วงค์ ตาวัน
แม้จะมีการเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลอย่างจริงจังและต่อเนื่องยาวนาน แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ยังคงยืนอยู่ได้ นั่นคือ การยึดในหลักกฎหมายและประชาธิปไตย
เมื่อเห็นว่า ประชาชนส่วนหนึ่งไม่ยอมรับรัฐบาลนี้แล้ว ก็ตัดสินใจยุบสภาและให้มีการเลือกตั้งใหม่ ใน วันที่ 2 ก.พ.
นี่เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยโดยปกติ
คือคืนอำนาจให้กับประชาชนเจ้าของประเทศทั่ว ทุกคน หรือพูดให้แคบลง ก็คือคืนอำนาจให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 48 ล้านคน
แล้วก็ปฏิบัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ โดยต้องปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ภายหลังเลือกตั้ง
ดังนั้น ที่มีการตั้งคำถามว่า ทำไมรัฐบาลจึงดื้อด้าน กอดอำนาจไม่ปล่อย
คำตอบมีอยู่ง่ายๆ ว่า รัฐบาลไม่มีอำนาจไว้ให้กอดอีกแล้ว!
ตอนนี้คืนให้ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศไปแล้ว ด้วยการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่
ที่เรียกร้องให้คืนอำนาจกับประชาชนที่เคลื่อนไหวประท้วง จึงไม่อาจทำได้
และหากทำเช่นนั้นจริง จะก่อให้เกิดปัญหาใหม่ อันขัดแย้งและเสียหายต่อระบอบประชาธิปไตย ที่มีอยู่
เพราะที่รัฐบาลคืนอำนาจไปแล้วผ่านการเลือกตั้ง คือคืนให้กับผู้มีสิทธิ์ 48 ล้านคน
โดยตอนนี้คนไทยในต่างแดนราว 1.4 แสนคน ได้ทยอยกันใช้อำนาจในมือในการเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วด้วย!
ถ้าหากรัฐบาลตัดสินใจใหม่ ยอมตามที่มีเสียงเรียกร้องจากฝ่ายหนึ่ง
ก็คือยอมเลื่อนเลือกตั้งหรือยุติการเลือกตั้ง รวมทั้งยอมลาออก
นั่นเท่ากับอำนาจที่คืนให้คน 48 ล้านก็จะถูกดึงคืนมา แล้วมอบให้กับกลุ่มที่เคลื่อนไหวในขณะนี้
ผลที่ตามมาชัดเจน มีการอธิบายขั้นตอน เอาไว้แล้ว นั่นคือ จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปหลายปี เพื่อปฏิรูปการเมืองก่อน
ที่เขาเรียกว่าเว้นวรรคประชาธิปไตย
ประชาธิปไตย การเลือกตั้ง นายกฯจากการเลือกตั้ง ที่อุตส่าห์ต่อสู้กันมายาวนาน กว่าจะได้มา
จู่ๆ จะมาหยุดนิ่ง ถูกจับแช่แข็งได้อย่างไร
ทั้งหลายทั้งปวง จึงเกิดพลังฝ่ายที่หวงแหนสิทธิของประชาชนในการเลือกตั้ง
ออกมาจุดเทียน ปล่อยลูกโป่ง ติดริบบิ้นขาว เขียนไปรษณียบัตร เพื่อยืนยันว่าต้องมี 2 ก.พ.
การยึดกฎกติกาและประชาธิปไตย เป็นหลักสำคัญให้สังคมดำรงอยู่ได้!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น