ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับคำร้องให้การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์เป็นโมฆะ เห็นว่าไม่มีมูลที่จะเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับคำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยื่นขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 1 เพื่อขอให้ศาลสั่งให้การเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นโมฆะ โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคำร้องไม่มีมูลที่จะเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิธีทางบัญญัติในรัฐธรรมนูญ จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 1
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับคำร้องของนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายทนายเสือธนพล สุขปาน รวมถึงสมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อสังคม ที่ร้องขอให้ศาลวินิจฉัยตามมาตรา 68 ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.และพวก กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า การชุมนุมของประชาชนตามคำร้องทั้งหมด เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ โดยมีเหตุผลสืบเนื่องมาจากการต่อต้าน พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ส่วนกรณีการกระทำของผู้ถูกร้องจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่ผู้ร้บผิดชอบในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจะดำเนินการต่อไป
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับคำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยื่นขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 1 เพื่อขอให้ศาลสั่งให้การเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นโมฆะ โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคำร้องไม่มีมูลที่จะเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิธีทางบัญญัติในรัฐธรรมนูญ จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 1
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับคำร้องของนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายทนายเสือธนพล สุขปาน รวมถึงสมาคมรัฐธรรมนูญเพื่อสังคม ที่ร้องขอให้ศาลวินิจฉัยตามมาตรา 68 ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.และพวก กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า การชุมนุมของประชาชนตามคำร้องทั้งหมด เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ โดยมีเหตุผลสืบเนื่องมาจากการต่อต้าน พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม และมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ส่วนกรณีการกระทำของผู้ถูกร้องจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่ผู้ร้บผิดชอบในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจะดำเนินการต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น