PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แล้งสุดในรอบ51ปีผู้ว้า กปน.บอกน้ำมีพอผลิตให้ปชช.ได้อีกเพียง30วันให้ประหยัดสำรองน้ำไว้ใช้ครัวเรือน

WEDNESDAY, 24 JUNE 2015 07:23
เขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์-ป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำร่วม 3 เขื่อน มีเพียง 9 ร้อยล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีการปล่อยน้ำทุกวัน หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ไม่มีฝน กปน. ผลิตน้ำจ่ายให้ประชาชน ได้อีกเพียง 30 วัน  
วันที่ 24 มิถุนายน 2558 ที่โรงสูบน้ำดิบสำแล จ.ปทุมธานี นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการประปานครหลวง (กปน.) นำสื่อมวลชน ติดตามสถานการณ์การผลิตน้ำประปา พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมมือกันใช้น้ำอย่างประหยัด

นายธนศักดิ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในภาพรวม ถือว่า แล้งที่สุดในรอบ 51 ปี มีปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จำนวนรวมกัน อยู่ที่ 900 ล้านลูกบาศก์เมตร ในแต่ละวันจะปล่อยน้ำลงมาจำนวน 30 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ซื่งในจำนวนน้ำที่ปล่อยลงมานี้ ทาง กปน. นำมาใช้ผลิตน้ำประปา จำนวน 3.6 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน หากคำนวนแล้ว เท่ากับจะสามารถผลิตเป็นน้ำประปาจ่ายให้ประชาชนใช้ได้ตามปกติ อีกเพียง 30 วันเท่านั้น

กปน. ได้ประเมิณสถานการณ์ภัยแล้งเบื้อนต้น จะสามารถจ่ายน้ำให้ประชาชนใช้น้ำในระดับปกติได้เพียง แค่ 30 วัน ระหว่างนี้หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น กปน. ก็จะทำการพิจราณาลดการจ่ายน้ำเพิ่มอีก ตามความเหมาะสม

ผู้ว่าการ การประปานครหลวง กล่าวว่า ตั้งแต่ 12 พฤษภาคม 2558 ได้มีการลดการผลิตน้ำประปาที่รับน้ำมา จากแม่น้ำเจ้าพระยาราว 10% โดยลดจากกำลัง ผลิตเดิม 3.9 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เหลือ 3.6 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน พร้อมแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์น้ำภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ประชาชนปรับตัวและเตรียมกักเก็บน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค

ปริมาณน้ำ ที่ประชาชน ควรสำรองเฉลี่ย 60 ลิตรต่อครอบครัว ซึ่งจะสมารถมีน้ำใช้ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ต่อครอบครัว ทั้งนี้ กปน. จะมีการประสานกับกรมชลประทานเพื่อขอให้มีการปล่อยน้ำสำรองลงมาใช้ก่อน พร้อมทั้งจะมีการจัดรถน้ำบริการน้ำดื่มแจกจ่ายให้กับประชาชนซึ่งจะสามารถแจกจ่ายให้กับประชาชนได้เฉลี่ยประมาณ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน โดยจะนำน้ำมาจากโรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ซึ่งจะดึงน้ำมาจากแม่น้ำแม่กลอง

ขณะที่ สถานการณ์ความเค็มในน้ำดิบนั้นอยู่ที่ 0.13 g/L (กรัม/ลิตร) ซึ่งมาตรฐานความเค็มโดยปกติแล้วต้องไม่เกิน 0.25 g/L (กรัม/ลิตร) ตามที่องค์การอนามัยโลกได้ระบุไว้ ค่าที่วัดเบื้องต้นนั้นยังถือว่า ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่วิกฤติ หากเกิดวิกฤติน้ำเค็มพื้นที่เขตที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่ พื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา คือ กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ

อย่างไรก็ตาม ขอแนะประชาชนและทุกภาคส่วน ควรประหยัดน้ำและพร้อมให้สำรองน้ำไว้ในยามฉุกเฉิน และในปี 2559-2565 การประปานครหลวง (กปน.) มีโน้มที่จะปรับราคาน้ำประปาเพิ่มอีกสูงสุดไม่เกิน 1 บาท 50 สตางค์จากเดิม 8 บาท 50 สตางค์ เพื่อนำเงินไปลงทุนปรัปปรุงระบบน้ำประปาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
add a comment

ไม่มีความคิดเห็น: