PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เบื้องหลัง มท.งัดข้อ ศรส.ไม่สนคำสั่งเนรเทศ “สาธิต เซกัล”

เบื้องหลัง มท.งัดข้อ ศรส.ไม่สนคำสั่งเนรเทศ “สาธิต เซกัล”

เขียนวันที่
วันพุธ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 16:20 น.
เขียนโดย
isranews
หมวดหมู่
“ที่สำคัญการ คำปราศรัยของนายสาธิต ยังไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ นายสาธิตพูดเพียงแต่เรื่องจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์”
satid-prapas
ภายหลังที่ “ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ” (ศรส.) ซึ่งมี “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นั่งเป็นผอ.ศรส. มีมติให้เนรเทศ “สาธิต เซกัล” นายกสมาคมธุรกิจอินเดีย-ไทย แกนนำ กปปส. ออกจากประเทศไทย
แต่อำนาจการเนรเทศ “สาธิต” ไม่ได้อยู่ที่ “ศรส.” เมื่อมีมติออกมาแล้ว “ศรส.” จึงต้องแทงเรื่องส่งไปยัง “คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง” ซึ่งมี “วิบูลย์ สงวนพงศ์” ปลัดกระทรวงมหาดไทย นั่งเป็นประธานโดยตำแหน่ง
โดยมีการจัดการประชุม “คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง” ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ซึ่ง “วิบูลย์” มอบหมายให้ “ประภาศ บุญยินดี” รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นั่งเป็นประธานในที่ประชุมแทน
ฝั่ง “ศรส.” ส่งตัวแทนจาก “สภาความมั่นคงแห่งชาติ” (สมช.) และ “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” (ดีเอสไอ) เข้าชี้แจงต่อ “คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง”
“ตัวแทนจากศรส.” นำสั่งเนรเทศของ “ศรส.” มาประกอบเป็นหลักฐาน พร้อมทั้งเปิดฉากชี้แจง ว่า พฤติกรรมของ “สาธิต” เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ เพราะสนับสนุนการชุมนุม จึงเห็นสมควรให้เนรเทศ “นักธุรกิจอินเดีย” ออกจากประเทศไทย
ทั้งนี้ “ตัวแทนศรส.” ยกเหตุผลการเนรเทศ “สาธิต” ว่าเข้าข่ายตาม “พ.ร.บ.คนเข้าเมือง” ในหมวด 6 การส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร โดยในมาตรา 53 ระบุว่า คนต่างด้าวซึ่งเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแล้วภายหลังปรากฏว่าเป็นบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 12 (7)
มาตรา 12 ระบุว่า ห้ามมิให้คนต่างด้าวซึ่งมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้เข้ามาในราชอาณาจักร และใน (7) ระบุว่า มีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชนหรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ
ทว่าคำชี้แจงของ “ตัวแทนศรส.” ทางฝากฝั่งของ “คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง” ไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าหลักฐานที่จะใช้ในการเนรเทศ “สาธิต” ยังไม่เพียงพอ และไม่เข้าเงื่อนไขการถูกเนรเทศ ตามเจตนารมณ์ที่ “พ.ร.บ.คนเข้าเมือง” ระบุไว้
โดย “ประภาศ” ตอบปฏิเสธ “ตัวแทนศรส.” ทันควันที่จะมีมติออกจาก “คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง” ตีตรารับรองให้กับ “ศรส.” ใช้เนรเทศ “สาธิต”
“ประภาศ” ให้เหตุผลว่า ตอนนี้ยังใช้อำนาไม่ได้ เพราะเราต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน ว่านายสาธิตมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อประเทศ
“ที่สำคัญการปราศรัยของนายสาธิต ยังไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ นายสาธิตพูดเพียงแต่เรื่องจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” แหล่งข่าวอ้างคำพูดรองปลัดมท.
นอกจากนี้ “ตัวแทนอัยการ” ยังเห็นด้วยกับ “ประภาศ” ที่ระบุว่า หลักฐานในการเนรเทศ “สาธิต” ยังไม่เพียงพอ
ที่ประชุม “คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง” จึงมีมติให้ “ตัวแทนของศรส.” นำเรื่องไปแจ้ง “ศรส.” ให้หาหลักฐานในการเอาผิด “สาธิต” เพิ่มเติม อาทิ เทปบันทึกคำปราศรัย พฤติกรรมที่ถือเป็นภัยต่อประเทศ เป็นต้น
ทั้งหมดคือเบื้องหลักที่ “คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง” แข็งข้อไม่ส่งความเห็นเนรเทศ “สาธิต” ให้กับ “ศรส.” เพื่อที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ภาพจากซ้ายนายสาธิต เซกัล นักธุรกิจอินเดีย-ไทย ขวา นายประภาศ บุญยินดี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย

ไม่มีความคิดเห็น: