PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ประกาศขายกอจการบิ๊กซี

ประกาศขาย บิ๊กซี แล้ว!

วงการค้าปลีกไทยกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!

ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Big C คือ กลุ่ม Casono Group ของฝรั่งเศส ประกาศเมื่อ 15 ธันวาคม 2558 ในตลาดหุ้นฝรั่งเศสว่าจะขายกิจการและทรัพย์สิน หรือ การหาพาร์ตเนอร์ของกิจการค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ในไทย เวียดนาม และ โคลัมเบีย รวมมูลค่าประมาณ 2 พันล้านยูโร เพื่อนำไปจ่ายคืนหนี้จำนวนมหาศาลของบริษัท นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขายอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่นๆที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักออกไปเพื่อระดมเงินสดอีกด้วย 

ใน press release ของบริษัทแม่ไม่ได้ระบุว่าการขายทรัพย์สินหรือหาผู้ร่วมทุนในครั้งนี้ จะคิดเป็นสัดส่วนมากน้อยแค่ไหน

ข่าวการประกาศขายกิจการและการหาผู้ร่วมลงทุนเมื่อคืนนี้ ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทแม่ของ BIGC (Casino Guichard Perrachon SA CO:FP) เด้งขึ้นมาถึง 6.47% ภายหลังที่ราคาหุ้นร่วงตกต่ำ มาเป็นเวลานาน

งานนี้ก็น่าคิดเหมือนกันครับว่า ธุรกิจค้าปลีกในหลายประเทศได้ผ่านยุครุ่งเรืองถึงขีดสุดมาแล้ว เช่นเดียวกับกรณีของกลุ่มเทสโก้ของประเทศอังกฤษ ที่มีแผนที่จะขายกิจการในประเทศต่างๆ (ซึ่งอาจรวมถึง เทสโก้โลตัส ในไทย) เพื่อเอาเงินมาชำระหนี้ เพราะกิจการในประเทศแม่ประสบกับภาวะขาดทุนต่อเนื่อง

งานนี้เชื่อว่า อภิมหาเศรษฐีไทย คงต้องมีการออกมาเต้น เพื่อแข่งขันสู้ราคาช่วงชิงกิจการของบิ๊กซีในประเทศไทยอย่างแน่นอน!

โอกาสแก้ตัวกลับมาอีกครั้ง
หากยังจำกันได้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่ คาฟูร์ ประกาศขายกิจการในเมืองไทย มีกลุ่มเศรษฐีไทยหลายเจ้ารวมถึงกลุ่ม BJC ของคุณเจริญ เข้าร่วมประมูลซื้อกิจการในครั้งนั้นด้วย แต่การแข่งขันจบลงด้วยความพ่ายแพ้เพราะไม่สามารถสู้ราคาของผู้ชนะ ซึ่งก็คือกลุ่มคาสิโนกรุ๊ปของฝรั่งเศสนั่นเอง ทำให้ BJC ต้องหันหัวเรือเบนเข็มออกไปหาซื้อร้านค้าปลีกที่ประเทศเวียดนามแทน 

ในครั้งนี้กลุ่ม BJC อาจมีโอกาสได้แก้ตัวอีกครั้ง ซึ่งอาจเทียบได้กับการซื้อบิ๊กซีและคาร์ฟูไปในคราวเดียวกันเลย และยิ่งถ้าเทสโก้ท้ายที่สุดตัดสินใจประกาศขายกิจการในเมืองไทยด้วย ผู้ซื้ออาจมีอำนาจต่อรองมากขึ้น เพราะมีผู้ขายรายใหญ่มากกว่า 1 ราย 

สมรภูมิเดือด
แต่ไม่ว่ากลุ่มเศรษฐีไหนจะได้สัดส่วนของบิ๊กซีไปในครั้งนี้ จะคุ้มค่าหรือไม่ อยู่ที่ว่าต้องจ่ายแพงแค่ไหน! 

หากผู้ชนะต้องจ่ายเงิน หรือกู้เงินจำนวนมหาศาล และในระยะยาวหากธุรกิจค้าปลีกเข้าสู่ขาลงเหมือนในหลายประเทศ ชัยชนะ ในวันนี้อาจกลายเป็นภาระหนี้อันหนักหน่วงในวันหน้า เช่นเดียวกับชะตากรรมที่เกิดขึ้นกับบริษัทแม่ที่ฝรั่งเศสและอังกฤษก็เป็นได้ 

เพราะฉะนั้นกุญแจสำคัญ คือ ราคาที่ซื้อต้องไม่แพงเกินความคุ้มค่าครับ

ติดตามศึกช้างชนช้างค้าปลีกไทยได้ ปีหน้าหนุกแน่นอน

อ้างอิง http://www.groupe-casino.fr/en/commu...-e2bn-in-2016/

ไม่มีความคิดเห็น: