PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

กองทัพตื่นตัวรับมือIS

กองทัพตื่นตัว รับมือก่อการร้าย...IS
บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร สั่งผบ.เหล่าทัพ ในที่ประชุม สภากห. คุมเข้มการดูแล รปภ.สถานที่ พื้นเสี่ยงต่างๆและที่ตั้งหน่วย ทั่วประเทศ สั่งทุกหน่วยมั่นคง หน่วยข่าว ดูความเชื่อมโยง กลุ่มก่อการร้ายต่างๆ โดยเฉพาะหลังIS มาเคลื่อนไหวในมาเลเซีย ยึดแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างประเทศ เฝ้าระวัง เพิ่มมาตรการด้านการข่าว วอนประชาชน ร่วมมือ สร้างความเข้มแข็งภาคประชาชน
พลตรี คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม เผยว่า ในที่ประชุมสภากลาโหม ที่มี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ร่วมด้วย ปลัดกลาโหม ผบสส. ผบ.เหล่าทัพ ร่วม ได้มีการหารือเรื่องการดูแลความมั่นคง ปลอดภัย
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ความรุนแรง ณ กรุงปารีส ที่ผ่านมา พลเอกประวิตร ได้มอบหมายและกำชับให้ หน่วยขึ้นตรงกลาโหม (นขต.กห.)และเหล่าทัพ ร่วมกันติดตามสถานการณ์และวิเคราะห์ความเชื่อมโยงของกลุ่มต่างๆทั้งภายในและต่างประเทศ ต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกับให้ความสำคัญต่อมาตรการเชิงป้องกัน โดยเน้นความความเข้มแข็งของภาคประชาชน ด้วยการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อร่วมกันจัดตั้งและขยายเครือข่ายภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง ต่อการกระทำของกลุ่มบุคคลที่อาจไม่หวังดี
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อส่วนรวมที่จะเกิดขึ้น และเป็นการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ขณะเดียวกัน ก็ขอให้ทุกหน่วยตั้งอยู่ในความไม่ประมาท โดยเข้มงวด กวดขันต่อมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ตั้งหน่วยและพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมทั้ง ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการปฏิบัติภารกิจดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่ รวมทั้งพื้นที่เสี่ยง ในความดูแลของหน่วยทั่วประเทศ ตามความเหมาะสมและความจำเป็นของสถานการณ์
ทั้งนี้ พลเอกประวิตร ได้สั่งการให้ทุกหน่วยมั่นคง หน่วยข่าว ดูความเชื่อมโยง กลุ่มก่อการร้ายต่างๆ โดยเฉพาะหลังIS มาเคลื่อนไหวในมาเลเซีย โดยยึดแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างประเทศ และเฝ้าระวัง เพิ่มมาตรการด้านการข่าว พรัอมวอนประชาชน ร่วมมือ ช่วยดูแลเป็นหูตาให้ด้วย เพื่อเป็น สร้างความเข้มแข็งภาคประชาชน เพราะให้เป็นหน้าที่ของ จนท.ฝ่ายเดียวคงไม่เพียงพอ

ไม่มีความคิดเห็น: