PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กลศึก′หลักสี่′ ล่อ′เสือ′ออกจากถ้ำ อาวุธ′สงคราม′

กลศึก′หลักสี่′ ล่อ′เสือ′ออกจากถ้ำ อาวุธ′สงคราม′

วันที่ 05 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 15:30:16 น.





ไม่ว่าสถานการณ์ ณ แยกหลักสี่ นับแต่บ่ายวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ จะดำเนินไปอย่างชนิด "อุบัติเหตุ"คือ เกิดขึ้นเอง

หรือดำเนินไปอย่างมีการจัดวางด้าน"กลยุทธ์"
เป็นการจัดวางด้านกลยุทธ์ ตามหลักการอันซุนวูตราเอาไว้ในบทว่าด้วยประเมินศึกอย่างยืดหยุ่น พลิกแพลง

เริ่มต้นด้วยประโยค "อันสงครามนั้น คือ การใช้เล่ห์เพทุบาย"
ไม่ว่าการเคลื่อนจากเวทีศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ไปปิดล้อมหนทางเข้า-ออกสำนักงานเขตหลักสี่ ล้วนมีเป้าหมาย

ไม่ว่าการปล่อยข่าวชาวหลักสี่ติดต่อกำลังจาก "โกตี๋" ให้มาช่วย

พลันที่มีข่าวการขับเคลื่อนขอความร่วมมือจาก "โกตี๋" ก็เหมือนเสือกระสากลิ่นเก้ง การตระเตรียมกำลังพลจากเวทีแยกลาดพร้าวก็ดำเนินไปอย่างคึกคัก

เป็นความคึกคักอัน "ส.จ.ตั้ม" เจ้าประจำแยกลาดพร้าวยืนยันเอง

"จังหวะที่ทั้ง 2 ยิงและถอยหลังพาคนของเราหลบไปตามแนวแบริเออร์คอนกรีตนั้นดูแป๊บเดียวก็รู้ว่าเป็นการปฏิบัติการทางยุทธวิธีที่ฝึกฝนมา"

ถามว่าใครได้ใครเสีย จาก "ยุทธการ" แยกหลักสี่

การยืนยันโดย "ส.จ.ตั้ม" เจ้าประจำเวทีแยกลาดพร้าว ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากที่ได้ยินจากแกนนำท่านอื่นแห่ง กปปส.

ไม่ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ว่า

"มีการใช้ปืนเอ็ม 16 ปืนทาโวร์ ปืนสั้น รวมถึงภาพที่ใช้ถุงปุ๋ยคลุมอาวุธปืนเพื่อไม่ให้ปลอกกระสุนตกในที่เกิดเหตุ ถือเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่มวลชนเราแน่นอน"

ไม่ว่า นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่ว่า

"ผมได้รับการยืนยันว่า ชายถือปืนทั้งหมดที่ปรากฏในภาพไม่ใช่การ์ด กปปส. อาจเป็นผู้ไม่หวังดีเข้ามาในที่ชุมนุม"

ไม่ว่า นายอิสสระ สมชัย ที่ว่า

"ไม่ใช่ กปปส. แต่เป็นคนที่ออกมาช่วยภายหลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงระดมยิงปืนใส่ ทำให้ผู้ชุมนุม 200-300 คน ถูกตัดขาด จึงต้องบุกเข้าไปช่วย"

ทั้งยังระบุระหว่างกล่าวคำปราศรัยในเวลาต่อมา

"ชายชุดดำสวมหมวกไอ้โม่งดำหลายคนที่ถืออาวุธร้ายแรงไม่ใช่การ์ดหรือผู้ชุมนุมเพราะไม่มีสัญลักษณ์ กปปส. ไม่มีบัตรประจำการ์ด อาจเป็นคนที่สวมรอยมาสร้างสถานการณ์ความรุนแรง โดยเฉพาะชายที่ยืนถือปืนยาวทราบว่าเป็นกลุ่มอาชีวะอยู่ที่นนทบุรี"

เพียงแต่ "ชายชุดดำ" ออกมาปกป้อง "กปปส."
ถามว่าสถานการณ์อย่างที่ปรากฏขึ้นในตอนบ่ายของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ณ บริเวณแยกหลักสี่จะเรียกตามสำนวนจีนว่าอย่างไร

เรียกว่า ดำเนินไปตามกลยุทธ์ "ล่อเสือออกจากถ้ำ" ก็ได้

เพราะในที่สุด กองกำลังติดอาวุธสงคราม ก็เคลื่อนมาพร้อมกับมวลชน กปปส."ลาดพร้าว" แล้วสาดกระสุนเข้าใส่มวลชนอีกฝ่ายอย่างเมามัน

เป็น "เสือ" จากฝ่ายให้ความคุ้มครอง "กปปส."
ขณะเดียวกัน จะเรียกว่า ดำเนินไปตามกลยุทธ์ "เอาอิฐล่อหยก" ก็ได้ เพราะอิฐที่ว่านั้นมีชื่อว่า "โกตี๋"
ซึ่งเป็นตัวป่วนหรือเข้าใจว่าเป็นตัวป่วนการชุมนุมที่แยกลาดพร้าวอยู่แล้ว

แค่ได้ยินชื่อ "โกตี๋" บรรดากองกำลังเร้นลับซึ่งซ่อนตัวอยู่ในการชุมนุม ณ แยกลาดพร้าวก็กระสับกระส่าย และมองเห็นเป็นโอกาสที่จะใช้เงื่อนไขในลักษณะตะลุมบอนนี้เพื่อให้บทเรียนแก่ "โกตี๋" อย่างสาสม

เพียงแต่ว่า "ห้วงยาม" นั้น "โกตี๋" กลับอยู่ที่ "สน.ดอนเมือง"

ไม่ว่ากระบวนการทั้งหมดนี้ดำเนินไปอย่างเป็นไปเอง ในลักษณะตามธรรมชาติ ไม่ว่ากระบวนการทั้งหมดมีการจัดวางอย่างเป็นกลยุทธ์ แต่ทุกอย่างสอดรับ คล้องคล้อยไปตามกัน

ผลก็คือ มี "ชายชุดดำ" ผลก็คือ มี "อาวุธ" สงคราม
ยอมรับเถิดว่า การขับเคลื่อนทางการเมืองในขณะนี้ดำเนินไปเพื่อทำลายอีกฝ่าย เพื่อเอาชนะกัน

ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรุกคือ กปปส.และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรับคือ รัฐบาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 
เป็นการเมืองที่ "ไม่หลั่งเลือด" เป็นการเมืองที่ "หลั่งเลือด"




(ที่มา:มติชนรายวัน 5 กุมภาพันธ์ 2557)

ไม่มีความคิดเห็น: