PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2562

'วงจรอุบาทว์การเมืองไทย' จะหลุดพ้นได้หรือ?

'วงจรอุบาทว์การเมืองไทย' จะหลุดพ้นได้หรือ?


  

“ลุยเลยครับ หนุ่มสาวทั้งหลาย เพราะหลังจากนี้ สังคมนี้คือชีวิตของพวกมึง รุ่นของกูพ่ายแพ้ต่อพวกมันอย่างยับเยินมานานแล้ว พวกมึงทำอะไรได้ก็ทำไป  ขออย่างเดียว อย่ารวมกันออกมาบนท้องถนนแบบที่คนรุ่นกูทำไว้ กูบอกไว้เลย ถนนคือกับดักที่จะผลักเราทุกคนกลับไปสู่วังวนเผด็จการด้วยข้ออ้างเดิมๆ ของพวกมัน นั่นก็คือ “ความสงบ” เป็นคำกล่าวของ “ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค” ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง โพสต์ลงอินสตาแกรมส่วนตัวในชื่อ yuhtlerd เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2562 ต่อกรณีที่มีกลุ่มนิสิตนักศึกษาตั้งโต๊ะล่ารายชื่อถอดถอน กกต.
    มันชวนให้เราย้อนคิดกลับไปตั้งแต่การรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 จนถึงการรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 เป็นสองครั้งที่ทำให้คนไทยไม่เชื่อว่าเมืองไทยจะไม่มีการรัฐประหารอีกแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเรามีรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน จนหลายคนเชื่อว่าจะไม่มีรัฐประหารอีก สุดท้ายรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่นำโดย “ทักษิณ ชินวัตร” ที่มีอำนาจเต็มที่ ก่อเกิด “ระบอบทักษิณ” ส่งผลเกิดวิกฤติการเมืองที่ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ออกมาขับไล่ นำมาสู่การรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ในที่สุด
    ต่อมาในปี 2556 ยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นนายกฯ ก็ได้ก่อวิกฤติอีกครั้งในสภาผู้แทนราษฎร ด้วยการผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่งหรือสุดซอย ที่จะล้างความผิดทางการเมืองทุกกรณีที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองยุคเสื้อเหลือง-เสื้อแดง ซึ่งรวมไปถึงการล้างคดีของ “ทักษิณ ชินวัตร” ให้เป็นผู้บริสุทธิ์ด้วย นำไปสู่การเคลื่อนไหวขับไล่ของกลุ่ม “กปปส.” จนเกิดการรัฐประหาร 22 พ.ค.2557
    รัฐบาลของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ และหัวหน้า คสช. ปกครองประเทศมายาวนานตั้งแต่การรัฐประหาร 2557 ครั้งนั้น และจะปกครองประเทศต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่จากผลการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 “พรรคพลังประชารัฐ” ที่เสนอให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อไป ได้คะแนนเสียง Popular Vote จากการเลือกตั้งครั้งนี้มากที่สุด กลายเป็นเครื่องมืออ้างอิงที่จะขอเป็นรัฐบาลต่อไป ขณะที่ “พรรคเพื่อไทย” ชนะได้คะแนนเสียง ส.ส.มากที่สุด ก็อ้างความชอบธรรมตามกฎหมายที่จะเป็นรัฐบาล
    ขณะที่เหตุของการล่ารายชื่อถอดถอน กกต. มาจากความไม่ไว้วางใจของประชาชน ที่ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีหลายเหตุการณ์ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเกิดความข้องใจว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งอย่างมาก ซึ่งมีทั้งการแชร์ข้อมูลเบาะแสต่างๆ ในสื่อโซเชียลมีเดีย และการเข้าร้องเรียนของผู้สมัคร ส.ส.พรรคต่างๆ ต่อ กกต. กรณีพบความผิดปกติในเขตเลือกตั้งพื้นที่ของตนเอง ทั้งความผิดของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย และความผิดของผู้สมัคร โดยกลุ่มที่ทำการล่ารายชื่อถอดถอน กกต.นั้น ยังมี “กลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม” หรือเดิมคือกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ก็ได้ทำกิจกรรมตั้งโต๊ะล่ารายชื่อจนเหมือนเป็นการชุมนุมย่อยๆ ตามที่สาธารณะด้วย
    สำหรับผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการที่จะออกในวันที่ 9 พ.ค.2562 จนไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ที่ใครๆ ก็คาดการณ์กันว่า ฝ่ายพรรคเพื่อไทยแม้จะมีเสียง ส.ส.ที่มากกว่า แต่ก็ยากที่จะตั้งรัฐบาลได้ เพราะยังมีด่าน 250 ส.ว. ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ในฐานะหัวหน้า คสช. แต่งตั้งมาเอง คงพร้อมที่จะโหวตให้ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกฯ ต่อไปแน่นอน พรรคพลังประชารัฐจะเป็นรัฐบาลที่อาจจะมีเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรก็เป็นได้ ถ้ารวมเสียง ส.ส.งูเห่า ได้น้อยกว่าขั้วพรรคเพื่อไทยที่ร่วมกับพรรคอื่นประกาศเป็นฝ่ายประชาธิปไตยก่อนหน้านี้
    เรียกได้ว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล ก็สุ่มเสี่ยงที่จะวิกฤติจากความไม่พอใจของขั้วตรงข้ามด้วยเสียง ส.ส.ที่น้อยกว่า หรือต่อให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล วิกฤติความไม่พอใจของขั้วตรงข้ามก็มีอยู่เช่นกัน ถ้าเริ่มมีการแก้รัฐธรรมนูญหรืออะไรก็ตามที่จุดประเด็นเป็นเรื่อง วิกฤติสองขั้วยังไม่หายไปไหน และพร้อมระเบิดออกมาบนท้องถนนได้อย่างน่ากลัว ถ้าทุกอย่างไม่สามารถทำให้จบในสภาได้อย่างเป็นธรรมเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ซึ่งคนไทยคงไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีกแน่
    ทุกอย่างคงจะเป็นไปอย่างที่ “ยุทธเลิศ” ว่าไว้ การลงถนนเป็นกับดัก ไม่ว่าจะขั้วใดขั้วหนึ่งกระทำก็ตาม  ลงไปก็เสี่ยงความตาย ลงไปก็เสี่ยงต่อการยึดอำนาจรัฐประหารอีกครั้งเพื่อความสงบ วงจรอุบาทว์การเมืองไทยจะไม่มีทางหลุดพ้นได้เลย จากผลการเลือกตั้ง 24 มี.ค. จนถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และการบริหารประเทศต่อไป
     คำตอบต้องอยู่ที่สภาเท่านั้น รวมถึงความหวังว่า ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นบุตรชายของอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารปี 2534 จะเป็น “ลูกไม้ที่หล่นไกลต้น” หรือไม่.

https://www.thaipost.net/main/detail/32845

ไม่มีความคิดเห็น: