PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ล้วงยุทธการดัน‘หมอเรวัต’นั่งผู้ตรวจฯ-ผล ปย.คสช.-นักการเมืองหญิงชื่อดัง?



วันพฤหัสบดี ที่ 07 กรกฎาคม 2559
“…เชื่อกันว่าสาเหตุที่ ‘หมอเรวัต’ จ่อคิวได้ตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากเป็น ‘เด็กฝาก’ ของ ‘อดีตนักการเมืองหญิง’ รายหนึ่งที่กำลังโด่งดังเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ในขณะนี้ โดยอดีตนักการเมืองหญิงรายดังกล่าว ได้ฝากฝัง ‘หมอเรวัต’ ไว้กับ ‘บิ๊ก คสช.’ รายหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยังรุ่งเรืองทางการเมือง ?...”
PIC dodome 7 7 59 1
“ถือเป็นครั้งแรกของ สนช. (สภานิติบัญญัติแห่งชาติ) หรือสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ที่คณะกรรมการสรรหามีการเสนอชื่อบุคคลเดิม ที่ถูกสภาไม่ให้ความเห็นชอบกลับมาอีกครั้ง”
เป็นคำยืนยันตอนหนึ่งจากปาก ‘กล้านรงค์ จันทิก’ อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสมาชิก สนช. ที่ ‘ข้องใจ’ ถึงเหตุผลที่คณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติเสนอชื่อ นพ.เรวัต วิศรุตเวช อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินอีกครั้ง ภายหลังก่อนหน้านี้ สนช. มีมติไม่เห็นชอบ 66 เสียง เห็นชอบ 66 เสียง และงดออกเสียง 24 เสียง จากผู้เข้าร่วมประชุม 156 คน ซึ่งตรงนี้นายกล้านรงค์ เห็นว่า การงดออกเสียงก็คือการไม่เห็นด้วย ดังนั้นยอดรวมจากผู้ไม่เห็นด้วยจะพุ่งถึง 90 ต่อ 66 เลยทีเดียว
“ขอฝากให้คณะกรรมาธิการตรวจสอบลงลึกในประวัติการทำงานของผู้ได้รับการเสนอชื่อ ทั้งจริยธรรม ความประพฤติและการกระทำ เพื่อประโยชน์ของผู้ได้รับการเสนอชื่อ และถ้าตรวจสอบไม่ลึกพอแล้ว สนช. มีคำถามที่ กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ไม่ได้สอบถามอาจจะเกิดความไม่สบายใจแก่สมาชิกในการลงคะแนน เพราะจะต้องลงมติด้วยความรู้สึกรับรู้ข้อเท็จจริง และเหตุผลอย่างแท้จริงบนพื้นฐานของความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ผมเห็นชื่อ กมธ. ทุกท่านแล้วเชื่อในเกียรติคุณของพวกท่าน และเชื่อว่าจะสามารถตรวจสอบประวัติได้อย่างลึกซึ้ง และตอบคำถามของสมาชิกได้” นายกล้านรงค์ กล่าว
สำหรับเบื้องหลังการเสนอชื่อ ‘หมอเรวัต’ เข้านั่งเก้าอี้ผู้ตรวจการแผ่นดินอีกครั้งนั้น คณะกรรมการสรรหาฯ ต้องโหวตกันถึง 30 รอบ โดยในรอบที่ 30 ‘หมอเรวัต’ ก็เฉือนนางสาวนีย์ อัศวโรจน์ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วยคะแนน 4 ต่อ 2 ทั้งที่ 29 ครั้งที่ผ่านมาเสนอกัน 3 ต่อ 3 ตลอด โดยผู้ที่กลับมติคือ นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
ขั้นตอนปัจจุบันขณะนี้คือได้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม สนช. แล้ว โดยมีการตั้ง กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ขึ้นมา 17 คน ได้แก่ 1.พล.อ.อ.อาคม กาญจนหิรัญ กมธ.การเมือง 2.นางนิพัทธา อมรรัตนเมธา กมธ.การบริหารราชการแผ่นดิน 3.พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ กมธ.การกฎหมายฯ 4.นายนิรวัชช์ ปุณณกันต์ กมธ.การปกครองท้องถิ่น 5.นายวิทวัส บุญญสถิต กมธ.การศึกษาและกีฬา 6.พล.อ.อ.ศิวเกียรติ ชเยมะ กมธ.การเศรษฐกิจฯ 7.พล.อ.สุรวัชร บุตรวงษ์ กมธ.การพลังงาน 8.นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ กมธ.การสาธารณสุข
9.นายศักดิ์ชัย ธนบุญชัย กมธ.การวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีฯ 10.นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ กมธ.สังคมฯ 11.พล.อ.ธีรวัฒน์ บุญยะประดับ กมธ.การเกษตรฯ 12.พล.ท.สมโภชน์ วังแก้ว กมธ.คมนาคม 13.พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข กมธ.การต่างประเทศ 14.พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก กมธ.การทรัพยากรธรรมชาติฯ 15.พล.ท.สุวโรจน์ ทิพย์มงคล กมธ.การพาณิชย์ 16.พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ กมธ.การศาสนาฯ และ 17.พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ กมธ.สามัญกิจการสภาฯ (วิป สนช.)
ล่าสุด แหล่งข่าวจาก สนช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ในวันนี้ (7/7/59) กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ได้นัดประชุมกันเพื่อเลือก ประธาน กมธ. อย่างไรก็ดีมีความพยายามจาก สนช. 2 ราย ที่ดำเนินการ ‘บล็อค’ ไม่ให้ สนช. ใน กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ เปิดประชุมได้ครบ ให้การประชุมล่ม เนื่องจากต้องการล็อบบี้ให้ พล.อ.ธีรวัฒน์ ลาออกจาก กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ เพื่อให้ พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ สมาชิก สนช. เป็นมาเป็น กมธ. แทน 
โดยมีเหตุผลเบื้องหลังคือต้องการให้ พล.อ.ยอดยุทธ นั่งเก้าอี้ประธาน กมธ. เพราะเป็นเตรียมทหารรุ่นที่ 12 รุ่นเดียวกับ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และว่ากันว่าเป็น ‘สายตรง’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อ ‘เคลียร์’ ประวัติ ‘หมอเรวัต’ ให้สะอาด-โปร่งใส ผลักดันให้ได้นั่งเก้าอี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน 
ซึ่งขณะนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ธีรวัฒน์ ได้ยื่นหนังสือลาออกแล้วด้วย ?
ทั้งนี้ถือเป็นวันแรกที่การประชุม กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ล่ม ทั้งที่มีเวลาแค่ 20 วันเท่านั้น !
โดยรายชื่อบุคคลที่ร่วมเข้าประชุมได้นั้นมีแค่ พล.อ.ฉัตรเฉลิม นางนิพัทธา พล.อ.สุรวัชร พล.อ.ธีรวัฒน์ พล.อ.อ.อาคม จึงทำให้องค์ประชุมไม่ครบและล่มลงในที่สุด
นอกจากนี้การตั้ง กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการตั้ง สนช. หลังรัฐประหาร 2557 ปกติมักมีชื่อของ พล.อ.อู้ด เบื้องบน อดีตนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เข้ามาตรวจสอบด้วยเกือบทั้งหมด 
แต่คราวนี้กลับไม่มีชื่อของ พล.อ.อู้ด มานั่งเป็น กมธ. แต่อย่างใด!
กลับมีการผลักดัน พล.อ.ยอดยุทธ ซึ่ง สนช. หลายคนเชื่อกันว่า เป็น ‘สายตรง’ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้ ?
ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ในวันที่ 8 ก.ค. 2559 จะมี สนช. ที่ร่วมเป็น กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ทยอยลาออกอีก เพราะอึดอัดกับสิ่งที่ถูกกระทำ 
ซึ่งการดันคน ๆ เดียวนั่งเก้าอี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะทำให้ สนช. ทั้ง 218 คน ‘เน่า’ ไปด้วย !
และหากที่ประชุม สนช. กลับลำลงมติโหวตเลือก ‘หมอเรวัต’ ให้เป็นผู้ตรวจการแผ่นดินตาม ‘ใบสั่ง’ จริง ก็อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัว ‘บิ๊กตู่’ และ คสช. ที่เป็นผู้ตั้ง สนช. มาได้ เพราะที่ผ่านมาในการตั้งกรรมการ ป.ป.ช. ประธานศาลปกครองสูงสุด ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวมถึงกรรมการองค์กรอิสระทั้งหลาย ทำได้ดีมาตลอด
ทั้งนี้ สนช. เชื่อกันว่าสาเหตุที่ ‘หมอเรวัต’ จ่อคิวได้ตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากเป็น ‘เด็กฝาก’ ของ ‘อดีตนักการเมืองหญิง’ รายหนึ่งที่กำลังโด่งดังเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ในขณะนี้ 
โดยอดีตนักการเมืองหญิงรายดังกล่าว ได้ฝากฝัง ‘หมอเรวัต’ ไว้กับ ‘บิ๊ก คสช.’ รายหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นอย่างยาวนานตั้งแต่ยังรุ่งเรืองทางการเมือง ?
อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘ยุทธการ’ ผลักดัน-จัดเต็ม เพื่อตอบแทนผลประโยชน์ทางการเมืองระหว่าง คสช. กับ ‘อดีตนักการเมืองหญิง’ รายนั้น 
ส่วนท้ายสุดแค่คน ๆ เดียวจะทำให้ สนช. เน่าทั้งเข่งจริงหรือไม่ รอลุ้นกันวันโหวตลงมติอีกครั้ง !

ไม่มีความคิดเห็น: