PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อองซานซูจี จากวันวานถึงวันนี้

12112558 อองซานซูจี : จากวันวานถึงวันนี้
โดย : กาแฟดำ

ชัยชนะท่วมท้นของการเลือกตั้งใหญ่ สำหรับอองซานซูจีครั้งนี้ กำลังจะเปลี่ยนโฉมหน้าการเมือง ของพม่าครั้งสำคัญยิ่ง
จากผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ถูกกักบริเวณ ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง และแม้จะมีการเลือกตั้งเมื่อปี 1990 ที่ประชาชนเลือกพรรค NLD ของเธออย่างล้นหลาม เธอก็ไม่สามารถไปใช้สิทธิหย่อนบัตรเพราะยังถูกกักบริเวณ
วันนี้เธอกำลังจะก้าวเข้าสู่อำนาจรัฐ และหากเป็นไปตามที่เธอต้องการ อองซานซูจี จะมีฐานะ “อยู่เหนือประธานาธิบดี” เพราะทหารเขียนรัฐธรรมนูญไม่ให้เธอมีตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองอย่างเป็นทางการได้
แต่เมื่อเธอคือขวัญใจของประชาชน รัฐธรรมนูญจะเขียนอย่างไรก็ไม่สำคัญเท่ากับ “อาณัติ” ยิ่งใหญ่ที่ประชาชนให้กับเธอในการเลือกตั้งครั้งนี้
หากต้องการจะเข้าใจว่าเธอจะเดินหน้าการเมืองอย่างไร ต้องเข้าใจถึงวิธีคิดและแนวทางที่เธอต้องการจะวางตัวเองให้อยู่ในฐานะที่จะร่วมขบวนการปฏิรูปประเทศโดยไม่จำเป็นต้องปัดบทบาทของทหารออกไปจากแวดวงการเมืองทั้งหมดเสียเลยทีเดียว
จึงน่าสนใจว่าการต่อรองเจรจา ระหว่างเธอกับนายพลเต็งเส่ง และผู้นำกองทัพโดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายพลมินอ่องหลาย จะนำไปสู่การตั้งรัฐบาลที่เสียงข้างมาก มีสิทธิในการบริหารโดยที่ยังคงบทบาททหารในระดับที่เหมาะสมอย่างไร
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 หรือ 3 ปีก่อน ผมมีโอกาสได้สัมภาษณ์อองซานซูจีก่อนจะมีการเลือกตั้งซ่อม ที่เป็นก้าวแรกของการผลักดันให้พรรค NLD ของเธอเข้าสู่ฐานอำนาจรัฐ หากฟังคำตอบของเธอต่อคำถามของผมขณะนั้น ก็จะพอประเมินแนวทางของเธอจากนี้ไปได้ไม่ยากนัก
ถาม : จากที่เคยเป็นผู้ต่อต้าน ตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป คุณรู้สึกอย่างไร?
ซูจี : ฉันยังไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งเลยค่ะ
ถาม : คุณวางแผนจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปฏิรูปหรือไม่?
ซูจี : วันหนึ่ง ฉันหวังว่าจะได้มีส่วนร่วมค่ะ
ถาม : มันยากไหม ที่จะเปลี่ยนแปลง?
ซูจี : ไม่หรอกค่ะ มันอาจจะเป็นงานหนัก แต่เราชินกับการทำงานหนัก มันคงจะไม่ได้หนักไปกว่าในอดีตแล้ว
ถาม : แต่ช่วงเวลาไหนที่ทำให้คุณตัดสินใจว่าคุณจะเล่นเกมนี้กับฝ่ายทหาร?
ซูจี : ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นช่วงเวลาไหน เพราะเราเชื่อมาโดยตลอดว่าความร่วมมือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้า เราเชื่อในการเจรจามาโดยตลอด และความพยายามร่วมกัน
ถาม : ฝ่ายรัฐบาลให้สัญญาหรือคำมั่นอะไรกับคุณ ถึงทำให้คุณตัดสินใจเข้าร่วม?
ซูจี : ไม่มีคำสัญญาหรือคำมั่นใดๆ แต่ฉันเชื่อว่า ท่านประธานาธิบดีจริงใจที่จะปฏิรูป และท่านบอกว่า ต้องการช่วยสนับสนุนในกระบวนการสู่ประชาธิปไตย เราพูดคุยกันในประเด็นนี้ ซึ่งทำให้เราสามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเลือกตั้งซ่อมได้
ถาม : ผมเชื่อว่า คุณคงถามท่านว่าฝ่ายทหารสนับสนุนการปฏิรูปครั้งนี้หรือไม่
ซูจี : ไม่ค่ะ ดิฉันไม่ได้ถามท่าน ดิฉันจะไม่พูดว่าฉันพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับท่านอย่างไร
ถาม : อย่างน้อยผมก็ต้องการรู้ว่า...
ซูจี : ฉันจะไม่พูดถึงสิ่งที่พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับท่านค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เราพูดคุยกันหรือไม่ได้พูดคุยกันก็ตาม
ถาม : อนาคตของคุณล่ะครับ ก้าวต่อไปของคุณคืออะไร?
ซูจี : ก้าวต่อไป ก็คือต้องชนะการเลือกตั้งซ่อมค่ะ ฉันคิดว่า เราควรก้าวไปข้างหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไป
ถาม : และถ้าคุณชนะการเลือกตั้งซ่อม คุณจะเล่นบทบาทอะไรในสภา?
ซูจี : บทบาทของการเป็น ส.ส.ฝ่ายค้านที่ดีค่ะ
ถาม : ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลครับ?
ซูจี : เราต้องเริ่มจากการเป็นฝ่ายค้านค่ะ เราคงไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลที่มี ส.ส. 48 ที่นั่ง แม้ว่าจะชนะทุกๆเขตก็ตาม
ถาม : คุณจะบอกอะไรกับโลกในขณะที่พม่ากำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว?
ซูจี : จับตามองกระบวนการเลือกตั้งซ่อม ฉันคิดว่าเราต้องค่อยๆเดินไปทีละก้าว และสิ่งสำคัญตอนนี้ก็คือ การเลือกตั้งซ่อมที่จะเกิดขึ้น ควรจะมีอิสระและความยุติธรรมและเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย
จากวันนั้นถึงวันนี้ ทุกอย่างกำลังจะปรับเปลี่ยนอีกครั้ง ท่ามกลางความคาดหวังสูงจากคนพม่าทั่วประเทศ “แม่ซู” กำลังจะต้องก้าวเข้าสู่บทบาทที่หนักหน่วงและท้าทายยิ่ง
- See more at:http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/636095…

ไม่มีความคิดเห็น: