PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

โกร่งฟันธง'เศรษฐกิจขาลง' ซึมยาวถึง'62-เห็นใจสมคิด

โกร่งฟันธง'เศรษฐกิจขาลง' ซึมยาวถึง'62-เห็นใจสมคิด 

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นายวีรพงษ์ รามางกูร หรือ "ดร.โกร่ง" นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ที่เคยมีตำแหน่งทางการเมืองในหลายรัฐบาล กล่าวผ่านรายการ "เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์" โดยถอดรหัสการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่เน้นการลดภาษีว่า ตามปกติ นโยบายการกระตุ้นเศรษฐฏิจในช่วงที่ตกต่ำนั้น ควรเป็นนโยบายการเงิน หรือการคลัง หรือผสมกัน ขอเรียนว่า นโยบายของนายสมคิดที่ใช้ "นโยบายการคลัง" ในเวลานี้ ถูกต้องแล้ว ของที่สหรัฐอเมริกาทำเวลานี้ ไม่ถูก นโยบายของไทยถูกต้องกว่า ส่วนข้อจำกัด ก็มีที่ต้องอยู่ในกรอบพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ กรอบนี้ มี 2 ด้านคือ 1.การใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบงบประมาณแผ่นดิน 2.นโยบายลดภาษีอากร จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว 

"ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำผ่านโครงการใด ก็เห็นว่ามีโครงการเล็กๆ มากมาย ที่หน่วยงานต่างๆ สามารถทำได้เลย เจตนาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทางด้านนโยบายการคลัง ทางด้านรายจ่าย ถ้าให้ดี น่าจะทำถนน ลาดยาง จะเป็นสาธารณประโยชน์มากกว่า เพราะสามารถทำได้เร็ว"นายวีรพงษ์กล่าว 

ดร.โกร่ง กล่าวต่อว่า อีกด้านของการกระตุ้นเศรษฐกิจคือ "ลดภาษี" ก็จะล้วงเงินจากประชาชนให้น้อยลง เพื่อให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น เมื่อมีเงินมากขึ้น ก็หวังว่าจะเอาไปใช้จ่ายในการบริโภค หรือการลงทุน แต่ไฮไลท์ในนสพ.เมื่อวันก่อนคือ "แพจเกจกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์" ก็ถือว่าถูกแล้ว เพราะภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จะเริ่มจากอสังหาริมทรัพย์ลงมาก่อน ถือเป็นตัวนำ ที่ส่งสัญญาณเศรษฐกิจขาลง ต่อมาก็คือตลาดหุ้น จากนั้นก็เป็น NPL (หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) หนี้เสียในระบบธนาคาร ซึ่งทราบมาว่าธนาคารก็เตรียมการแล้ว แต่ยังวางใจไม่ได้ 

"ปัญหาอีกอันที่สังคมถามคือ เศรษฐกิจขาลงครั้งนี้ เป็นชั่วคราวหรือถาวร ตัว V ตัว U หรือตัว L ผมค่อนข้างเชื่อว่า จะเป็นตัว U แต่ก้นจะจะอยู่ยาวกี่ปี คิดว่าไม่ต่ำกว่า 5 ปี นับจากปี 2558-2562 เพราะเป็นวัฏจักร ก็จะเป็นขาลง 5 ปี ขาขึ้น 5 ปี ถ้าลงแล้วจะมีบางช่วงเป็นภาพลวงตาว่าจะขึ้น และก็ขึ้นนิดหน่อย จากนั้นก็ลงอีก หุ้นก็จะรีบาวด์นิดหน่อย ก็ลงต่อ เป็นฟันปลา ลักษณะนี้จะมีปัญหามากมายหลายอย่าง อันแรกคือ 1.การจัดเก็บรายได้ของคลัง จะไม่เข้าเป้า 2.ราคาสินค้าต่างๆ ภาคเกษตร-ภาคอุตสาหกรรม จะตกต่ำ การส่งออกจะติดลบ ขยายตัวน้อย หรือไม่ก็หดตัว"ดร.โกร่งกล่าว 

นายวีรพงษ์ กล่าวต่อว่า ที่น่าสังเกตคือ ขณะนี้เราพึ่งพาการท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากจีน ก็ต้องมาดูว่า ท่องเที่ยวจีนจะยั่งยืนหรือไม่ ซึ่งตนได้ข้อมูลมาว่า ที่จีนมาเที่ยวเมืมองไทย เพราะตลาดหุ้นจีนบูมเมื่อ 2 ปีก่อน คนกำไรหุ้นก็มาเที่ยว พอตลาดหุ้นลง ก็จะไม่มา แต่ขณะนี้ตลาดหุ้นจีนกำลังอยู่ในช่วงขาลง วันข้างหน้าก็คาดได้ว่า นักท่องเที่ยวจีนคงจะน้อยลง การส่งออกของจีนก็ลง เวลาเศรษฐกิจลง มันจะไม่สดใส ลักษณะจะเป็นอย่างนั้น เราคงคาดหวังอะไรไม่ได้มาก ตนเห็นใจนายสมคิดที่ต้องทำ เมื่อทำแล้วจะได้ผลมาก-น้อยแค่ไหน ก็ต้องทำ แต่คิดว่าคงไม่ได้ผลอะไรมาก อย่าไปหวังอะไรมาก เมื่อถามว่า สิ่งที่นายสมคิดทุ่มเท ถ้าจะได้ก็แค่ "มายาภาพ" ช่วงสั้นๆ ดร.โกร่ง ตอบว่า "อย่าใช้คำว่า 'มายาภาพ' เลย ถ้าเผื่อมันจะมีรีบาวด์บ้าง ก็เป็น 'มายา' อย่างที่ว่า"“

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/economic/354262

ไม่มีความคิดเห็น: