PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ลั่นกลองรบ! สนช.ฝ่าย'ประวิตร'VS'บิ๊กตู่'สงครามเลือกผู้ตรวจฯเปิดฉากแล้ว

ลั่นกลองรบ! ล้วงกลยุทธปม กก.สรรหาฯชง ‘เรวัต’ นั่งเก้าอี้ผู้ตรวจฯ เปิดฉากสงคราม สนช.สาย 'บิ๊กป้อม' vs 'บิ๊กตู่' ฝ่ายค้านงัดไม้เด็ดให้เขียนโหวตในกระดาษแทนกดบัตรป้องกันถูกกาหัว
PIC sntchdd 8 7 59 1
(8/7/59:ข้อมูล ที่มา :อิสรา)
กลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันร้อนแรงที่สุดในห้วงเวลานี้ในหมู่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
สำหรับกรณีคณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอชื่อ ‘หมอเรวัต วิศรุตเวช’ อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ เข้ามานั่งเก้าอี้ผู้ตรวจการแผ่นดินซ้ำสอง !
เนื่องจากก่อนหน้านี้คณะกรรมการสรรหาฯชุดดังกล่าวเคยเสนอชื่อ นพ.เรวัต ไปแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับเสียงข้างมาก คือ เห็นชอบ 66 ไม่เห็นชอบ 66 และงดออกเสียง 24 จากผู้เข้าร่วมประชุม 156 คน (แต่ สนช. มีทั้งหมด 218 คน) ทำให้ไม่ได้รับเลือกเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน
แต่ ‘หมอเรวัต’ ไม่ยอมแพ้ กลับเข้ามาสมัครอีกครั้ง และคณะกรรมการสรรหาฯชุดเดิม ก็เลือกให้นั่งเก้าอี้ตัวนี้อีกหน !
ท่ามกลางข้อครหา-กังขาจากบรรดา สนช. หลายคนว่า ทำไมจึงมีการเสนอชื่อบุคคลที่ สนช. มีมติเห็นชอบไปแล้วกลับมาได้อีก ซึ่งในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 
ขณะที่มีเสียงซุบซิบกันสนั่นสภาว่า ‘หมอเรวัต’ มี ‘แบ็คใหญ่’ ระดับ ‘บิ๊กในสภา-บิ๊กทหาร’ คอยหนุนหลังอยู่ ?
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องที่เคยเป็น ‘เด็กฝาก’ ของ ‘อดีตนักการเมืองหญิงชื่อดัง’ รายหนึ่งที่ปัจจุบันปรากฏบนหน้าสื่ออยู่เนือง ๆ ซึ่งว่ากันว่า อดีตนักการเมืองหญิงรายนี้เป็นคนฝากชื่อ ‘หมอเรวัต’ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของ ‘บิ๊ก คสช.’ รายหนึ่ง ซึ่งทั้งคู่เคยมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยอดีตนักการเมืองหญิงรายนี้ยังรุ่งเรืองอยู่
และด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้ 'บิ๊ก คสช.' ถอยไม่ได้ ?
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า มีความพยายามจาก ‘บิ๊ก คสช.’ ที่ต้องการผลักดันให้ พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ (เรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์) เข้ามา ‘คุมหัวโต๊ะ’ กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ‘เคลียร์ทาง’ ให้ ‘หมอเรวัต’ โดยสาเหตุสำคัญที่ใช้ พล.อ.ยอดยุทธ เพื่อเป็นการ 'อ้าง' ต่อ กมธ. ในทำนองว่าเป็น 'สายตรง' จาก 'บิ๊กตู่' ?
ทว่าท้ายสุดเจอเพื่อน ๆ ก๊วนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 เช่นกัน ได้เรียกไปพบและตักเตือน พล.อ.ยอดยุทธ จึงต้องยอมหลบฉากถอยออกมาในที่สุด
นอกจากนี้ กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ บางคนก็ ‘ขัดขืน’ ไม่ยอมเดินตามเกมดังกล่าว โดยมี สนช. อย่างน้อยตอนนี้ 2 รายแล้ว ที่ขอลาออกจากการเป็น กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ได้แก่ นายศักดิ์ชัย ธนบุญชัย และนางนิพัทธา อมรรัตนเมธา โดยมี พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ และนายปรีชา วัชราภัย เข้าไปเป็น กมธ. แทน
แหล่งข่าวจาก สนช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ในการโหวตเลือกผู้ตรวจการแผ่นดินครั้งนี้ แบ่ง สนช. ออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายสนับสนุน ฝ่ายคัดค้าน และฝ่ายพลังเงียบ
โดยฝ่ายสนับสนุน ส่วนใหญ่คือ สนช. สายทหารที่อาจเรียกได้ว่ามีความสัมพันธ์หรือสนิทสนมระดับหนึ่งกับ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พี่ใหญ่ 'บูรพาพยัคฆ์' รวมไปถึงบรรดา ’28 สนช.เกรียน’ บางคน ที่เคยยื่นเรื่องฟ้องศาลปกครอง ขอให้ สนช. ไม่ได้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน ทว่ากลับถูกศาลฯ ‘สอนหน้าที่’ กลับมา จนท้ายสุดต้องปฏิบัติตามมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินจนได้
สำหรับรายชื่อ 28 สนช. ดังกล่าว ได้แก่ 1.พล.อ.นพดล อินทปัญญา อดีตเลขานุการ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สมัยดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม 2.พ.ต.ท.พงษ์ชัย วราชิต 3.นายสุธรรม พันธุศักดิ์ 4.นายสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ 5.นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน 6.พล.อ.ไพโรจน์ พานิชสมัย อดีตนายทหารคนสนิท (ทส.) พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ 7.นายชัชวาล อภิบาลศรี อดีต ส.ว.สรรหา 8.พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) สมัย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็น ผบ.ตร. 9.นายประมุท สูตะบุตร อดีตผู้อำนวยการ อสทม คนแรก สายสัมพันธ์เครือญาติคู่สมรสนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 10.พล.อ.จิรพงศ์ วรรณรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษากองทัพบก
11.พล.อ.ไตรรัตน์ รังคะรัตน ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า เตรียมทหารรุ่นที่ 10 (รุ่นเดียวกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ. และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) 12.นายธำรง ทัศนาญชลี อดีต ส.ว.สรรหา 13.นางสุวิมล ภูมิสิงหราช อดีตเลขาธิการวุฒิสภา 14.พล.อ.ชยุติ สุวรรณมาศ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองบัญการกองทัพไทย 15.นายศรีศักดิ์ ว่องส่งสาร 16.พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก สนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร 17.นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย 18.พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) 19.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. น้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 
20.พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ อดีต ส.ว.สรรหา 22.พล.อ.โสภณ ศีลพิพัฒน์ อดีตเสนาธิการทหารบก 22.พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ นายตำรวจคนสนิท ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ จบเตรียมนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 25 (รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.พัชรวาท) 23.พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) 24.พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ อดีต ผบ.หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก (นปอ.) เตรียมทหารรุ่นที่ 12 (รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) 25.พล.อ.ยุวนัฏ สริยกุล ณ อยุธยา อดีต ผบ.กองอัยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เตรียมทหารรุ่นที่ 12 (รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์) 26.นายธานี อ่อนละเอียด อดีต ส.ว.สรรหา 27.พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ อดีตประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม อดีตแม่ทัพภาคที่ 1 28.พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.)
สำหรับฝ่ายคัดค้านส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มอธิการบดี-นักวิชาการ กลุ่มพลเรือน บางส่วนของกลุ่ม ’40 ส.ว.’ และบรรดาทหารที่เรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 หลายคน (รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ และหลายคนมีสัมพันธ์ใกล้ชิด หรือสนิทสนมกับ 'บิ๊กตู่') 
ส่วนที่เหลือเป็นฝ่ายพลังเงียบ คือกลุ่มนักวิชาการ-กลุ่มอดีตข้าราชการ ที่ยังไม่ตัดสินใจ หรือบางคนเลือกแล้วแต่ไม่กล้า ‘เปิดหน้าสู้’ เป็นต้น
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ กรณีนี้ทาง สนช. จะไม่มีการหารือถกกันเหมือนกับกรณีการลงมติในเรื่องอื่น ๆ เพราะมีปัญหาเยอะ จึงปล่อยให้แต่ละคนโหวตกันอย่างอิสระ ตัดสินใจกันเอาเอง ซึ่งคล้าย ๆ กับกรณีลงมติไม่ถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ที่มีคะแนนเสียงออกมาก้ำกึ่งกันแต่ห่างกันไม่มากนัก
แต่บรรดา สนช. ฝ่ายคัดค้าน ‘หมอเรวัต’ มี ‘ไม้เด็ด’ อยู่คือ เตรียมจะเสนอต่อที่ประชุม สนช. เพื่อขอให้การโหวตดังกล่าวใช้การเขียนชื่อลงในกระดาษ แทนที่จะใช้บัตรเสียบโหวตเหมือนกรณีอื่น ๆ 
ซึ่งตรงนี้จะส่งผลดีคือบรรดา ‘ฝ่ายพลังเงียบ’ กล้าตัดสินใจ เนื่องจากการเขียนลงในกระดาษ ไม่ได้ทิ้งร่องรอยหรือหลักฐานอะไรไว้ว่าใครเป็นเขียน ซึ่งแตกต่างจากกรณีการเสียบบัตรลงมติ แม้จะเป็นการลงมติลับก็ตาม แต่ก็ยังปรากฏชื่ออยู่ในระบบว่าใครเป็นคนโหวตแบบไหนบ้าง
นัยว่าเป็นการป้องกันถูก ‘กาหัว’ จาก ‘บิ๊ก คสช.’ ที่อาจไม่พอใจ หากโหวตสวนทางกับธงที่ตั้งไว้ได้ ?
ไม่ว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดจะเป็นเช่นไร แต่อาจเรียกได้ว่า สงครามระหว่าง สนช. ฝ่าย 'บิ๊กป้อม' VS สนช. ฝ่าย 'บิ๊กตู่' ได้เปิดฉาก-ลั่นกลองรบขึ้นแล้ว ! 
และหากยังบานปลายหาบทสรุปไม่ได้ ก็อาจเป็นชนวนนำไปสู่การล่มสลายของ สนช. ทั้งหมดได้ ไม่ช้าก็เร็ว ?

ไม่มีความคิดเห็น: