PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ข้อมูลดิบจาก แฟ้มข่าว สุทิน วรรณบวร กรณีเลือกตั้งพม่า

ข้อมูลดิบจากแฟ้มข่าว เกี่ยวกับการเลือกตั้งเสรีพม่าที่ อเมริกาชื่นชม
1.ชาวพม่าทั้งแรงงานถูกกฎหมาย แรงงานเถื่อน และกลุ่มเคลื่อนทางการเมืองที่หนีตายจากการกวาดล้างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลพม่าตั้งแต่ปี 2531 ที่เรียกกันว่า (8888 Generation) อยู่ในเมืองไทยประมาณ 2.5 ล้านคน ขอลงทะเบียนเลือกตั้งประมาณ 10,000 คน แต่ได้เลือกตั้งจริง 622 คน

2. พม่ารุ่น 8888 ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในพม่าจนถูกฆ่าตายหลายพันคน ว่ากันว่ากว่า 3,000 หนีเข้ามาประเทศไทย 20,000 กว่าคนส่วนใหญ่อยู่กับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ (ชนกลุ่มน้อย) กะเหรี่ยง มอญ คะยา ว้า ไทยใหญ่ ฯลฯ บิกจิ๋ว ส่งกลับให้พม่าปี 2532- 2533 หลายพันคน การส่งกลับคราวนั้นเป็นชนวนให้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า ไม่พอใจมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งนางอองซาน ซูจี ที่มีแนวคิดแบบตะวันตกสุดโต่ง เธอไม่ปลื้มประเทศไทยและกระเดียดไปทางเกลียดชังเอามากๆ ส่วนคนรุ่น 8888 อีกกลุ่มหนึ่งประมาณ 4,000 คนเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอยู่ในเมืองใหญ่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แม่สะเรียง แม่สอด ฯลฯ กลุ่มนี้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของ UHNCR ประมาณ 2,500 คนได้ตั้งรกรากในประเทศที่สามแล้ว ส่วนที่เหลือยังเคลื่อนไหวอยู่ในเมืองไทย นักสู้เพื่อประประชาธิปไตยกลุ่มนี้เพลินอยู่กับสิทธิที่ได้รับการช่วยเหลือจาก UNHCR และตะวันตก ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเช่นกัน

ส่วนคนรุ่น 8888 ที่ต่อสู่เพื่อประชาธิปไตยจนติดคุกติดตะรางนานกว่านางอองซาน ซูจี ที่อยู่ในร้างกุ้ง เช่นนายมิงโกนาย นายโกโกยนยี หรือ เหนียว เหนียว ติน ประสงค์จะลงสมัครเลือกตั้งในนามพรรคเอ็นแอลดี แต่ถูกปฏิเสธ บางคนต้องจำใจลงสมัครอิสระ อนึ่งคนรุ่น 8888 ที่ต่อสู้เพื่อนางอองซาน ซูจี เคยก่อเหตุร้ายในประเทศมาแล้วหลาครั้งเช่น เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2532 จี้เครื่องบินโดนสารพม่ามาลงจอดทีสนามบินอู่ตะเภา บุกยึดสถานทูตพม่าวันที่ 1 ต.ค. 2542 และยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรีเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2543

3.การเลือกตั้งเสรีประชาธิปไตย ภายใต้เงื่อนไขรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจทหารเหนือนักการเมืองที่มาจากเลือกตั้งเช่น 1,ทหารมีโควตา 25% ในรัฐสภา 2. ใครชนะเลือกตั้งก็แล้วตามสิทธิและอำนาจในการแต่งตั้งรัฐมนตรีกลาโหม มหาดไทย และรัฐมนตรีกระทรวงกิจการชายแดน อยู่ในมือของผู้บัญชาการทหารสูงสุด 3. ในกรณีเกิดร้าย ก่อความไม่สงบ เหตุรุนแรงที่อาจนำไปสู่ความแตกแยกในชาติให้ ผู้บัญชาทหารสูงสุดเป็นผู้ใช้รัฎฐาธิปัตย์แทนรัฐบาล 4. ผู้ที่ผัวหรือลูกเมียเลียรางเป็นคนต่างด้าวชาวต่างแดนเป็นประธานาธิบดีไม่ได้
การแต่ตั้งประธานาธิบดี ให้ทหารคัดเลือกมาหนึ่งคน สภาล่างคัดเลือกมาหนึ่งคน สภาสูงคัดเลือกมาหนึ่งคน ก่อนที่รัฐสภาซึ่งรวมกันแล้ว 664 คน เลือกหนึ่งในสามขึ้นมาเป็น ประธานาธิบดี สองคนที่เหลือเป็นรองตามลำดับ

สภาแห่งรัฐ คือเหมืนสภาจังหวัดบ้านเรา กันตั้งกันอยู่เสรี แต่นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐ คือเหมือนผู้ว่าราชการบ้าน ทั้ง 14 รัฐ ต้องได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี
ข้อมูลนี้อาจเป็นประโยชน์แก่พวกโหนกระแสเลือกตั้งพม่า ว่าต้องการรัฐธรรมนูญแบบพม่าท่านมีชัยคงจัดให้ไม่ยาก

ไม่มีความคิดเห็น: