PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

ทางออกรธน.ของชาติไทย

ทางออกรธน.ของชาติไทย
ร่างรธน.ฉบับใหม่กำลังสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ที่ทุกฝ่าย ทุกพรรค ทุกสี ทุกพวก ตุลาการ อัยการ องคมนตรี องค์กรท้องถิ่น ต่างออกมาปฏิเสธการยอมรับ เฉพาะมาตราเกี่ยวกับกก.ยุทธศาสตร์เพื่อการปรองดอง ที่จะมี นายก ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้เแทน ผู้นำเหล่าทัพ เป็นคณะกรรมการ แค่หลักคิดอันนี้ ก็สะท้อนให้เห็นชัดว่า ผู้คิดร่างมาตรานี้ ยังไม่ตกผลึกทางความคิด ความขัดแย้งการปกครองไทยตลอด 83 ปี แถมลดอำนาจคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติในการเอาผิดคนทุจริตลงอีก
หากมีการเลือกตั้งแล้วมีการตั้งกก.ตามร่างรธน. จะส่งผลให้ประเทศตกอยู่ในมือของคนที่มีตำแหน่งเป็นนายกฯคนเดียว ที่จะสามารถควบคุมได้ทั้ง บริหาร นิติบัญญัติ และความมั่นคง อันเป็นหลักศูนย์รวมอำนาจเบ็ดเสร็จที่คนๆเดียวทันที รัฐบาลจะกลายเป็นรัฐบาลเผด็จการ ที่จะยึดคำสั่งของนายกฯเป็นใหญ่ อันนี้อันตรายมาก ขนาดปัจจุบัน อำนาจแบ่งเป็น ตุลาการ บริหาร นิติบัญญัติ แยกออกจากกัน ดันทะลึ่งมาจับรวมอำนาจที่คนๆเดียว ที่ผ่านมาทุจริต วุ่นวายมากมายขนาดนี้ อนาคตจะขนาดไหน
คนคิดเอาเหล่าทัพมาเป็นกก.ยุทธศาสตร์ คงคิดแบบตื้นๆว่า เหล่าทัพจะได้มีส่วนตัดสินใจในยุทธศาสตร์ชาติด้วย แต่หลักนี้ผิด มันจะกลายเป็นการรวบอำนาจมาที่คนๆเดียวคือนายก คือนักการเมือง อำนาจการต่อรอง เสียง พลัง เขาจะมีมากกว่าเหล่าทัพตามหลักทฤษฎีเกมส์ นักการเมืองคือผู้กำหนดชะตาผู้นำเหล่าทัพว่าจะเป็นใคร คนต่อไปแม้จะมีสภากลาโหมรองรับ เพราะเขามาจากการเลือกตั้ง สั่งปรับแผนอ้างยุทธศาสตร์ชาติได้ทุกเวลา
อย่าคิดลอกแนวคิด คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ที่ผมเคยเสนอไปเลย มันไม่ใช่แบบนี้ แค่ลอกวาทกรรมสภาปฏิรูปประเทศของผมไปใช้ ก็ใช้ผิดทาง ของจริงมิใช่แบบนี้ จนต้องยุบสภาปฏิรูปประเทศลง จนต้องรื้อเกมส์ใหม่แล้วหวังว่าจะคัดสรรคนใหม่มาในสภาขับเคลื่อน คงเป็นบทเรียนที่ดี สิ่งเหล่านี้ที่ทำไปแก้ไป เพราะมันขัดหลักยุทธศาสตร์การเมือง ทำไปสักพักก็จะต้องหยุดเพราะมันจะจนกระดานด้วยตัวของมันเอง
ต่อให้รัฐธรรมนูญผ่าน ทั้งสภาปฏิรูปประเทศแห่งชาติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทั้ง 2 สภา แต่ลงประชามติก็ยากที่จะผ่าน เพราะรธน.2550 ขนาดมี ปชป. เหลือง ช่วยกันเต็มสูบ ในปี 2549 ชนะเพียง 53% ตอนนี้ ปชป. เหลือง แดง ทุกพรรค องค์กรตุลาการ องค์กรท้องถิ่น ก็ไม่มีใครเอา แม้ต่อให้ผ่านประชามติผ่านก็จะเกิดม๊อบออกมาต่อต้าน เกิดความวุ่นวาย เหมือนในอดีต งานนี้คงมิพ้นมีการเช็คบิลทั้งคนร่าง และคนบริหารปัจจุบันเป็นธรรมชาติ
ทางออกของชาติมีทางเดียวคือ ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ประเทศจะปฏิรูปสำเร็จ จะต้องมีรัฐบาลพลเรือนที่เชี่ยวชาญด้านการบริหาร ปฏิรูป มาเป็นผู้บริหาร ตั้งรัฐบาลปฏิรูป ทำหน้าที่ปฏิรูปประเทศจนกว่าจะแล้วเสร็จ อาจใช้เวลาบ้างแต่ก็ต้องอดทน โดยมีคสช.คอยประคับประคอง ต่างชาติ คนไทย นักลงทุน มวลชน ทุกพรรค ทุกสีจึงจะยอมรับ เศรษฐกิจ ส่งออก ความเชื่อมั่นนักลงทุน ทุกอย่างจึงจะดีขึ้น
ร่างรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นหากผ่าน ก็จะเข้าสู่การเลือกตั้ง การปฏิรูปก็จะไม่เกิดอีกเลย สรุปความโดยย่อว่าควรคว่ำรธน. แต่จะคว่ำที่ไหน อย่างไร ก็พิจารณาเอาเอง แต่ถ้าหลุดไปลงประชามติเมื่อไหร่ หากไม่ผ่าน งานนี้ลงหลังเสือไม่สวยแน่นอน หรือจะหักมุมให้สนช.มีมติไม่ลงประชามติ ลากมาใช้เลยประเทศก็จะก้าวสู่เลือกตั้ง ชาติก็จะกลับเข้าโมดขัดแย้งตามเคย สิ่งที่มวลมหาประชาชนนับสิบล้านคนออกมาบนถนน ทั้งบาดเจ็บ ล้มตาย นับพันคน ก็จะเป็นอันสูญเปล่าทันที
"สู้เข้าไปอย่าได้ถอย มวลชนคอยเอาใจช่วยอยู่ รวมพลังทำลายเหล่าศัตรู พวกเราสู้เพื่อความยุติธรรม เราเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ สู้เข้าไปด้วยความมุ่งมั่น เขาจะฟาดเขาจะฟัน เราสู้มันเรายอมสู้ตาย"
เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
1 กันยายน 2558
(กปปส.แถลงจุดยืนร่างรธน.)

ไม่มีความคิดเห็น: