คณะกรรมการด้านความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์ได้เสนอผลการสอบสวนสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ตกว่าเป็นผลมาจากการถูกยิงโดยจรวด Buk ซึ่งผลิตในรัสเซีย
เที่ยวบิน MH17 ตกที่ยูเครนเมื่อปีที่แล้ว ผู้ที่อยู่บนเครื่อง 298 คน เสียชีวิตทั้งหมด เครื่องบินลำดังกล่าวตกในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายกบฏในยูเครน ขณะเกิดเหตุเที่ยวบิน MH17 กำลังเดินทางจากอัมสเตอร์ดัมไปยังกัวลาลัมเปอร์ บนเครื่องมีชาวเนเธอร์แลนด์รวมอยู่ด้วยจำนวน 193 คน
ชาติตะวันตกและยูเครนระบุว่ากลุ่มกบฏที่รัสเซียหนุนหลังยิงเครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำดังกล่าว แต่รัสเซียอ้างว่าจรวดที่ใช้ยิงนั้น ยิงมาจากบริเวณที่อยู่ภายใต้การปกครองของยูเครน
ทั้งนี้ รายงานฉบับนี้ไม่พูดถึงประเด็นที่ว่าใครเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ระบุว่าควรปิดน่านฟ้าในบริเวณดังกล่าว
คณะกรรมการด้านความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์ ได้แจ้งให้บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตทราบว่า ผู้เสียชีวิตหมดสติเกือบจะทันทีที่เกิดเหตุ
นายเชบเบอร์ เยาสตรา ประธานคณะกรรมการฯ เปิดเผยว่าหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ชี้ว่าจรวด BUK ชนิดยิงจากพื้นสู่อากาศได้ระเบิดออกในระยะห่างจากห้องนักบินประมาณ 1 เมตร โดยพบชิ้นส่วนระเบิดที่กระจายกลางอากาศทั้งในร่างของนักบินและซากเครื่องบิน
นายเยาสตรากล่าวด้วยว่าหลังจากนั้นเครื่องบินได้แตกออกเป็น 3 ส่วน ซากเครื่องบินและร่างผู้เสียชิตถูกแรงระเบิดทำให้กระจัดกระจายไปเป็นรัศมี 55 ตารางกิโลมตรทางตะวันออกของยูเครน #MH17
(ภาพซากเครื่องบินที่นำมาใช้ประกอบการแถลงผลการสอบสวน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น