3 เม.ย. 62 รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า ฝ่ายผู้มีอำนาจคงไม่อาจหาเรื่องล้อมปราบฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายอย่างในอดีต เพราะยุคนี้มีสื่อออนไลน์ที่ฝ่ายผู้มีอำนาจไม่สามารถควบคุมข้อมูลข่าวสารให้เป็นไปตามที่ต้องการได้อีกต่อไป และแม้ดึงดันจะทำให้ได้สุดท้ายย่อมขาดความชอบธรรม ดังนี้
“การล้อมปราบด้วยกำลังจะทำได้และมีแรงต่อต้านน้อยต้องมีการปิดล้อมทางการเมืองเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นก่อน คือฝ่ายที่ถูกปราบตกเป็นฝ่ายรับและถูกโดดเดี่ยวในประเด็นการเมือง แต่การปิดล้อมทางการเมืองดังว่าจะทำได้ต้องอาศัยการปิดล้อมทางข่าวสารก่อน ด้วยการสร้างข้อมูลเท็จ ด้านเดียว ข่าวลือ ข้อกล่าวหาเลื่อนลอย สร้างกระแสปลุกอารมณ์หวาดกลัวเกลียดชังสุดขั้ว ขณะที่ฝ่ายที่ถูกกระทำไม่มีช่องทางสื่อสารตอบโต้ จนกระทั่งสังคมยืนนิ่งเฉยขณะที่การปราบปรามดำเนินไปจนสำเร็จ ตัวอย่างคือเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 และการปราบเสื้อแดงปี 53”
“หลังเลือกตั้ง 62 พวกเขาตกเป็นฝ่ายรับทางการเมืองในประเด็นผลการเลือกตั้ง จึงหาทางรุกกลับด้วยการปั่นกระแสล้มเจ้า ภัยความมั่นคง ฯลฯ เป็นขั้นแรกของการปิดล้อมทางข่าวสาร ตามด้วยข้อหาการเมือง แต่วันนี้ รัฐไม่ได้ผูกขาดช่องทางสื่อสารเด็ดขาดเหมือนอดีต ปฏิบัติการข่าวสารของรัฐได้ผลน้อยลง รัฐควบคุมสื่อทางเลือกได้น้อยกว่าสื่อหลัก ทั้งเทคโนโลยี ลักษณะองค์ประกอบของผู้เสพสื่อที่เปลี่ยนไปจากอดีต คนจำนวนมากขึ้น ๆ ไม่พร้อมที่จะเชื่ออะไรก็ได้ที่รัฐโยนให้”
“พวกเขาอาจขืนดันทุรังไปถึงการปราบทางการเมืองจนได้แต่เปลือก ความชอบธรรมที่หวังจะได้จากการเลือกตั้งนั้นไม่มีอีกต่อไป”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น