นิวยอร์กไทม์ส ระบุว่าท่าทีของศาลแพ่งเมื่อวานนี้(19 ก.พ.) ทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าไปสู่การถูกรัฐประหารโดยตุลาการ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในยุคของรัฐบาลพรรคพลังประชาชน
โทมัส ฟูลเลอร์ ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สประจำประเทศไทย ยังคงตามติดสถานการณ์การเมืองในไทย โดยจับตามองไปที่คำสั่งศาลแพ่ง ที่ห้ามรัฐบาลใช้กำลังสลายการชุมนุม หรือบังคับใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินกับผู้ชุมนุม ซึ่งคำสั่งดังกล่าวเป็นท่าทีที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมองว่านี่คือก้าวที่ทำให้ไทยเข้าใกล้การรัฐประหารโดยตุลาการเข้าไปอีกขั้น
ฟูลเลอร์กล่าวว่าการรัฐประหารแบบไม่เสียเลือดเนื้อ หรือรัฐประหารโดยตุลาการ เป็นธรรมเนียมของการเมืองในไทย โดยก่อนหน้านี้ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชาชน ก็เคยโดนถอดถอนด้วยตุลาการศาลมาแล้วจากคดีทำกับข้าว แต่สถานการณ์ในขณะนี้ถือว่ามีความซับซ้อนอ่อนไหวกว่าหลายปีก่อนมาก จนทำให้การล้มรัฐบาลไม่ว่าจะด้วยศาลหรือทหารยากกว่าเดิม เนื่องจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต่างก็มีมวลชนเป็นของตนเอง
นอกจากนี้ ฟูลเลอร์ยังได้รวบรวมความคิดเห็นจากนักวิชาการชาวไทยหลายคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นนายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์ส วอช ประจำประเทศไทย ที่บอกว่าคำตัดสินของศาลแพ่ง ทำให้พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่มีความหมาย หรือนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ที่มองว่านี่คือการอนุญาตให้ผู้ชุมนุมโค่นล้มรัฐบาลได้โดยถูกกฎหมาย
โทมัส ฟูลเลอร์สรุปว่า ท่าทีของทุกภาคส่วนในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นคำตัดสินของศาลแพ่ง หรือการที่ปปช.เตรียมเอาผิดนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในคดีทุจริตจำนำข้าว และการที่กกต.ถ่วงเวลาในการจัดการเลือกตั้งให้สำเร็จ แสดงถึงการค่อยๆริดรอนอำนาจของรัฐบาลทีละน้อย ซึ่งสุดท้ายหากแล้วหากบรรดาแกนนำของคู่ขัดแย้งไม่สามารถตกลงกันได้ ก็จะนำไปสู่สถานการณ์มิคสัญญีในไทยอย่างแน่นอน
20 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 17:57 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น