PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

บทสัมภาษณ์สมาชิกสภาคองเกรส “สี จิ้นผิงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเยือนสหรัฐฯ"


บทสัมภาษณ์สมาชิกสภาคองเกรส “สี จิ้นผิงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเยือนสหรัฐฯ"

“การเยือนสหรัฐอเมริกาของสี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีนมีนัยยะสำคัญและเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างที่สุดเพราะถือเป็นโอกาสดีที่ผู้นำของชาติมหาอำนาจทั้งสองฝ่ายจะได้ปรึกษาหารือกันในปัญหาที่สำคัญต่างๆ” นาย ริค ลาเซน สมาชิกสภาคองเกรสกล่าวระหว่างการสัมภาษณ์กับนักข่าวซินหัว
เขากล่าวว่าการเยือนสหรัฐฯของสี จิ้นผิงครั้งนี้มีความหมายมากและการเยือนในวันที่ 22-25กันยายนนี้เป็นช่วงเวลาที่กำลังประจวบเหมาะ ลองมาดูกันว่าความคิดเห็นของเขาในแง่มุมต่างๆต่อการเยือนสหรัฐฯของสีในครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง
1.“ความหวังและอุปสรรค”
เขาเปรียบความสัมพันธ์ของสหรัฐฯและจีนว่าเป็น “เรื่องราวแห่งความหวังและอุปสรรค”โดยกล่าวว่าในขณะนี้จีนและสหรัฐฯมีความหวังและความปรารถนาที่จะร่วมมือกันในหลายๆด้านเช่นปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกอย่างเช่นปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่สีให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการแก้ไขไปพร้อมๆกับการปฏิรูปเศรษฐกิจ แต่เขาก็กล่าวว่าความสัมพันธ์ของจีนและสหรัฐก็ยังคงมีอุปสรรคบางประการ เช่นปัญหาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์และปัญหาในทะเลจีนใต้และเขาหวังให้ทั้งสองประเทศหันหน้าเข้าหากันพร้อมทั้งพูดคุยกันในเรื่องปัญหาต่างๆในข้างต้นอย่างจริงใจ

2.เริ่มต้นทริปเยือนสหรัฐฯที่ซีแอตเทิล
สี จิ้นผิงจะเริ่มต้นทริปเยือนสหรัฐฯในเมืองซีแอตเทิลในรัฐวอชิงตันซึ่งเป็นบ้านเกิดของลาเซน และที่นั่นเองเขาจะได้พบกับบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสจากวอชิงตัน ผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐฯรวมถึงชาวอเมริกันเชื้อสายจีนในรัฐดังกล่าว เมื่อถูกถามว่าหากคุณได้พบสี จิ้นผิงคุณจะถามคำถามอะไร ลาเซนตอบว่าเขาคงจะพูดถึงการสนับสนุนให้จีนเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจต่อไปเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ ทั้งยังกล่าวอีกว่าอยากให้สีมาชมผลิตภัณฑ์บางอย่างที่ผลิตในรัฐวอชิงตันที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคชาวจีนต้องการเช่นอากาศยานจากบริษัทโบอิ้งและซอฟแวร์จากบริษัทไมโครซอฟท์ซึ่งถือว่าเป็นสองบริษัทชั้นนำของรัฐวอชิงตัน

3.ความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อถูกถามถึงความสำเร็จในความพยายามร่วมกันในการสร้างความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ของสองประเทศ เขาได้ยกตัวอย่างเรื่องความพยายามร่วมกันในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนที่ทั้งสองเคยประกาศไว้ในการประชุมที่กรุงปักกิ่งในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เขาเสริมว่าอยากเห็นความร่วมมือในขั้นต่อไปของทั้งสองฝ่ายในการต่อสู้กับปัญหาสภาพอากาศว่าจะเป็นอย่างไร
จากนั้นเขาได้กล่าวถึงความสำเร็จประการที่สองซึ่งก็คือเรื่องสนธิสัญญาการคุ้มครองการลงทุนแบบทวิภาคี (BIT)ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาที่เข้มข้นของทั้งสองฝ่าย เพราะสนธิสัญญานี้จะเป็นเครื่องมือในการเพิ่มความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจของทั้งสองชาติ เขากล่าวว่าสหรัฐนยังคงให้การสนับสนุนให้จีนใช้นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจและนโยบายการค้าที่เปิดกว้างมากขึ้น

4.มองข้ามความผกผันในความสัมพันธ์
เมื่อกล่าวถึงคณะทำงานร่วมสหรัฐ-จีน ลาเซนกล่าวว่า หนึ่งในงานของเขาคือความรู้สมาชิกใหม่ของสภาคองเกรสเกี่ยวกับแง่มุมต่าง ๆ ของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนอย่างต่อเนื่อง โดยคณะมักจะเชิญผู้เชี่ยวชาญเรื่องประเทศจีนจากจีนรวมถึงเจ้าพนักงานรัฐของจีนมายังอาคารรัฐสภาเพื่อให้ความรู้และความเข้าใจที่มีต่อประเทศจีนแก่สมาชิก นอกจากนี้ยังมีการจัดให้มีทริปดูงานที่จีนเพื่อเรียนรู้ความเป็นจีนอีกด้วย
เขากล่าวว่าตนเองได้ไปประเทศจีนมาแล้วถึง 9 ครั้งและอยากจะให้ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนและร่วมมือกันในความท้ามายใหม่ๆแต่ความท้าทายนั้นน่าจะเป็นปัญหาของสหรัฐอเมริกาเสียมากกว่าเพราะมีหลายคนกังวลว่าการไปจีนบ่อยๆจะทำให้คนอื่นมองว่าสมาชิกสภาคองเกรสสนิทสนมกับจีนมากเกินไป แต่อย่างไรก็ดีเขาเชื่อว่าสหรัฐฯเองก็ยังคงมองหาทางที่จะสร้างมิตรภาพกับจีน

เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนของทั้งสองประเทศเขาก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า“ผมคิดว่าความสัมพันธ์แบบขึ้นๆลงๆขึ้นเป็นเรื่องปกติเพราะมีขึ้นก็ย่อมมีลง”เขาเปรียบเปรยความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศว่าไม่ต่างอะไรกับตลาดหุ้นของสหรัฐฯ พร้อมทั้งแนะนำว่า “เราต้องอย่าไปมองที่ความผกผันขึ้นลงของความสัมพันธ์แต่จงมองไปข้างหน้าเพราะสิ่งนี้จะสามารถผลักดันให้ความสัมพันธ์และมิตรภาพของทั้งสองพัฒนาไปในทางที่ดีได้”
คำบรรยายภาพ:การประชุมของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงและประธานาธิบดีบารัค โอบามา ณ รีสอร์ทแอนนาเบอร์ก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ปี 2013
สามารถติดตามการเยือนสหรัฐของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในวันที่ 22-25 กันยายนนี้ได้ที่ทวิตเตอร์ ยูทูปและเฟสบุ๊คของสำนักข่าวซินหัวดังนี้
http://twitter.com/XHNews
http://www.facebook.com/XinhuaNewsAgency
http://www.youtube.com/user/ChinaViewTV

ไม่มีความคิดเห็น: