PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

"Safety Thailand........



"Safety Thailand........
"บิ๊กเจี๊ยบ" นั่งหัวโต๊ะ ถก สธ.คสช.-กกล.รส.คสช. เดินหน้าแคมเปญ วาระประเทศไทยปลอดภัย " Safety Thailand ”ช่วงเทศกาล ยาวไปถึงปีใหม่ เข้มแก้ปัญหา ผู้มีอิทธิพล
พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผช.ผบทบ.ในฐานะ รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีการสรุปการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย
พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. เผยว่า การประชุมวันนี้ พลเอกเฉลิมชัย ได้กำชับให้ทุกส่วนของ คสช. โดยเฉพาะ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) ได้ดำเนินทุกมาตรการในการปฏิบัติตามวาระ “ประเทศไทยปลอดภัย" หรือ "Safety Thailand” ตามที่รัฐบาลกำหนด
โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล ประเพณี การเฉลิมฉลอง หรือการจัดกิจกรรมสำคัญ โดยให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และสารวัตรทหาร ดูแลสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ลดและป้องกันอุบัติเหตุ สาธารณภัย และอำนวยความสะดวกให้ประชาชน นักท่องเที่ยว
รวมถึงเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีในเทศกาลแห่งความสุข โดยให้ทุกหน่วยมีการเตรียมแผนเผชิญเหตุ ความพร้อมบุคคลากร เครื่องมือ
ขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับการลงพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจ สร้างความรับรู้ให้กับประชาชน ด้วยข้อมูลที่ทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พลเอกเฉลิมชัย รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เร่งรัดให้ทุกส่วนตรวจสอบ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขและขจัดปัญหาดังกล่าว โดยเร็วที่สุดด้วย
นอกจากนี้ ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย สามารถตรวจยึดยาบ้าได้ ๒,๕๐๔,๒๖๑ เม็ด, อาวุธปืน ๓๑ กระบอก, ไม้มีค่า ๑๖๗ ท่อน
ส่วนการดูแลช่วยเหลือประชาชนยังคงมีการจัดชุดแพทย์ ๕๗ ชุด ออกบริการประชาชน และเข้าช่วยซ่อมสร้างที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ๑๖ ครั้ง
ส่วน ศูนย์ดำรงธรรมสามารถแก้ไขเรื่องร้องทุกข์ ๗๔๖ เรื่อง
การขุดลอกแหล่งน้ำโดยหน่วยทหารช่างของกองทัพบก ภายใต้การกำกับดูแลของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คืบหน้าร้อยละ ๙๑
ส่วนการลงพื้นที่ดูแลประชาชนนั้นได้นำนักศึกษาวิชาทหารและ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ๒๑,๔๒๖ คน ร่วมเป็นทีมงานด้วย
กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ยังได้ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่เข้าชี้แจงสถานการณ์ภัยแล้ง และขอความร่วมมือในการปลูกพืชใช้น้ำน้อย ในพื้นที่ ๑๖ จังหวัด รวม ๖,๑๗๙ หมู่บ้าน รวมทั้งสำรวจและรวบรวมข้อมูลของเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง
จากการลงพื้นที่พบว่าเกษตรกรมีความต้องการในเรื่องราคาพืชผล แหล่งน้ำ การพักชำระหนี้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังคงตรวจสอบซ้ำในปัญหาการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ และรถจักรยานยนต์รับจ้าง และสนับสนุนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการบังคับใช้กฎหมายต่อพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกปลูกยางพารา ซึ่งดำเนินการไปแล้วกว่า ๙๐,๐๐๐ ไร่ทั่วประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น: