PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

'ผบ.ตร.'เปลี่ยน'โฆษกตร.' จาก'ประวุฒิ'สู่'เดชณรงค์' | เดลินิวส์


„เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 595/2558 ลงวันที่ 26 ต.ค. 2558 เรื่องแต่งตั้งโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ดังนี้.. 1.พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา เป็นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2.พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เป็นรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3.พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เป็นรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 4.พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย เป็นรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 5.พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ เป็นรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 6.พ.ต.ท.ปองพล เอี่ยมวิจารณ์ เป็นรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 โดยมีอำนาจหน้าที่.. 1.ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ แถลงข่าว และชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่ราชการในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนการปฏิบัติภารกิจเฉพาะเรื่องตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมอบหมาย 2.ปฏิบัติตามกฏหมาย ระเบียบ และคำสั่งเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในส่วนที่เกี่ยวข้อง 3.การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ สามารถเชิญผู้แทนหน่วย หรือข้าราชการตำรวจจากทุกหน่วยงานมาให้ถ้อยคำหรือชี้แจงข้อเท็จจริงตามเอกสารหลักฐาน หรือให้ส่งเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณา ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม 4.การขอใช้กำลังพล งบประมาณ เครื่องมือเครื่องใช้ เพื่อให้การปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่สัมฤทธิ์ผล ให้พิจารณาเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามเหตุผลความจำเป็น 5.ข้าราชการตำรวจทุกหน่วยให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งนี้ และถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะรับผิดชอบร่วมกัน ในอันที่จะให้การดำเนินการสัมฤทธิ์ผล ตามความมุ่งหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

ทั้งนี้ ให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ขัดแย้งกับคำสั่งนี้ และให้ใช้คำสั่งนี้แทน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป.

 มีรายงานว่า ขณะนี้ทาง พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ได้ลาพักร้อนเดินทางไปต่างประเทศ“

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/crime/356913

ไม่มีความคิดเห็น: