คำถามถึง ปปช.?
ผมเช่ือว่าสังคมคงอึดอัดไม่น้อยกับท่าทีของ ปปช.ที่เลขาธิการ ปปช.ออกมาระบุว่าคำร้องกล่าวโทษรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาพะคดี 383 สส.-สว. ลงมติแก้ รธน.ที่มา สว. ซึ่งเป็นการกระทำเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง รวมทั้งคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ฯล ปปช.บอกว่าจะวินิจฉัยหลังวันที่ 2 ก.พ. หรือหลังเลือกตั้ง
ผมฟังแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ความล่าช้าในการทำงานของ ปปช.กำลังเป็นส่วนหนึ่งให้ขบวนการทุจริตคอร์รัปชั่น ฝังรากลึกในสังคมไทยจนยากจะเยียวยา หรือสายเกินแก้หรือไม่?
เข้าทำนอง "ความยุติธรรมที่ล่าช้า" คือ "ความอยุติธรรมอย่างหนึ่ง"
ข้ออ้างกำลังคนนัอย งบประมาณนัอย หน่วยราชการไม่ให้ความร่วมมือนั้น เป็นข้ออ้างทึ่ได้ยิน ปปช.อ้างมาตลอดนับแต่ตั้ง ปปช.มา 10 กว่าปี
แม้พอเข้าใจได้ แต่ก็ไม่ควรเอาปัญหาเหล่านี้มาเป็นข้อจำกัดในการทำงาน ต้องมีวิธีแก้ เช่น ทำไมไม่จัดลำดับความสำคัญของคดี ทำไมคดีที่กระทบสังคมในวงกว้างไม่ถูกจัดลำดับเป็นคดีเร่งด่วน ทำไมปล่อยให้คดีกล่าวโทษนายกรัฐมนตรีมีสถานะเท่ากับคดีกล่าวโทษนายก อบต.
ที่บอกว่าไม่มีคน งบน้อย แต่ทำไมเห็น ปปช.ไปเร่งจัดตั้ง ปปช.ระดับจังหวัด แต่ก็เละตุ้มเป๊ะ ตั้งไม่ได้แม้แต่จังหวัดเดียวเพราะฟ้องร้องกันวุ่นวายไปหมด
เฉพาะคดี 383 สส.-สว. ที่โหวตแก้ รธน.และมีมติไม่รับอำนาจศาล รธน. แจ่มแจ้งแดงแจ๋ซะขนาดนี้ ยังไปตั้งต้นไต่สวนกันใหมีอีก ทำไมไม่ต่อยอดจากคำวินิจฉัยของศาล รธน. เพราะคำวินิจฉัยนี้ก็ย่อมผูกพัน ปปช.อยู่แล้วด้วย
ผมว่าถึงเวลาแล้วที่ ปปช.จะตัองแก้ไขปรับปรุงกระบวนการพิจารณาคดีที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ไม่ใข่หาข้ออ้างจนกลายเป็นข้อแก้ตัวไปวันๆ
เมื่อหน่วยงานปราบคอรัปชั่น ไม่ทำงานแข่งกับเวลา คุณก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการทุจริตคอรัปชั่นโดยไม่รู้ตัว!!!!
ผมเช่ือว่าสังคมคงอึดอัดไม่น้อยกับท่าทีของ ปปช.ที่เลขาธิการ ปปช.ออกมาระบุว่าคำร้องกล่าวโทษรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาพะคดี 383 สส.-สว. ลงมติแก้ รธน.ที่มา สว. ซึ่งเป็นการกระทำเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง รวมทั้งคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ฯล ปปช.บอกว่าจะวินิจฉัยหลังวันที่ 2 ก.พ. หรือหลังเลือกตั้ง
ผมฟังแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ความล่าช้าในการทำงานของ ปปช.กำลังเป็นส่วนหนึ่งให้ขบวนการทุจริตคอร์รัปชั่น ฝังรากลึกในสังคมไทยจนยากจะเยียวยา หรือสายเกินแก้หรือไม่?
เข้าทำนอง "ความยุติธรรมที่ล่าช้า" คือ "ความอยุติธรรมอย่างหนึ่ง"
ข้ออ้างกำลังคนนัอย งบประมาณนัอย หน่วยราชการไม่ให้ความร่วมมือนั้น เป็นข้ออ้างทึ่ได้ยิน ปปช.อ้างมาตลอดนับแต่ตั้ง ปปช.มา 10 กว่าปี
แม้พอเข้าใจได้ แต่ก็ไม่ควรเอาปัญหาเหล่านี้มาเป็นข้อจำกัดในการทำงาน ต้องมีวิธีแก้ เช่น ทำไมไม่จัดลำดับความสำคัญของคดี ทำไมคดีที่กระทบสังคมในวงกว้างไม่ถูกจัดลำดับเป็นคดีเร่งด่วน ทำไมปล่อยให้คดีกล่าวโทษนายกรัฐมนตรีมีสถานะเท่ากับคดีกล่าวโทษนายก อบต.
ที่บอกว่าไม่มีคน งบน้อย แต่ทำไมเห็น ปปช.ไปเร่งจัดตั้ง ปปช.ระดับจังหวัด แต่ก็เละตุ้มเป๊ะ ตั้งไม่ได้แม้แต่จังหวัดเดียวเพราะฟ้องร้องกันวุ่นวายไปหมด
เฉพาะคดี 383 สส.-สว. ที่โหวตแก้ รธน.และมีมติไม่รับอำนาจศาล รธน. แจ่มแจ้งแดงแจ๋ซะขนาดนี้ ยังไปตั้งต้นไต่สวนกันใหมีอีก ทำไมไม่ต่อยอดจากคำวินิจฉัยของศาล รธน. เพราะคำวินิจฉัยนี้ก็ย่อมผูกพัน ปปช.อยู่แล้วด้วย
ผมว่าถึงเวลาแล้วที่ ปปช.จะตัองแก้ไขปรับปรุงกระบวนการพิจารณาคดีที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ไม่ใข่หาข้ออ้างจนกลายเป็นข้อแก้ตัวไปวันๆ
เมื่อหน่วยงานปราบคอรัปชั่น ไม่ทำงานแข่งกับเวลา คุณก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการทุจริตคอรัปชั่นโดยไม่รู้ตัว!!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น