เมื่อวันที่ 4 ก.พ.นายสาธิต เซกัล ประธานกลุ่มนักธุรกิจสีลม ให้สัมภาษณ์หลังศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ได้แถลงว่าจะแจ้งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสั่งเนรเทศ เนื่องจากร่วมกระทำผิดพรก.ฉุกเฉินกับกลุ่มกปปส. นายสาธิตกล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงถูกเพ่งเล็ง เนื่องจากตั้งแต่มีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ก็ได้ยุติบทบาทไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยอีก และที่ผ่านมาก็ไม่เคยด่าใครบนเวที อาจมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเศรษฐกิจบ้างก็ในฐานะประธานหอการค้าไทย-อินเดีย
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดแนวทางการต่อสู้คดี เนื่องจากยังไม่ทราบรายละเอียดว่าข้อกล่าวหาเป็นอย่างไร นายสาธิต กล่าวว่า แม้ว่าจะถือสัญชาติอินเดียเพราะเกิดในประเทศอินเดีย แต่ครอบครัวได้อยู่ในประเทศไทยมาไม่ต่ำกว่า 70 ปี และพี่น้อง 4 คน ก็มีสัญชาติไทยทั้งสิ้น ส่วนตัวอยู่ในประเทศไทยและนับว่าเป็นคนไทยคนหนึ่ง รวมทั้งตลอดชีวิตที่อยู่ในประเทศไทย 55 ปี ได้ทำความดีให้กับประเทศมาโดยตลอด ส่วนตัวเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีมา 6 สมัย ทั้งในรัฐบาลชวน หลีกภัย รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ยืนยันว่าทำงานเพื่อประโยชน์กับประเทศ ไม่ได้รับใช้พรรคใดพรรคหนึ่ง "เวลาผมไปเจรจากับรัฐบาลอินเดีย ผมก็นั่งอยู่ฝั่งไทยและปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทยมาโดยตลอด ผมเป็นประธานหอการค้าก็ทำให้การค้าระหว่างไทยกับอินเดียเพิ่มขึ้นจาก 1,000 ล้านบาท เป็น 1 หมื่นล้านบาท ยังไม่นับงานสังคมสงเคราะห์ที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ประวัติการทำงานก็ไม่เคยรับใต้โต๊ะหรือสินบนใดๆ ถามว่านี่คือสิ่งที่ตอบแทนกับผมหรือ"นายสาธิต กล่าว Posttoday
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น