PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คสช.สั่งทหาร ลงพื้นที่ ทำความเข้าใจ การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล เน้นการเป็น “ประชารัฐ”


คสช.สั่งทหาร ลงพื้นที่ ทำความเข้าใจ การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล เน้นการเป็น “ประชารัฐ” ที่ประชาชนต้องเข้าใจในสิทธิ เสรีภาพและหน้าที่ เดินหน้าบังคับใช้กม. จัดระเบียบสังคม พร้อมจับมือทุกภาคส่วนร่วมดูแลประชาชน ฉลองปีใหม่ อย่างปลอดภัยและมีความสุข บิ๊กอู๊ด พลเอกวลิต อยู่โยง ประชุมแทน บิ๊กหมูที่ลงใต้ กับ รมว.กห.
พลเอก วลิต โรจนภักดี รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
โดยได้ให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกัน ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๙ โดยเฉพาะมาตรการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อมอบเป็นของขวัญวันปีใหม่ และให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัยและมีความสุข
โดยมอบหมายให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด ในการตั้งจุดบริการประชาชนตลอดเส้นทางสายหลัก
สำหรับถนนสายรองให้มีการประสานกับทางหลวงชนบทและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำสัญลักษณ์เตือนและบอกเส้นทางให้เกิดความปลอดภัยในการสัญจร
ในขณะเดียวกันให้ทุกส่วนเดินหน้าสร้างการรับรู้ และความเข้าใจให้กับประชาชน ในแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล เน้นเรื่องการเป็น “ประชารัฐ” ที่ประชาชนต้องเข้าใจในสิทธิ เสรีภาพและหน้าที่
ขณะนี้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ และกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันลงพื้นที่ชี้แจงสถานการณ์น้ำ มาตรการการช่วยเหลือจากภาครัฐ การปลูกพืชใช้น้ำน้อย และมาตรการประหยัดน้ำ โดยในภาคกลางได้ลงพื้นที่แล้ว ๙๘๘ หมู่บ้านใน ๘ จังหวัด
ส่วนภาคอีสาน เข้าชี้แจงแล้ว ๔๒ อำเภอ ส่วนในภาคเหนือได้ชี้แจงใน ๑๐ จังหวัด ๕๐ หมู่บ้าน และในภาคใต้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และพังงา ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจและให้ความร่วมมือกับมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เข้ารับฟังความเดือดร้อนของประชาชนด้วย
นอกจากนี้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้ร่วมกับตำรวจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายและการจัดระเบียบสังคม เช่น การเข้าตรวจสอบซ้ำในมาตรการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กทม., การจัดกำลังร่วม ๓ ฝ่าย กวาดล้างอาชญากรรมและสิ่งผิดกฎหมายใน ๙ จังหวัดภาคอีสาน พบการกระทำความผิดในคดีเงินกู้นอกระบบ และการเข้าตรวจค้นและจับกุมแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ก่อสร้างเขตพญาไท กทม., การเข้าดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมสวนปาล์มในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีและกระบี่
สำหรับการจัดระเบียบการรุกล้ำลำคลองสาธารณะ ซึ่งรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีแผนดำเนินการในหลายพื้นที่ เพื่อดูแลแหล่งนำ้สาธารณะให้เกิดประโยชน์
ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ล่าสุดกำลังดำเนินการที่ คลองลาดพร้าว กทม.โดยมีการจัดประชุมหารือกับทุกส่วนที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจและสร้างการรับรู้ของประชาชนในพื้นที่
พลเอกวลิต รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้เร่งรวบรวมสภาพปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนในด้านต่างๆ เพื่อเข้าสู่การแก้ไขอย่างเป็นระบบ
การประชุมในวันนี้มีการสรุปผลการปฏิบัติงานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ยังคงสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย ยาเสพติด ป่าไม้ อาวุธ การพนัน รวมทั้งสร้างสภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง สามารถจับกุมยาเสพติด ๒๐ ครั้ง ยึดยาบ้า ๗๔๒,๔๘๐ เม็ด, ไอซ์ ๔๓ กรัม, กัญชา ๖๗๒ กรัม, ไม้มีค่า ๑๗๓ ท่อน ไม้มีค่าแปรรูปอีก ๓๖ แผ่น และจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธ ได้อาวุธปืน ๒๓ กระบอก, เครื่องกระสุน ๑๗๔ นัด ส่วนการทำงานของศูนย์ดำรงธรรมในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนประชาชน สามารถคลี่คลายปัญหาต่างๆได้ร้อยละ๙๒ ของเรื่องร้องทุกข์
สำหรับการช่วยเหลือประชาชนยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อาทิ การพัฒนาสถานที่สาธารณะประโยชน์ การก่อสร้างฝายป้องกันน้ำแล้งใน จ.สกลนคร ๑๖๖ แห่ง ซึ่งเกษตรกรได้รับประโยชน์ ๑๕,๐๘๕ ครัวเรือน ส่วนการขุดลอกแหล่งน้ำ ๑๖๔ แผนงาน เพื่อกักเก็บน้ำฝนทั่วประเทศ ปัจจุบันมีความคืบหน้าร้อยละ ๙๖.๙ 
///
ที่มาเพจ วาสนา นาน่วม

ไม่มีความคิดเห็น: