'ไม่มีพื้นที่ไหนในโลกหนีธรณีพิโรธได้'
7 ข้อรู้ไว้ ไหวตัวทันแน่! http://www.thairath.co.th/content/497369)
1. แผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้ไง?
2. ระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว
3. ที่ไหนปลอดภัยจากแผ่นดินไหว?
4. สหรัฐอเมริกาเกิดแผ่นดินไหวทั่วประเทศ
5. บนโลกนี้ ที่ไหนเกิดแผ่นดินไหวน้อยที่สุด?
6. ไทยก็เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเช่นกัน
7. วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว
1. แผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้ไง?
2. ระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว
3. ที่ไหนปลอดภัยจากแผ่นดินไหว?
4. สหรัฐอเมริกาเกิดแผ่นดินไหวทั่วประเทศ
5. บนโลกนี้ ที่ไหนเกิดแผ่นดินไหวน้อยที่สุด?
6. ไทยก็เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเช่นกัน
7. วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว
1. แผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้ไง?
แผ่นดินไหว เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของพื้นดิน อันเนื่องมาจากการปลดปล่อยพลังงานที่สะสมไว้ภายในโลกออกมา เพื่อปรับสมดุลของเปลือกโลกให้คงที่ ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถทำนายเวลา สถานที่ และความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
การเกิดแผ่นดินไหวมีสาเหตุมาจาก 2 สาเหตุใหญ่ อย่างแรกเกิดจากการกระทำของมนุษย์ ได้แก่ การทดลองระเบิดปรมาณู การกักเก็บน้ำในเขื่อน และแรงระเบิดจากการทำเหมืองแร่ ส่วนอย่างที่สองเป็นสาเหตุหลักของการเกิดแผ่นดินไหว คือ เกิดขึ้นตามธรรมชาติอันเนื่องมาจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก ทั้งนี้ทฤษฎีกลไกการเกิดแผ่นดินไหวที่ยอมรับกันในปัจจุบันมี 2 ทฤษฎีคือ
- ทฤษฎีว่าด้วยการขยายตัวของเปลือกโลก : เกิดจากการที่เปลือกโลกเกิดการคดโค้ง โก่งตัวอย่างฉับพลัน และเมื่อวัตถุขาดออกจากกันจึงปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปคลื่นแผ่นดินไหว
- ทฤษฎีว่าด้วยการคืนตัวของวัตถุ : เมื่อรอยเลื่อนเคลื่อนตัวจนถึงจุดหนึ่ง วัตถุจะขาดออกจากกันและเสียรูปอย่างมาก พร้อมทั้งปลดปล่อยพลังงานมหาศาลออกมาในรูปของคลื่นแผ่นดินไหว และหลังจากนั้นวัตถุจะคืนตัวกลับสู่รูปเดิม
2. ระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว
ความร้ายแรงอันเนื่องมาจากแผ่นดินไหวสามารถบอกได้ในรูปของความรุนแรง (Intensity) และขนาด (Richter Magnitude) ของแผ่นดินไหว โดยแบ่งความรุนแรงและขนาดได้ดังนี้
ขนาด น้อยกว่า 3.0 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 1-2 สิ่งที่พบคือ ประชาชนไม่รู้สึกถึงแรงสั่น ตรวจวัดได้เฉพาะเครื่องมือ
ขนาด 3.0-3.9 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 3 สิ่งที่พบคือ คนอยู่ในบ้านเท่านั้นที่รู้สึก
ขนาด 4.0-4.9 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 4-5 สิ่งที่พบคือ ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกได้
ขนาด 5.0-5.9 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 6-7 สิ่งที่พบคือ ประชาชนทุกคนรู้สึก และอาคารเสียหาย
ขนาด 6.0-6.9 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 7-8 สิ่งที่พบคือ ประชาชนตื่นตกใจ และอาคารเสียหายปานกลาง
ขนาด 7.0-7.9 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 9-10 สิ่งที่พบคือ อาคารเสียหายอย่างมาก
ขนาด มากกว่า 8.0 แมกนิจูด มีความรุนแรงระดับ 11-12 สิ่งที่พบคือ อาคารเสียหายเกือบทั้งหมด
3. ที่ไหนปลอดภัยจากแผ่นดินไหว?
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นทุกเวลาทุกนาที โดยเป็นแผ่นดินไหวขนาดตั้งแต่ 2 แมกนิจูดขึ้นไป เฉลี่ยแล้วเกิดขึ้นนาทีละ 2 ครั้งทั่วโลก พูดได้ว่าทุกพื้นที่บนโลกสามารถเกิดแผ่นดินไหวทั้งนั้น และสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยๆ ด้วย เพียงแต่ว่าจะเกิดครั้งใหญ่ หรือระดับปานกลาง หรือเกิดเพียงเล็กน้อย (แทบจะไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน) เท่านั้นเอง ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็พบแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์ของทุกประเทศบนโลกล้วนเคยประสบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวทั้งสิ้น
การเกิดแผ่นดินไหวส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในพื้นที่ที่เป็นเปลือกโลก แต่ในภาพรวมมันก็สามารถพบได้ทั่วทุกพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น สหราชอาณาจักร (UK) เคยเกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับปานกลางบ่อยถึง 4-5 ครั้ง ทั้งๆ ที่พื้นที่ของประเทศไม่ได้ตั้งอยู่บนรอยต่อของเปลือกโลก นั่นเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ดูเหมือนว่า...ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนบนโลก ก็แทบไม่มีโอกาสรอดจากมันได้เลย
4. สหรัฐอเมริกาเกิดแผ่นดินไหวทั่วประเทศ
มีข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยา ของศูนย์ข้อมูลแผ่นดินไหวในสหรัฐอเมริกา (USGS) พบว่าทั้ง 50 รัฐในประเทศล้วนเคยประสบภัยแผ่นดินไหวในระดับใดระดับหนึ่ง (รุนแรงมากถึงรุนแรงน้อย) หรือไม่ก็พบได้ทุกระดับความรุนแรงในพื้นที่เดียวกัน สำหรับรัฐที่พบแผ่นดินไหวน้อยที่สุดคือรัฐฟลอริดา และ รัฐนอร์ท ดาโคตา โดยแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในฟลอริดา เกิดขึ้นในปี 2006 และก่อนหน้านั้นเคยเกิดเมื่อนานมาแล้วในปี 1952
ส่วนรัฐนอร์ท ดาโคตา เมื่อก่อนเคยถูกเชื่อว่าเป็นรัฐที่ไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวมาก่อน มีบทความจากหลายสำนักอ้างว่ารัฐนอร์ท ดาโคตา เป็นสถานที่ที่คนเกลียดแผ่นดินไหวน่าจะชอบไปอาศัยอยู่มากที่สุดในสหรัฐฯ แต่ต่อมา รัฐนี้ก็ถูกบันทึกว่ามีแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 1975 ซึ่งมีศูนย์กลางแรงสั่นสะเทือนอยู่ที่เมืองมินนิโซตา ซึ่งก็มีผลกระทบต่อเมืองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และก่อนหน้านั้นพบว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในรัฐเดียวกันนี้เมื่อปี 1968 มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองฮัฟ ซึ่งตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.4 แมกนิจูด
5. บนโลกนี้ ที่ไหนเกิดแผ่นดินไหวน้อยที่สุด?
ถ้าคุณกำลังพยายามที่จะหลีกหนีภัยคุกคามจากแผ่นดินไหว สถานที่ที่คุณอาจจะต้องการย้ายไปอยู่คือ ทวีปแอนตาร์กติกา เพราะตามข้อมูลของ USGS ระบุว่าพื้นที่แถบนั้นมีการเกิดแผ่นดินไหวน้อยกว่าทวีปอื่นๆ
6. ไทยก็เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเช่นกัน
ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวอยู่หลายที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ จากสถิติการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยที่ผ่านมาเกือบ 40 ปี พบว่ามีแผ่นดินไหวขนาดกลาง (5.0-5.9 แมกนิจูด) เกิดขึ้น 8 ครั้ง หรือเฉลี่ย 1 ครั้งในรอบ 5 ปี ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก
แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ไทยสูญเสียมากที่สุด นั่นคือเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.58 น. ตามเวลาในประเทศไทย ศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้มหาสมุทรอินเดีย ใกล้ด้านตะวันตกของตอนเหนือเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยความรุนแรงระดับ 9.1-9.3 แมกนิจูด กระตุ้นให้เกิดคลื่นสึนามิสูงราว 30 เมตร เข้าท่วมทำลายบ้านเรือนตามแนวชายฝั่งโดยรอบ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 230,000 คน ใน 14 ประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย
7. วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว
ในเมื่อทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถพยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นเราจึงควรรู้ข้อปฏิบัติตัวเวลาเกิดแผ่นดินไหวไว้ก่อนดีกว่า โดยเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ให้อยู่อย่างมีสติ คิดหาหนทางที่ปลอดภัย หมอบอยู่บริเวณที่สามารถป้องกันสิ่งของหล่นใส่ เช่น บริเวณใต้โต๊ะ ใต้เตียง หลีกเลี่ยงให้ห่างจากหน้าต่าง
หากอยู่นอกอาคารให้อยู่ในที่โล่ง ห่างจากสิ่งห้อยแขวนต่างๆ หากอยู่ในอาคารสูงให้รีบออกจากอาคารโดยเร็วและห้ามใช้ลิฟต์โดยเด็ดขาด หนีให้ห่างจากสิ่งที่จะล้มทับได้ หากกำลังขับรถให้หยุดรถและอยู่ภายในรถ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนจะหยุด หากอยู่ชายหาดให้อยู่ห่างจากชายฝั่ง เพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง
เมื่อแรงสั่นสะเทือนหยุดลง ให้รีบออกจากอาคารที่เสียหายทันที เพราะอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมา จากนั้นให้ตรวจสอบตัวเองและคนข้างเคียง ถ้าพบคนบาดเจ็บให้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากต้องอพยพให้สวมรองเท้าหุ้มส้นเสมอ เพราะอาจมีวัสดุแหลมคมอยู่ตามพื้น ออกห่างจากบริเวณที่สายไฟขาด ส่วนในกรณีที่ไม่ต้องอพยพ ให้ตรวจสายไฟ ท่อน้ำ ท่อแก๊ส ยกสะพานไฟ อย่าจุดไม้ขีดไฟ ให้ใช้วิธีดมกลิ่นเท่านั้น ถ้าได้กลิ่นแก๊สให้ปิดวาล์วถังแก๊ส เปิดประตูหน้าต่างทุกบาน เปิดวิทยุฟังคำแนะนำฉุกเฉิน อย่าใช้โทรศัพท์ อย่าเข้าไปในเขตอาคารพัง และไม่ควรแพร่ข่าวลือถ้าไม่ได้ตรวจสอบให้ถูกต้องเสียก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น