PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ด่วน!! ทหารล็อกแล้ว"ตู่-เต้น"ที่ตลาดมหาชัย ก่อนไปอุทยานราชภักดิ์



วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 13:57 น.ข่าวสด
จำนวนคนอ่านล่าสุด 196558 คน
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 09.30 น. วันที่ 30 พ.ย. นายสมหวัง อัสราษี รองประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้เดินทางมาถึงตลาดมหาชัยเมืองใหม่ เพื่อรอนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. และนายณัฐวุฒิ เลขาธิการนปช. ก่อนเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

 จากนั้นเวลา 10.15 น. นายณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์ก่อนเคลื่อนขบวน โดยย้ำว่าจะไปสักการะและสังเกตการณ์เท่านั้น ไม่มีเจตนาเล่นเกมการเมือง ขอเรียกร้องเจ้าหน้าที่ทหารที่เฝ้าบริเวณหน้าบ้านให้ถอนกำลังออกจากพักของตน ยืนยันว่าการเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ เป็นประโยชน์เพราะมีประชาชนมีส่วนร่วมช่วยรัฐบาลตรวจสอบ หลังจากมีความไม่ชัดเจน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.25 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าเชิญตัวนายณัฐวุฒิและนายจตุพร พร้อมคณะ ขึ้นรถตู้จากตลาดมหาชัยเมืองใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้แจ้งว่าห้ามจัดกิจกรรมดังกล่าว คาดว่าเจ้าหน้าที่ทหารจะนำตัวกลุ่มแกนนำทั้งหมด ไปที่กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) จ.กาญจนบุรี 




   ณัฐวุฒิเจอทหารเฝ้าบ้าน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 พ.ย.  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่า "ผมจะไปอุทยานราชภักดิ์ พอข่าวออกไปงานก็เข้า ตั้งแต่ตีห้าวันนี้ รถทหาร 4 คันมาที่บ้าน ตอนนี้ก็ยังวางกำลังอยู่ริมถนนหน้าหมู่บ้าน 4 คน ป้อมยาม 8 คน ศาลพระภูมิ 6 คน จอดรถหน้าบ้าน 1 คัน ทำไมท่านใช้อำนาจกันแบบนี้ ให้รู้กันไปว่าการถามหาความจริงต้องมีอันตราย ผมยืนยันนะครับ จะเอายังไงกับผมก็เอา แต่...ผมจะไปอุทยานราชภักดิ์"

 ต่อมา นายณัฐวุฒิได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพทหารพร้อมรถจี๊ปมาจอดหน้าบ้านว่า "มากันตั้งแต่ตีห้า ท่าทีเหมือนเตรียมปักหลักค้างคืน พูดกันแบบผู้ชายนะครับ มีอะไร คุณมาว่ากับผม ลูกเมียผมไม่เกี่ยว ผมเป็นผมแบบนี้ พรุ่งนี้ผมจะไปอุทยานราชภักดิ์"

จี้รบ.เปิดกว้างอย่าสกัดขัดขวาง

   นายณัฐวุฒิยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พ.อ. วินธัยตั้งคำถามว่าเหตุใดสนใจแต่กรณีทุจริตอุทยานราชภักดิ์ โดยไม่แสดงท่าทีต่อเรื่องอื่นว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องเลวร้าย ไม่ว่าโดยใครต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เรื่องอุทยานราชภักดิ์ทั้งที่รมช.กลาโหมสารภาพต่อสังคมว่ามีการหักค่าหัวคิว ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว กลับพบท่าทีของฝ่าย ผู้มีอำนาจเหมือนพยายามปกปิดความจริง เพื่อช่วยเหลือผู้กระทำความผิดหรือไม่ จึงต้องเรียกร้องความโปร่งใสของกระบวนการตรวจสอบ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ทั้งนี้การเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ไม่ได้มีเป้าหมายทางการเมือง แต่เป็นเพียงการไปดูสถานที่จริง เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามเรื่องนี้ รัฐบาลควรแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการเปิดกว้างให้สังคมมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ไม่ใช่สกัดขัดขวางเหมือนที่กำลังเป็นอยู่ขณะนี้

ไม่มีความคิดเห็น: