PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

รองผู้การทหารม้า วอนอย่าปล่อยข่าว ทหารร่วมม็อบจัดฉาก ที่บรรทัดทอง

รองผู้การทหารม้า วอนอย่าปล่อยข่าว ทหารร่วมม็อบจัดฉาก ที่บรรทัดทอง ยันทหารไม่ได้เลือกข้าง แต่ดูแลประชาชน วอนใช้เหตุผลพูดคุย ย้ำต้องโปร่งใส่ เปิดให้สื่อเข้าทุกจุด ยันไม่ใช่บูรพาพยัคฆ์ เป็นทหารม้า พล.ม.2รอ.โดยระเบิด แต่ไม่ได้เจ็บแค้นใคร ทำตามหน้าที่

หลังจากมีการ ส่งต่อข้อความกันใน โซเชี่ยล เน็ทเวิร์ค และทาง Line จากทั้ง 2 ฝั่ง เรื่องเหตุปาระเบิดที่ ถนนบรรทัดทอง และการเข้าตรวจสอบพื้นที่ ฝ่ายหนึ่ง ระบุว่า พบอาวุธสงคราม มากมาย เสื้อแดง หมวกแดง อุปกรณ์ต่างๆ ส่วนอีกฝ่าย โต้กลับ แจงเป็น บีบี.กัน ชุดแดงขายไอติม อะไรอีกมากมาย ส่งสู้กันในโลกไซเบอร์
แต่กลับตั้งข้อสงสัย ว่า อาจเป็นการจัดฉาก วางแผนของทหารกับ ผู้ชุมนุม โดยมีการระบุข้อน่าสงสัย 19 ข้อนั้น

พ.อ. นพสิทธิ์ สิทธิพงษ์โสภณ รองผบ.ม.1รอ. (รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 1รักษาพระองค์) ของ พล.ม.2รอ. ที่ดูแลพื้นที่และเข้าร่วมตรวจสอบด้วยตลอด ยืนยันว่า ทหารได้พยายามเป็นผู้ประสานกับแกนนำผู้ชุมนุม ในการให้ตำรวจ หน่วย EOD เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย แต่ผู้ชุมนุมไม่ยอม อาจเพราะไม่ไว้วางใจทางตำรวจ เราก็ต้องพยายามพูดคุย รวมถึงการให้เฉพาะทีวี.ช่อง บลูสกาย เข้าไปแค่ช่องเดียวในเบื้องแรก แต่ตนเองไม่ยินยอม โดยยังพูดออกทีวี.เลยว่า ต้องให้สื่อทุกช่อง ไม่อย่างนั้นตนเองในฐานะผู้รับผิดชอบจะถูกตำหนิได้ ตนจึงขอให้สื่อเข้าไปร่วมตรวจสอบได้ทุกช่องทุกสื่อ

“อย่าไปมองถึงขั้น ทหารไปร่วมวางแผนอะไรกับใคร สร้างสถานการณ์ จัดฉากเลยครับ ทหารเราพยายามเปิดให้โปร่งใสเต็มที่แล้ว แต่บางทีการประสานกับผู้ชุมนุม นี่ต้องให้แกนนำสั่งการเท่านั้น บางทีผู้ชุมนุมก็ไม่ฟังทหารครับ เขาต้องฟังแกนนำของเขา”

ส่วนที่มีการโจมตีตนเองว่า เป็น ทหารบูรพาพยัคฆ์ นั้น ตนเองเป็นทหารม้า รับราชการใน พล.ม.๒รอ.มาตลอด ไม่ได้เป็นบูรพาพยัคฆ์ ไม่เคยไปสังกัด พล.ร.2รอ. เลย

แต่เหตุการณ์เมื่อปี 2553 นั้น ตนเองเป็น ผบ.ม.พัน3รอ.(ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่3รักษาพระองคฺ) อยู่ ก็นำกำลังเข้าไปกระชับพื้นที่ โดยให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปอยู่ด้วยตลอด มีอะไรก็ถ่ายภาพไว้หมด ไม่เคยทำอะไรที่เป็นการไม่ถูกต้องเลย เป็นการทำตามหน้าที่ ได้โปรดเข้าใจสถานการณ์ในเวลานั้นด้วย

และยอมรับว่า ตนเป็นนายทหารที่ถูกระเบิด ที่ถนนดินสอ ตอน เม.ย.2553 ด้วย แต่ก็ไม่ได้เจ็บแค้นอะไรใคร แต่ทำให้เข้าใจสถานการณ์ จากวันนั้นถึงวันนี้ มากกว่า

“ผมอยากให้มั่นใจว่า ทหารไม่ได้เลือกข้าง แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เราต้องมาดูแลประชาชน ผมอยากให้ทุกฝ่ายมีเหตุผล พูดกันด้วยเหตุผลเถอะครับ ทหารเองก็ไม่สบายใจกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมันเป็นหน้าที่ เราก็ต้องมาดูแลความสงบเรียบร้อยครับ ทหารเราเน้นการพูดคุยเราเจรจา ด้วยเหตุผล ทหารเราไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับ ประชาชนสีไหน เราเป็นทหารของประชาชนทุกคน” พันเอก นพสิทธิ์ กล่าว


ไม่มีความคิดเห็น: