PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กองทัพหวั่น“โผทหาร”กลางปีสะดุด ส่ง"กรมพระธรรมนูญ"ถกกกต. เช็คอำนาจ “ยิ่งลักษณ์”ลงนาม – ทูลเกล้าฯ

กองทัพหวั่น“โผทหาร”กลางปีสะดุด ส่ง"กรมพระธรรมนูญ"ถกกกต. เช็คอำนาจ “ยิ่งลักษณ์”ลงนาม – ทูลเกล้าฯ ห่วงกองทัพเกิดสูญญากาศ คาดปรับเล็ก- โยกย้ายเฉพาะจำเป็น 

เมื่อวันที่ 12 ก.พ.57 พ.อ.ปภาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารกลางปีในช่วงเดือน เม.ย. ภายใต้รัฐบาลรักษาการ ว่า ทางกระทรวงกลาโหม ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เนื่องจากการปรับย้ายนายทหารสัญญาบัตรทุกระดับเป็นอำนาจหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่อยู่ในสถานะรักษาการนายกรัฐมนตรีและรักษาการรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหมจึงกังวลว่าจะเกิดปัญหาทางข้อกฎหมายเพราะสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติและอยู่ในระหว่างการเลือกตั้งที่ยังไม่แล้วเสร็จ แต่ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ที่มีกฎหมายรองรับชัดแจนให้มีการปรับย้ายนายทหารปีละ2ครั้ง ทางกระทรวงกระทรวงกลาโหม โดยทาง เหล่าทัพจะต้องมีการจัดทำบัญชีโยกย้ายตามปกติ และส่งมาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ลงนาม และส่งไปขอความเห็นชอบกับ กกต. หรืออาจจะมีการมอบหมายอำนาจให้กับ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้ดำเนินการแทนเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายมาตรา181วรรค1ของรัฐธรรมนูญปี2550 

แหล่งข่าวจากนายทหาร กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ทางกรมพระธรรมนูญ และเจ้ากรมเสมียนตรา ของกระทรวงกลาโหมได้เดินทางเข้าพบกับทาง กกต. เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขอใช้อำนาจ ของกระทรวงกลาโหม ในการปรับย้ายนายทหาร ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ 

ทั้งนี้การปรับย้ายหากเป็นข้าราชการพลเรือน สามารถดำเนินการได้เลย โดยข้าราชการที่มีระดับซี 9 ขึ้นไป หากเปรียบเทียบกับของทหาร ก็ถือว่าเป็นอำนาจของ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม แต่เนื่องจากว่าการโยกย้ายทางทหารมีการผูกติดอำนาจไว้กับ รมว.กลาโหม คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโกลาโหม จึงติดกฎหมายมาตรา 181วรรค1 ตาม รัฐธรรมนูญปี 50 เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ที่ต้องผ่านความเห็นชอบจาก กกต. เพราะอาจจะเกิดข้อครหาหรือการร้องเรียน ว่ามีการแต่งตั้งนายทหารที่มีผลได้ผลเสียทางการเมืองขึ้นมาดำรงตำแหน่งได้

รายงานจากนายทหาร กรมพระธรรมนูญ กล่าวอีกว่า เรื่องการปรับย้ายนายทหารถือเป็นส่วนหนึ่งในพระราชบัญญัติการจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ที่มีกฎหมายรองรับชัดเจน ซึ่งจะใช้อำนาจของกระทรวงกลาโหมเอง เพียงแต่มีข้อจำกัดบางประการที่จะต้องไปขอความเห็นชอบ จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพราะตามรัฐธรรมนูญปี 50 ที่กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้อำนาจหน้าที่แต่งตั้งนายทหาร ที่มีผลได้ผลเสียกับการเมือง ซึ่งอาจมองได้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ อยู่ระหว่างการเลือกตั้ง โดยมีรัฐบาลรักษาการจากพรรคเพื่อไทยก็มีความเป็นห่วงว่าจะใช้อำนาจในการแต่งตั้งคนของตัวเองขึ้นมา จึงมีความจำเป็นต้องรอ ให้ทาง กกต. ทำหนังสือเห็นชอบมาก่อน แต่ถ้าหาทาง กกต.มีมติว่า การโยกย้ายนายทหาร กลางปีนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะเกิดสูญญากาศในกองทัพ และทำให้กำลังพลได้รับผลกระทบเป็นห่วงโซ่
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เกริ่นในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมาถึงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารกลางปี โดยการปรับย้ายอาจจะติดปัญหาข้อกฎหมายเนื่องจากรักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม ต้องลงนาม ซึ่งต้องให้คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เห็นชอบก่อน ทั้งนี้ อาจจะมีการปรับยศนายทหารที่จะเกษียณในปลายปีนี้ และปรับย้ายเฉพาะในตำแหน่งที่จำเป็นเท่านั้น


ไม่มีความคิดเห็น: