PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สัญญาณพ่ายแพ้ของระบอบทักษิณ ผ่านการนำเสนอข่าวของสื่อตปท.


Aum Sky Exits · ผู้ติดตาม 17,780 คน
  • #สัญญาณพ่ายแพ้ของระบอบทักษิณ

    สำนักข่าวบลูมเบิร์ก พาดหัวข่าววันที่กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ นำมวลมหาประชนเดินขบวนขัดขืนคำสั่งห้ามเข้าถนน 25 สายในกรุงเทพฯตามพระราชกำหนดบริหารประเทศในสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินว่า “เวลาของรัฐบาลหมดแล้ว” ในขณะที่สำนักข่าวเอพีซึ่งเคยเสนอข่าวสนับสนุนรัฐบาลตลอดมา พาดหัวข่าวว่า“ชาวนาเพิ่มทุกข์ให้รัฐบาล ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดทางการเมือง” ตามด้วยคำสัมภาษณ์ทูตอเมริกาประจำประเทศไทยว่า อเมริกาไม่มีเจตนาแทรกแซงการเมืองของไทยและเข้าใจจุดยืนของประชาชนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองดี ประกอบกับแถลงการณ์ฉบับล่าสุดของกระทรวงต่างประเทศอเมริกาที่มีท่าทีอ่อนลง เป็นสัญญาณบอกว่า ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์มาถึงแล้ว

    สื่อต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอเมริกาและประเทศตะวันตก เคยเสนอข่าวบิดเบือนใส่ร้ายมวลมหาประชาชนที่ลุกขึ้นทำการปฏิวัติ เพื่อขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ เริ่มเปลี่ยนท่าทีมาเสนอข่าวความจริงมากขึ้น หลังจากพบว่าปฏิบัติการ“Shutdown Bangkok”ที่ผ่านมาหลายวันเป็นไปด้วยความสงบสันติปราศจากอาวุธ การดำเนินชีวิตในเมืองหลวงของคนทั่วไป ไม่ได้รับผลกระทบกระเทือนมากมายนัก แต่ในทันทีที่รัฐบาลทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ประกาศภาวะฉุกเฉิน สื่อต่างประเทศเกือบทุกสำนักเสนอข่าวในทางลบต่อรัฐบาล

    สื่อต่างประเทศแทบทุกสำนักเสนอข่าวประกาศภาวะฉุกเฉินไปในทำนองว่า “รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากผู้ชุมนุมถูกโจมตีหลายระลอก” เสนอข่าวที่กำนันสุเทพแสดงพลังอารยะขัดขืน นำมวลชนจำนวนมากเดินขบวนไปตามถนน ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นล้นหลามจากประชาชนในเมืองหลวง นอกจากนั้นสื่อต่างประเทศทั้งจากประเทศตะวันตก และสื่อในประเทศเอเชีย ล้วนเสนอข่าวว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินฉุดให้เศรษฐกิจตกต่ำลงอย่างน่าวิตก

    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักลงทุนต่างชาติวิตกกังวลประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งมีผลใช้นานถึง 60 วัน หลายบริษัทข้ามชาติถอนการลงทุนเช่น บริษัทโตโยต้า ประเทศไทยจะทบทวนการลงทุน 600 ล้านดอลลาร์ และลดการผลิตในปีนี้ลง หุ้นท่องเที่ยวลดลง 15% ค่าเงินบาทอ่อนตัวลง 02% สฌตรต ไทม์รายงานว่า นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทยลดลงกว่า 50 % บลูมเบิร์ก รายงานว่า สายการบินต่างๆยกเลิกเที่ยวบินเข้าประเทศไทยกว่า 50 เที่ยวบินต่อหนึ่งสัปดาห์ ข่าวต่างประเทศเสนอข่าวในแง่ลบเพราะประกาศภาวะ ฉุกเฉินอีกมากมาย

    ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์กกับสำนักข่าวเอพีเสนอรายงาน “การดิ้นรนเฮือกสุดท้ายของรัฐบาล” บอกว่า เวลาของรัฐบาลหมดแล้วว่า “รัฐบาลถูกผลักดันเข้าทางตันทางการเมืองซึ่งนำมาสู่การล่มสลายของระบอบทักษิณ” พร้อมรายละเอียดว่า โอกาสที่นางสาวยิ่งลักษณ์จะกลับมาฟอร์มรัฐบาลชุดใหม่หลังจากการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 ไม่เหลืออยู่เลย เพราะถึงแม้จะดึงดันให้มีการเลือกตั้งกี่ครั้งก็ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ เพราะการเลือกตั้งมีข้อบกพร่องอยู่หลายประการประกอบกับปัญหาทางกฎหมายที่นางสาวยิ่งลักษณ์ และ สมาชิกในพรรคเพื่อไทยหลายคนกำลังถูกสอบสวน

    “รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ต้องล่มสลายไปในเร็ววันนี้“บลูมเบิร์กรายงาน แม้สื่อทุกสำนักไม่สามารถบอกได้ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ต้องออกจากตำแหน่งด้วยวิธีไหน แต่ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือถูกขับให้ออกจากตำแหน่งโดยฝ่ายตุลาการหรือองค์กรอิสระเช่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักข่าวบลูมเบิร์กกับสำนักข่าวเอพีรายงานตรงกันว่า ข้อหาทุจริตในโครงการจำนำข้าว เป็นความผิดร้ายแรงที่สุดในบรรดาความผิดหลายข้อหาที่กำลังถูกสอบสวน“ถ้าไม่ถูกขับออกโดยฝ่ายตุลาการก็อาจถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งโดยการแทรกแซงของฝ่ายทหาร”

    สื่อต่างประเทศแทบทุกสำนักทำนายว่า เวลาของรัฐบาลหมดแล้ว แต่ไม่มีสำนักไหนฟันธงได้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์จะออกโดยวิธีใด ส่วนสำนักข่าวเอพีซึ่งเสนอข่าวสนับสนุนรัฐบาลตลอดมา เมื่อมองเห็นจุดจบของนางสาวยิ่งลักษณ์ ก็อดแขวะฝ่ายตุลาการไม่ได้ว่า เป็นไปได้มากที่สุดว่าศาลอนุรักษ์นิยมในประเทศไทยซึ่งเป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่าลำเอียงมีอคติกับระบอบทักษิณจะใช้วิธี “ตุลาการปฏิวัติ” (judicial coup)ขับไล่นางสาวยิ่งลักษณ์ออกจากตำแหน่ง

    สื่อตะวันตกซึ่งเคยละเลงข่าวในทางลบต่อมวลมหาประชาชนตลอดมาโดยกล่าวว่า “คนไทยต่อสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่ด้อยกว่า” -“การชุมนุมประท้วงเป็นการต่อสู้ของคนชั้นสูงคนชั้นกลางในเมืองพวกนิยมเจ้ากับคนจนในชนบทที่นิยมทักษิณ”- “มวลมหาประชาชนประท้วงเพื่อเร่งเร้าให้ทหารปฏิวัติ” แต่เมื่อถึงจุดที่สื่อเหล่านั้นเห็นว่า ไม่อาจบิดเบือนความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ได้อีกต่อไป เมื่อพบความจริงว่า ลมหายใจของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ รวยรินเต็มที ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวหาตุลาการ กล่าวหาศาลไทยว่าลำเอียงมีอคติกับระบอบทักษิณ เหมือนกับที่สมุนบริวารของทักษิณใส่ร้ายศาลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะมีใครสักคนฟ้องสื่อต่างประเทศในข้อหมิ่นศาล

    นอกจากสื่อต่างประเทศลดการบิดเบือนข่าวหันมานำเสนอข่าวความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมากขึ้นแล้ว ท่าทีที่อ่อนลงของอเมริกาเป็นสัญญาณเตือนภัยให้กับนางสาวยิ่งลักษณ์ได้เป็นอย่างดีว่าเวลาของเธอหมดแล้ว แถลงการณ์การล่าสุดของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในการชุมนุมทางการเมืองในกรุงเทพฯ เรียกร้องให้นำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี สนับสนุนขบวนการประชาธิปไตยและเรียกร้องให้มีการเจรจาอย่างสันติ ประกอบกับการให้สัมภาษณ์สื่อของ คริสตี้ เคนนี้ ทูตอเมริกาประจำประเทศไทยที่ว่า “อเมริกาไม่มีเจตนาแทรกแซงปัญหาทางการเมืองของไทย อเมริกาเห็นว่าปัญหาในประเทศคนไทยต้องแก้ด้วยกันเอง อเมริกาไม่คว่ำบาตร หรือกดดันประเทศไทยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเข้าใจจุดยืนของผู้ชุมนุมดี”

    แถลงการณ์และคำให้สัมภาษณ์ของทูตอเมริกา พอบอกได้ว่าท่าทีของอเมริกา เปลี่ยนไปจากการสนับสนุนระบอบทักษิณอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูเป็นการถอยห่างออกมามากพอสมควรและเริ่มเอนเอียงมาสู่ความเป็นจริงในประเทศนี้มากขึ้นซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับสื่อตะวันตกที่ลดการบิดเบือนน้อยลงเป็นสัญญาณบอกว่าจุดจบของรัฐบาลเถื่อนมาถึงแล้ว

    ประสบการณ์ในแวดวงสื่อต่างประเทศ และ ติดตามข่าวสารการเมืองในประเทศนี้มาหลายทศวรรษพบว่า วันไหนที่สื่อให้น้ำหนักมาทางฝ่ายต่อต้านรัฐบาลหรือผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล วันนั้นคือจุดจบของรัฐบาลทรราช

    จากการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า สื่อทั้งในและต่างประเทศให้น้ำหนักมาทางมวลมหาประชาชน มากกว่ารัฐบาล ทีวีเสรีเริ่มให้ความสำคัญกับการเสนอข่าวผู้ชุมนุมมากขึ้น หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับพาดหัวความเคลื่อนไหวของมวลมหาประชาชนโดยการนำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และให้พื้นที่ข่าวหน้าหนึ่งการเคลื่อนไหวของมวลมหาประชาชนมากกว่าข่าวอื่นๆ การเคลื่อนไหวต่อต้านขัดขืนภาวะฉุกเฉิน ที่มีประชาชนนับแสนๆคนทั้งที่ร่วมในขบวนและรอให้การต้อน ให้การสนับสนุนอย่างล้นหลามอยู่ทั้งสองฟากถนน ปรากฏเป็นภาพบนสุด หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ไทยรัฐ และ หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในประเทศไทยทั้งสองฉบับ เป็นสัญญาณเตือนภัยรัฐบาลว่าเวลาของทรราชหมดแล้ว

    ภาพที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กระทรวงสาธารณะสุข กระทรวงเกษตรฯ กรมชลประทาน กระทรวงพาณิชย์ และ ครูบาอาจารย์จากสถาบันการศึกษาเกือบทุกแห่งขึ้นเวที กปปส. ประกาศตัวสนับสนุนการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน ถือว่า เป็นตาปูตัวสุดท้ายที่ตอกฝาโลงรัฐบาลเถื่อนของนางสาวยิ่งลักษณ์

ไม่มีความคิดเห็น: