือ
25 พฤศจิกายน เอ็นไควเรอร์ ตีพิมพ์ประเด็นนี้ และกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ของคนทั่วโลกทันที
ไทเกอร์ ที่มีพร้อมทุกอย่างในชีวิต เงินทอง ชื่อเสียง ครอบครัว คนรักที่สวยดุจเทพธิดา เขาจะกล้าทำลายตัวเองด้วยเรื่องนี้งั้นหรือ?
----------------------------------------
1 วันหลังจากเอ็นไควเรอร์ วางแผงทั่วประเทศ เอลิน นอร์เดเกร็น ภรรยาของไทเกอร์ อ่านนิตยสารฉบับนั้นด้วยมือสั่นระรัว
คนทั่วประเทศรู้ว่าสามีเธอมีชู้ แต่เธอเอง กลับไม่เคยรู้อะไรเลย ตอนนี้เธอไม่ใช่แม่บ้านที่ดีแสนดี แต่เธอคือคนโง่ในสายตาชาวโลก
เหตุการณ์ต่อจากนี้ เป็นรายงานจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ บรรยายเหตุการณ์ในคืนที่เปลี่ยนชีวิตของไทเกอร์ไปตลอดกาล โดยนิวยอร์กโพสต์ได้ข้อมูลมาจากเพื่อนสนิทของเอลิน
----------------------------------------
26 พฤศจิกายน เป็นวันขอบคุณพระเจ้าที่สหรัฐฯ (Thanksgiving day)
เอลิน อ่านทุกอย่างจากเอ็นไควเรอร์เรียบร้อยแล้ว แต่เธอไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เธอไม่ถามอะไรไทเกอร์ แม้แต่คำเดียว
คืนนั้นไทเกอร์ ร่างกายอ่อนเพลียมากเขาจึงกินยานอนหลับ แล้วล้มตัวลงนอนไปเลย
เวลาตี 1 ตอนไทเกอร์หลับไปแล้ว เอลิน หยิบโทรศัพท์ของสามีขึ้นมา แล้วค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในมือถือ ปรากฎว่า ไทเกอร์เคยส่ง sms หาราเชล พิมพ์ข้อความว่า "คุณเป็นคนเดียวที่ผมรัก"
เอลิน ใจเย็นอย่างน่าประหลาด เธอส่ง sms กลับไปหาราเชล แกล้งเป็นไทเกอร์ โดยพิมพ์ว่า "ผมคิดถึงคุณนะ เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก"
ราเชล ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วเธอแปลกใจที่ไทเกอร์ยังตื่นอยู่ตอนตี 1
เอลินอยากจะแกล้งคุยเพื่อล้วงความจริงมากกว่านี้ แต่เธอทนไม่ไหวแล้ว เธอกดโทรออก ไปหาราเชลทันที เมื่อสายรับ เอลินพูดว่า "ฉันรู้ทุกอย่าง"
"Oh Fuck!" ราเชลอุทานแล้วรีบตัดสายทิ้งทันที
ทันใดนั้น คนใจเย็นอย่างเอลินก็น็อตหลุด เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอกรีดร้องใส่ไทเกอร์ ที่กำลังนอนอยู่
ไทเกอร์ผวาตื่นขึ้นมา เอลินขว้างโทรศัพท์ใส่หน้าไทเกอร์ เธอชกหน้าอก เอาเล็บข่วนหน้า จนไทเกอร์ต้องหนีออกมาเพื่อไม่ให้เจ็บตัว แต่เอลินยังไม่หยุดเธอคว้าไม้กอล์ฟไล่ฟาดเขา
ไทเกอร์วิ่งหนีออกมาจากบ้าน เอลินไล่ตามมาหวด ไทเกอร์ตะโกนสวนเสียงดัง "คุณทำลายวันขอบคุณพระเจ้าของเราพินาศหมดแล้ว! พอใจหรือยังล่ะ!"
เพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงทะเลาะกันของสองสามีภรรยา มีคนตะโกนกลางดึกแบบนั้น ใครๆก็คงได้ยิน
ไทเกอร์ รีบคว้ากุญแจรถคาดิลแลค สตาร์ตรถ รีบขับหนีเอลินทันที เขาต้องการหนีเอาตัวรอดจากตรงนี้ให้ได้ก่อน แต่ด้วยความมึนในฤทธิ์ยานอนหลับ ทำให้ไทเกอร์ไม่มีสติเพียงพอที่จะควบคุมรถ
เขาขับรถพุ่งชนกับหัวก๊อกดับเพลิงและต้นไม้ ในจุดที่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก ไทเกอร์นอนสลบเหมือดคาพวงมาลัย
เอลิน ขับรถตามมาถึง เห็นสภาพรถที่ยับเยิน เธอรีบดึงตัวไทเกอร์ ออกมาจากรถ ให้มานอนราบบนพื้น จากนั้นเธอตะโกนบอกเพื่อนบ้านให้เรียก 911
ไทเกอร์ ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล แต่อาการไม่หนักมาก เขาจึงสามารถกลับมาที่บ้านได้
ในตอนนั้น เอลิน ก็ยังสองจิตสองใจ ใจหนึ่งเธอก็โกรธแค้น อีกใจหนึ่งเธอก็รักสามี ทั้งคู่คบกันมา 6 ปี แต่งงานกันแล้ว มีลูกด้วยกันสองคน ไม่ใช่อะไรที่จะตัดใจได้ง่ายๆ
ระหว่างนั้น ทั้งคู่ก็แยกกันอยู่ไปก่อน เอลิน ขอเวลาทำใจ ถ้าใช้เวลาสักระยะเธออาจให้อภัยสามีได้ ถ้าหากไทเกอร์ตัดสินใจจบกับราเชลจริงๆ อาจจะลองให้โอกาสอีกสักครั้ง
เพียงแต่สิ่งที่เอลินหวังไว้ มันห่างไกลความเป็นจริงมากเหลือเกิน ...
----------------------------------------
หลังจากเอ็นไควเรอร์ แฉเรื่องราเชล อูชิเทล ก็มีผู้หญิงอีกจำนวนมากออกมาเปิดเผยตัว ว่าเธอมีความสัมพันธ์กับไทเกอร์เหมือนกัน
เจมี่ กรั๊บส์ - สาวเสิร์ฟในบาร์มีความสัมพันธ์ 31 เดือนกับไทเกอร์
เจมี่ จังเกอร์ส - นางแบบชุดชั้นในชื่อดัง
จอสลีน เจมส์ - นักแสดงหนังโป๊
โลเรดาน่า โจลี่ - นางแบบนิตยสารเพลย์บอย
จูลี่ พอสเติ้ล - สาวเสิร์ฟในบาร์ที่ออร์ลันโด้
และที่ทำให้ เอลิน หัวใจสลายมากที่สุด คือ เรย์เชล คูดรีเอ็ต นักศึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของไทเกอร์นี่เอง
มีรายงานว่า ไทเกอร์มีเซ็กส์กับผู้หญิงราว 120 คน ระหว่างช่วงที่แต่งงานกับเอลิน และมีถึง 13 คนในนี้ ที่แอบมีสัมพันธ์กันอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่เซ็กส์ชั่วครั้งคราว
ที่มหัศจรรย์คือ ทั้งๆที่ไทเกอร์ คบหลายคนพร้อมกันขนาดนี้ แต่เขาสามารถปิดบังเอลินได้ตลอดช่วงเวลาที่แต่งงานกัน ดังนั้นแน่นอน นี่ไม่ใช่ความพลั้งเผลอ
สื่อสหรัฐใช้คำว่า Serial Cheater หรือ นักนอกใจต่อเนื่อง (เล่นคำจาก Serial Killer - ฆาตกรต่อเนื่อง)
นั่นทำให้เอลิน ตัดสินใจเด็ดขาด ขอหย่าจากไทเกอร์ วูดส์ ในเดือนสิงหาคม 2010 คือมันเกินที่เธอจะรับไหว คนทั้งประเทศอยู่ข้างเธอในเรื่องนี้
ซึ่งแน่นอน ไทเกอร์ ไม่มีทางสู้คดีชนะอยู่แล้ว มีหลักฐานว่าประพฤตินอกใจ นอกกายขนาดนี้ ยังไงเอลิน ก็ต้องชนะคดีถ้าฟ้องร้องกันขึ้นมาจริงๆ
สุดท้ายเอลิน ได้สิทธิเลี้ยงดูบุตรทั้ง 2 คน นอกจากนั้นเอลิน ยังได้รับสินสมรส 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย
ชีวิตในอุดมคติของไทเกอร์ โดนทำลายราบคาบ
ครอบครัวแตกสลาย คนรอบข้างมองเขาด้วยสายตาเปลี่ยนไป และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความวิบัติในอาชีพอย่างแท้จริง
----------------------------------------
ไทเกอร์ ขอพักการแข่งขันพีจีเอทัวร์อย่างไม่มีกำหนด เพื่อไปเข้ารับการบำบัด "เสพติดเซ็กส์" ซึ่งก็เหมือนบำบัดคนติดยา เพียงแต่ยาเสพติดของไทเกอร์ คือผู้หญิง
แต่สื่อมวลชน ก็ชี้ว่า ไทเกอร์ก็แค่อ้างว่าเป็นโรคเสพติดเซ็กส์ ทั้งๆที่ความจริงเขาแค่สนุกกับการได้สับราง และมั่วหญิงไปทั่วแค่นั้น
สปอนเซอร์จำนวนมาก เมื่อเจอข่าวฉาว ก็ประกาศขอถอนตัวจากการสนับสนุน ทั้ง at&t เครือข่ายโทรศัพท์ชื่อดัง, เครื่องดื่มเกเตอเรด รวมถึง มีดโกนยิลเล็ตต์ ทำให้เขาสูญเงินไปขั้นต่ำ 15 ล้านเหรียญต่อปี ขณะที่ไนกี้แม้จะยังสนับสนุนอยู่แต่หากหมดสัญญาก็เตรียมหั่นราคาลงจากเดิมเป็นเท่าตัว
ขณะที่ฟอร์มในสนาม หลังจากเกิดเหตุ เขาไม่ได้แชมป์รายการใดอีกเลยเป็นระยะเวลา 2 ปีครึ่ง สื่อชี้ว่าปัญหาของไทเกอร์คือสมาธิไม่อยู่กับตัว
ไม่ต้องรวมถึงรายการเมเจอร์ ที่เขาไม่เคยได้แชมป์อีกเลย นับตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบันนี้ ดังนั้นสถิติของแจ๊ค นิคลอส กลายเป็นตัวเลขที่เขาไม่มีวันเอื้อมไปถึง
หลังจากกลับมาเล่นดีได้ระยะสั้นๆในปี 2012-13 โชคร้ายก็ยังมาเยือนเขาไม่หยุดหย่อน ไทเกอร์บาดเจ็บอีกหลากหลายครั้ง
ต้องเข้ารับการผ่าตัดเส้นประสาท ถึง 2 ครั้ง , ผ่าตัดแผ่นหลัง และรักษาอาการเจ็บที่ขา ตลอด 3 ปี ได้ลงเล่นรวมกันไม่ถึง 10 รายการ อันดับโลกหล่นลงมาต่ำสุดที่ 1005 ของโลก
จากคนที่รุ่งโรจน์มากๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง กลับร่วงดิ่งไปในพริบตา
ช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ
----------------------------------------
ไทเกอร์ ต้องใช้เวลาอย่างมาก กว่าชีวิตจะค่อยๆกลับมาเข้าที่เข้าทาง
ขั้นแรกเขาต้องบอกความจริงให้ลูกรู้ก่อน เพื่อให้ลูกทั้ง 2 คนได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ที่สำคัญจะได้ไม่ไปโกรธเกลียดแม่
"ผมอยากให้พวกเขาทั้งสองคนได้รู้ ก่อนที่จะถึงวัยเล่นอินเตอร์เน็ตแล้วไปรู้เอง ผมบอกเขาว่า สาเหตุที่พ่อกับแม่ อยู่บ้านเดียวกันไม่ได้อีกแล้ว นั่นเพราะคุณพ่อทำเรื่องผิดพลาดเอง"
หลังจากเวลาผ่านไป เอลิน ก็ค่อยๆลด ความโกรธ ความเกลียด ทั้งคู่กลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอีกครั้ง
"เราจะยังคงมีมิตรภาพที่ดีให้กัน" เอลินเผย "ความสุขของแซม กับ ชาร์ลี คือสิ่งสำคัญที่สุดของเราทั้งคู่"
ปัจจุบัน ไทเกอร์ก็มีเวลาร่วมกับลูกมากขึ้น ขณะที่ชีวิตรักเขาก็มีแฟนใหม่อีก 2 ครั้ง จากลินด์ซีย์ วอนน์ มาสู่คนปัจจุบัน เอริก้า เฮอร์แมน
ส่วนในอาชีพนักกอล์ฟ เขาก็ค่อยๆไต่อันดับโลกกลับมาช้าๆ จากหลักพัน ขึ้นมาอยู่ 668 ในปี 2017 และในปีนี้ ขยับขึ้นมาสูงสุดที่ 88 ของโลก กลับมาติดท็อป 100 อีกครั้ง
ในวัย 42 ปี ไทเกอร์ จะกลับมาติดท็อปเท็นของโลกได้อีกหรือไม่ และจะไปถึงเมเจอร์อีกสักครั้งหรือเปล่า
ก็ยังเป็นคำถามที่ ไม่มีใครตอบได้จริงๆ
----------------------------------------
จากเรื่องราวของไทเกอร์ วูดส์ มีหลายอย่างที่เราสามารถเอาเป็นเครื่องเตือนใจได้
1) ความลับไม่มีในโลก
ไทเกอร์จะปิดบังแนบเนียนแค่ไหน เห็นไหม วันหนึ่งก็ต้องโดนจับได้อยู่ดี
2) ถ้าได้โอกาสแก้ตัวอย่าทำผิดซ้ำ
ตอนที่เอ็นไควเรอร์ไม่แฉไทเกอร์ครั้งแรก เมื่อสวรรค์ให้โอกาสแก้ตัวแล้ว ถ้าเขาหยุดทุกอย่างไว้ตรงนั้น บางทีเรื่องราวอาจจะไม่ถึงขั้นนี้
และ 3) ถ้าชีวิตคุณดีอยู่แล้ว ทุกอย่างสวยงามอยู่แล้ว คิดให้เยอะๆ ก่อนที่จะทำอะไรลงไป
ถ้ามันจะพินาศเพราะคนอื่นทำ ยังพอเข้าใจ
แต่อย่าให้ต้องมาบรรลัย ด้วยมือตัวเอง

ไม่มีความคิดเห็น: