PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ฑูตสหรัฐแจงปมการแสดงความเห็นกม.ไทย


http://www.matichon.co.th/online/2015/11/14488647731448864936l.jpg

(30 พ.ย.58) นายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และนางคริสติน่า คาวิน ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจ ได้แถลงข่าวเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและประเทศไทย

นายกลินกล่าวถึงการเดินทางเยือนทวีปเอเชียครั้งที่ 9 ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยระบุว่าแสดงถึงความตั้งใจของสหรัฐในการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับภูมิภาคนี้ ซึ่งมีเวทีพหุภาคีที่สำคัญ ทั้งเอเปคและอาเซียน ซึ่งไทยมีบทบาทนำในทั้งสองเวทีความร่วมมือ และอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เชื่อมโยงกับหลายประเทศ ซึ่งในปีนี้ สหรัฐกับอาเซียนตกลงจะพัฒนาความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์ เพื่อพัฒนาการต่อต้านการก่อการร้าย รวมถึงการหารือถึงความมั่นคงในน่านน้ำที่เกี่ยวข้อง และการพัฒนาด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อให้ประชาชนในภูมิภาคได้แสดงออกอย่างเต็มประสิทธิภาพด้วย

โดยในขณะนี้ประธานาธิบดีโอบามาอยู่ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 21 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสหรัฐ ยินดีที่หลายประเทศ รวมถึงไทย ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว โดยจะผลักดันให้เกิดความตกลงเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอนในระยะยาว ผ่านการมีข้อเสนอเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับประเทศต่างๆ และให้ความช่วยเหลือประเทศยากจน ซึ่งไทย ในฐานะประธานกลุ่ม 77 ถือว่ามีบทบาทสำคัญในปีนี้ด้วย

ในประเด็นความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ "ทีพีพี" นั้น นายกลิน กล่าวว่าเป็นความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในอนาคต ที่มีการกำหนดมาตรฐานสูงสำหรับประเทศที่จะเข้าร่วม ให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน การดูแลสิ่งแวดล้อม ความโปร่งใสในภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ การบังคับใช้กฎหมายด้านสิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปัญญา และการใช้อินเตอร์เน็ตอย่างเสรี ทั้งนี้นอกจากจะเป็นการลดอัตราทางภาษีสำหรับด้านการค้าแล้ว ยังเป็นเป็นการพัฒนาคุณภาพและสิทธิประโยชน์ของแรงงานและผู้บริโภคด้วย

โดยเรื่องนี้ สหรัฐยินดีที่ไทยแสดงความสนใจในการเข้าร่วมกับทีพีพี และหากมีการแสดงความจำนงอย่างเป็นทางการก็พร้อมจะช่วยเร่งประสานในเรื่องของกระบวนการ อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนในขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารับรองของชาติสมาชิก 12 ประเทศ ดังนั้น การเปิดรับสมัครสมาชิกเพิ่มนั้นอาจยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ จึงถือว่าไทยมีเวลาในการพิจารณาข้อตกลงว่าจะเป็นประโยชน์กับไทยหรือไม่

เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ  กล่าวด้วยว่า ในข้อกังวลเรื่องสิทธิบัตรยาของทีพีพีที่อาจทำให้ราคายาแพงขึ้นนั้น ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของไทยจะเข้าร่วมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมทางเภสัชกรรมของไทยถือว่ามีการพัฒนาอย่างมาก และข้อตกลง ทีพีพี นั้น เกิดขึ้นจากการตกลงร่วมกันระหว่างชาติสมาชิก 12 ประเทศ ซึ่งต่างเห็นตรงกันว่าเป็นประโยชน์ โดยประเทศไทยสามารถพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบได้ก่อนจะตัดสินใจ

ส่วนอุปสรรคของไทยในการเข้าร่วมทีพีพีนั้น นายกลิน กล่าวว่า ในข้อตกลงมีมาตรฐานที่สูงในหลายหัวข้อ ซึ่งรวมถึงด้านแรงงาน ที่ไทยต้องปฏิบัติตามด้วย อย่างไรก็ตาม การที่ไทยถูกจัดให้อยู่ใน เทียร์3 ในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ รวมถึงสถานการณ์การเมืองในไทยนั้น ไม่มีผลกระทบต่อการเข้าร่วมทีพีพีของไทยแต่อย่างใด

นอกจากนี้ นายกลิน ยังกล่าวย้ำด้วยว่าข้อตกลงทีพีพี ไม่ใช่การแข่งขันการมีอิทธิพลในภูมิภาคระหว่างสหรัฐกับจีน และสหรัฐยินดีที่ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน ซึ่งความสัมพันธ์ไทยกับสหรัฐนั้น ก็มีความผูกพันมาอย่างยาวนานและลึกซึ้ง ตนจึงไม่เคยรู้สึกว่าได้เสียประเทศไทยไปในฐานะพันธมิตร แต่สิ่งที่สหรัฐหวัง คือให้ไทยกลับมามีบทบาทสำคัญในภูมิภาคและในโลกอีกครั้ง ซึ่งการทำเช่นนั้นได้ ต้องให้ไทยกลับสู่ประชาธิปไตยได้ตามที่รัฐบาลประกาศ ซึ่งตนคาดหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นได้ เพราะไทยเคยแสดงให้เห็นในอดีต ว่าสามารถแสดงปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจมาได้หลายครั้ง

ทูตสหรัฐ ยังกล่าวถึงกรณีที่ได้แสดงความคิดเห็น ถึงการบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าตนได้แสดงความเห็นเนื่องจากต้องการเห็นคนไทยสามารถมีเสรีภาพในการแสดงความเห็นอย่างสงบได้ในทุกประเด็นเท่านั้นซึ่งสหรัฐคงไม่มีการหารือในประเด็นนี้อีก

ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การแสดงความเห็นนี้อาจกระทบกับการค้าระหว่าง 2 ประเทศ นั้น ทูตสหรัฐ ระบุว่าขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการค้ากับการเมืองนั้นไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ส่วนตัว ตนมีความเคารพต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างมาก และได้ประดับพระบรมฉายาลักษณ์ ที่ทรงฉายพระรูปร่วมกับนายเอลวิส เพรสลี่ย์ ไว้ที่บ้านด้วย เนื่องจากแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ยาวนานของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ตนจะเข้าร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อด้วย แต่อาจปั่นได้ไม่ครบทั้งหมดเพราะไม่ค่อยได้ฝึก

ไม่มีความคิดเห็น: