PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2562

บิ๊กแดงแจงสื่อนอกเชื่อวุ่นวายกฏอัยการศึกเอาอยู่

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 เม.ย.2562 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เชิญสื่อต่างประเทศประจำประเทศไทยมาร่วมพูดคุยถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลทหารสู่รัฐบาลระบอบประชาธิปไตย โดยสำนักข่าวที่ได้รับเชิญในครั้งนี้ ประกอบด้วย CNN, EPA, Japanese News Agency, BBC, เกียวโด จากญี่ปุ่น, AFP, reuters, ABC Australia, CNA Singapore และ NHK โดยมีเนื้อหาคล้ายคลึงกับการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่มีตอนหนึ่งที่พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวถึงการเมืองไทยในปัจจุบันว่า เราผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว จะเป็นอย่างไรก็ตาม กองทัพบก และทหารจะต้องวางตัวเป็นกลาง ตนเข้ามาเป็น ผบ.ทบ.มีจุดยืนของตัวเอง ไม่ได้ให้ใครเข้ามาควบคุม ตนอยู่ในกฎระเบียบกติกา กองทัพไม่เกี่ยวกับรัฐบาล และไม่ก้าวก่ายการเมือง ในหมู่ทหารมีทั้งดีและไม่ดี เช่นเดียวนักการเมือง ส่วนผลการเลือกตั้งรอให้กกต.ประกาศเป็นทางการ ทุกอย่างมีไทม์ไลน์ ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาผลักดันและตนไม่รู้ว่าใครจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต กองทัพไม่เข้าไปเกี่ยวทั้งสิ้น ตนยอมไม่ได้ที่จะให้คนไทยออกไปต่อสู้กันบนถนนอีกแล้ว 

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า สถานการณ์หลังการเลือกตั้งจะมีทางออกหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ทางออกก็คือทุกคนต้องยอมรับกติกาให้เป็นไปตามขั้นตอนก็คือกกต.ประกาศผลการเลือกตั้งทางการวันที่ 9 พ.ค. ถามว่าทำไมต้องเป็นวันที่ 9 พ.ค. ก็เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบต่องานพระราชพิธีสำคัญของคนไทย ถ้าประกาศก่อนขั้นตอนอื่นๆก็จะตามมา แต่หากประกาศผลเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค.ก็คือผ่านพ้นงานพระราชพิธีไปแล้ว ทุกวันนี้นายกรัฐมนตรีพยายามควบคุมให้ทุกอย่างเป็นธรรม ส่วนจะแฟร์หรือไม่ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กติกา แต่อยู่ที่ตัวบุคคล เมื่อมีการเลือกตั้ง คนแพ้ไม่พอใจก็หาเรื่อง แต่ถ้าคุณจัดตั้งรัฐบาลจะแก้รัฐธรรมนูญ แก้กฎหมาย ก็ไปทำกันในรัฐสภา ส่วนทหารไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด การทำให้เกิดสภาพเช่นนี้ ทุกฝ่ายไม่สบายใจกันหมด

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวถึงจุดยืนเรื่องรัฐประหารว่า  ปัจจุบันการทำรัฐประหารไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ขณะนี้รัฐบาลก็เดินไปได้ดีและนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งตนหวังว่าคนไทยจะไม่ต้องออกมาประหัตประหารต่อสู้กัน ซึ่งตนเคยผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาตั้งแต่สมัยของบิดาของตนจนมาถึงสมัยตนเอง เมื่อมีคนมาต่อสู้กันบนถนนคนที่เรียกตัวเองว่านักประชาธิปไตย นักการเมืองก็หอบลูกเมียไปอยู่ต่างประเทศ เขาไปนั่งดูอยู่ที่ต่างประเทศ และดูว่าเมื่อไหร่ประเทศไทยจะสงบแล้วก็กลับมา ส่วนคนที่อยู่ก็ต้องสูญเสีย ทั้งทหารและประชาชน  ซึ่งคนที่เสียชีวิตก็ไม่ได้มีหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค คนมีเงิน หรือคนมีชื่อเสียง

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ต้องเข้าสู่สภาวะไหนถึงจะตัดสินใจยุติปัญหาด้วยการรัฐประหาร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ต้นเหตุของการเกิดรัฐประหารในทุกยุคทุกสมัยแตกต่างกัน ซึ่งไม่ได้เกิดจากฝ่ายการเมืองเสมอไป แต่การทำรัฐประหารสิ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดคือประเทศไม่มีใครควบคุมได้รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ รวมถึงตำรวจมีการใช้อาวุธ มีคนออกมาต่อสู้ประชาชนล้มตาย ถามว่าเมื่อถึงตรงนั้นกองทัพจะยืนอยู่ตรงไหน จะให้ยืนดูประชาชนต่อสู้กันจนเกิดสงครามการเมืองหรือไม่การใช้กองกำลังทหารเข้าควบคุมก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการปฏิวัติรัฐประหาร ทุกอย่างมีขั้นตอนของตัวเอง ซึ่งอาจเกิดความวุ่นวายขั้นตอนแรกก็คือตำรวจมีหน้าที่โดยตรงในฐานะเจ้าพนักงานต้องเข้าไปควบคุม และถ้าบานปลายก็เป็นตำรวจอีกเช่นกัน ส่วนไปการประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อประกาศแล้วก็ต้องพิจารณาดูว่าดีพอหรือไม่ ซึ่งอาจจะถึงขั้นแค่ประกาศกฎอัยการศึกเท่านี้ ก็น่าจะแก้ไขได้แล้ว


ไม่มีความคิดเห็น: