ยิ่งใกล้วันนัดชุมนุมปิดกรุงเทพฯ ของ กปปส.และมวลมหาประชาชน ก็ยิ่งเห็นการดิ้นรนของฝ่ายรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ" และเครือข่าย นปช.ในเชิงต่อต้านและข่มขู่ด้วยวิธีการต่างๆ นานา
ขณะเดียวกันกระแสข่าวการผสมโรงของฝ่ายทหารก็กลับมาหนาหูขึ้นอีกครั้งเช่นกัน หลังจากที่ได้ซาลงไปพักหนึ่งแล้วหลังวันสิ้นปีเก่า
เหตุผลที่อาจเป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร คงไม่พ้นประเด็น: ๑)จาบจ้วงระคายเคืองเบื้องยุคลบาท ๒)ปฏิเสธศาล ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ๓)นำบ้านเมืองเกิดความแตกแยกรุนแรง ๔)ทุจริตคอร์รัปชัน
เมื่อคิดโดยรอบคอบแล้ว ผมเคยเสนอให้สถาบันกองทัพเข้ามาประคับประคองบ้านเมืองก็จริง แต่ไม่ใช่มาทำรัฐประหารเสียเองแบบนี้ อยากให้อยู่ข้างหลังมวลมหาประชาชน หรืออย่างเก่งก็อยู่เคียงข้างเท่านั้นเป็นพอ
เพราะรัฐประหารแบบเก่านั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่า "ได้ไม่คุ้มเสีย" นอกจากนั้นจะกลายเป็นข้ออ้างความชอบธรรมในการต่อต้านของฝ่ายรัฐบาลทรราชและเครือข่ายมวลชนของเขา
รูปแบบที่กองทัพอยู่ข้างหลังมวลมหาประชาชน สามารถทำได้ไม่ยาก อาทิ :
-การนิ่งเฉยไม่ยอมรับคำสั่งรัฐบาลในทุกกรณี
-การกระซิบข้างหูนายกรัฐมนตรีว่า “หมดเวลาแล้ว ขืนอยู่ไม่รับรองความปลอดภัย” “ ท่านออกไปเถอะ จะจัดการดูแลข้างหลังให้ตามควร”
-การเตรียมเครื่องบินพาออกนอกประเทศไปเสียก่อนเหตุการณ์จะรุนแรง
รูปแบบที่กองทัพก้าวมายืนเคียงข้างประชาชน ก็สามารถทำได้เช่น :
-กองทัพบก เรือ และอากาศ แถลงการณ์หนุนการเลื่อนเลือกตั้ง ๒ กุมภาพันธ์ออกไปและจัดให้มีรัฐบาลคนกลางมารักษาการ
-สามเหล่าทัพพร้อมใจกันประกาศตัวสนับสนุนเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนในการเปลี่ยนแปลงประเทศ ปฏิรูปประเทศไทย ในจังหวะที่กรุงเทพฯ ชัตดาวน์ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๗
ขอแค่นี้แหละครับ..(ผม)
*พลเดช ปิ่นประทีป (๑๒/๐๑/๒๕๕๗)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น