เมื่อเวลา 18.10 น. วันที่ 17 มกราคม 2557 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวถึงเหตุการณ์ คนร้ายปาระเบิดใส่ขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่ถนนบรรทัดทอง ว่า ล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมยินยอมให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว โดยมี พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เข้าไปร่วมตรวจสอบ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า อาวุธปืนที่พบทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งเทียมอาวุธปืน หรือ บีบีกัน ซึ่งหลังเมื่อตำรวจไปถึงพบว่า มีการเคลื่อนย้ายพยานหลักฐานลงมาด้านล่าง ขณะเดียวกันพบว่า ผู้ชุมนุมไปหยิบจับพยานหลักฐาน แต่เจ้าหน้าที่ พฐ. มีกระบวนการในการตรวจสอบได้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีอย่างโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนที่มีการระบุว่า ตำรวจปล่อยปละละเลยไม่ดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละครั้ง ตำรวจจะมีการวางแผนการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ซึ่งตำรวจจะมีระยะห่างในการติดตาม แต่ปรากฏว่า การเคลื่อนขบวนในช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุม ได้มีการเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน โดยไม่ได้มีการประสานงานกับตำรวจ จึงอยากขอร้องไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมให้ประสานงานกับตำรวจก่อนที่จะมีการเคลื่อนขบวนเพื่อที่ตำรวจจะสามารถวางแผนในการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
ด้าน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่พบว่า มีมวลชนที่ยังคงมีอารมณ์ จึงถูกผลักดันไม่ให้เข้าพื้นที่ ตนจึงได้นำคณะไปรอที่ สน.ปทุมวัน ระหว่างนั้น นายเชน เทือกสุบรรณ ได้ขึ้นไปนำของกลางที่พบในห้องลงมาแถลงข่าว โดยมี พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ EOD ร่วมสังเกตการณ์ก่อนที่มีการส่งมอบพยานหลักฐานทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ระหว่างนั้นให้ตรวจสอบพยานหลักฐานที่พบทั้งหมด พานท้ายปืน 4 อัน ประกับรองปืน 3 อัน ลำกล้อง 3 ชิ้น ด้ามจับ 3 ชิ้น แม็กกาซีน 2 อัน ขาตั้งยิง 2 ขา กล่องส่องยิง 1 อัน โดยทั้งหมดเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน หรือปืนบีบีกัน แต่ชิ้นส่วนสำคัญ คือ ชุดลั่นไกหายไปทำให้ใช้ยิงไม่ได้ แต่แม้ว่ามีชุดลั่นไกก็ใช้ยิงได้เพียงกระสุนปืนบีบีกันเท่านั้น ใช้กับกระสุนจริงไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบมีด 4 ด้าม แยกเป็นดาบยาว 2 ด้าม มีดเดินป่า 1 ด้าม และสิ่ว 1 ด้าม ขณะเดียวกันยังพบวิทยุสื่อสื่อสาร 3 เครื่อง
ผบช.สพฐ.ตร. กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าห้องดังกล่าวเป็นที่พักของรปภ.ซึ่งทางจุฬาลงกรณ์จ้างมาดูแลพื้นที่ในช่วงระหว่างที่มีการไล่ที่ ซึ่งขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างติดตามตัวของตำรวจ สน.ปทุมวัน
http://www.fm91bkk.com/home91/index.php/2011-12-29-10-37-03/6241------qq
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า อาวุธปืนที่พบทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งเทียมอาวุธปืน หรือ บีบีกัน ซึ่งหลังเมื่อตำรวจไปถึงพบว่า มีการเคลื่อนย้ายพยานหลักฐานลงมาด้านล่าง ขณะเดียวกันพบว่า ผู้ชุมนุมไปหยิบจับพยานหลักฐาน แต่เจ้าหน้าที่ พฐ. มีกระบวนการในการตรวจสอบได้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีอย่างโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนที่มีการระบุว่า ตำรวจปล่อยปละละเลยไม่ดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละครั้ง ตำรวจจะมีการวางแผนการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ซึ่งตำรวจจะมีระยะห่างในการติดตาม แต่ปรากฏว่า การเคลื่อนขบวนในช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุม ได้มีการเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน โดยไม่ได้มีการประสานงานกับตำรวจ จึงอยากขอร้องไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมให้ประสานงานกับตำรวจก่อนที่จะมีการเคลื่อนขบวนเพื่อที่ตำรวจจะสามารถวางแผนในการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
ด้าน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่พบว่า มีมวลชนที่ยังคงมีอารมณ์ จึงถูกผลักดันไม่ให้เข้าพื้นที่ ตนจึงได้นำคณะไปรอที่ สน.ปทุมวัน ระหว่างนั้น นายเชน เทือกสุบรรณ ได้ขึ้นไปนำของกลางที่พบในห้องลงมาแถลงข่าว โดยมี พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ EOD ร่วมสังเกตการณ์ก่อนที่มีการส่งมอบพยานหลักฐานทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ระหว่างนั้นให้ตรวจสอบพยานหลักฐานที่พบทั้งหมด พานท้ายปืน 4 อัน ประกับรองปืน 3 อัน ลำกล้อง 3 ชิ้น ด้ามจับ 3 ชิ้น แม็กกาซีน 2 อัน ขาตั้งยิง 2 ขา กล่องส่องยิง 1 อัน โดยทั้งหมดเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน หรือปืนบีบีกัน แต่ชิ้นส่วนสำคัญ คือ ชุดลั่นไกหายไปทำให้ใช้ยิงไม่ได้ แต่แม้ว่ามีชุดลั่นไกก็ใช้ยิงได้เพียงกระสุนปืนบีบีกันเท่านั้น ใช้กับกระสุนจริงไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบมีด 4 ด้าม แยกเป็นดาบยาว 2 ด้าม มีดเดินป่า 1 ด้าม และสิ่ว 1 ด้าม ขณะเดียวกันยังพบวิทยุสื่อสื่อสาร 3 เครื่อง
ผบช.สพฐ.ตร. กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าห้องดังกล่าวเป็นที่พักของรปภ.ซึ่งทางจุฬาลงกรณ์จ้างมาดูแลพื้นที่ในช่วงระหว่างที่มีการไล่ที่ ซึ่งขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างติดตามตัวของตำรวจ สน.ปทุมวัน
http://www.fm91bkk.com/home91/index.php/2011-12-29-10-37-03/6241------qq
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น