PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วันมหาวิปลาส @ วสิษฐ เดชกุญชร

วันมหาวิปลาส @ วสิษฐ เดชกุญชร : 15 กรกฎาคม 2015
การเคลื่อนไหวของนักศึกษาและอาจารย์มหาวิทยาลัยจำนวนหนึ่ง ซึ่งแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐประหารและคณะรักษาความสงบแห่งชาติงชาติ (คสช.) ซึ่งลุกลามออกไปเป็นการถูกเจ้าหน้าที่จับกุม และศาลทหารมีคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราวเมื่อไม่นานมานี้ ที่จริงไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ แต่เป็นอาการยืดเยื้อเรื้อรังของโรคบ้าอำนาจและกระหายอำนาจของกลุ่มทุนสามานย์ที่มีรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร เป็นพาหะแรก และรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นพาหะสุดท้าย

นักศึกษา อาจารย์และกลุ่มทุนสามานย์ที่อยู่เบื้องหลังไม่เคยหยุดความพยายามที่จะให้ได้อำนาจคืนมา แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ คสช.และรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังทำอยู่คือปฏิรูปประเทศไทย ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเตรียมที่จะกลับไปสู่ประชาธิปไตย แต่ทักษิณและสมุนของตนก็ไม่ต้องการจะคอย เพราะรู้ว่าหาก คสช.และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำสำเร็จตนก็จะหมดโอกาสที่จะกลับมาใช้ระบอบเผด็จการโดยรัฐสภาอีก

โอกาสจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยการปลุกระดมและจุดประกายให้ประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้าน ทำนองเดียวกับที่ประชาชนต่อต้านรัฐบาลของ จอมพล ถนอม กิตติขจร เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 จนล้มรัฐบาลได้สำเร็จ แต่ด้วยการเสียเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชน จนวันนั้นถูกเรียกว่า “วันมหาวิปโยค” ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

แต่จนถึงวันนี้ ก็จะเห็นว่าการพยายามใช้นักศึกษาปลุกระดมประชาชนและจุดประกายการต่อต้านเพื่อจะให้รัฐบาลปราบปรามจนเกิดเป็น “วันมหาวิปโยค” ขึ้นอีกครั้งหนึ่งนั้นยังไม่ได้ผล เพราะ คสช.และรัฐบาลรู้ทัน และไม่ยอมฮุบเหยื่อที่ล่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งกฎอัยการศึก และกระทำโดยละมุนละม่อม และแม้ในชั้นแรกนักศึกษาที่ถูกจับกุมจะปฏิเสธไม่ยอมรับอำนาจศาล และไม่ยอมรับการให้ประกัน แต่ในที่สุดก็เลือกเอาอิสรภาพ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เห็นนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพยายามที่จะก่อปัญหาขึ้นในบ้านเมืองเท่านั้น ในขณะเดียวกันกลุ่มทุนสามานย์ที่มีทักษิณเป็นหัวเรือใหญ่ก็ยังพยายามสร้างสถานการณ์แบบอื่นและในด้านอื่นต่อไป โดยไม่หยุดยั้ง ตัวอย่างล่าสุดก็คือการแพร่ข้อความทางสื่อสังคมโดยนางรินดา ปฤชาบุตร ให้ร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและภริยา ว่าโอนเงินหมื่นล้านบาทไปเข้าบัญชีธนาคารของตนที่สิงคโปร์
เจ้าหน้าที่สืบทราบและจับกุมตัวนางรินดาได้ ปรากฏว่านางรินดานั้นเป็นสมาชิกของแนวร่วม นปช.ปทุมธานี และเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ซึ่งหลบหนีคดีไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
เป็นที่คาดหมายว่า แม้การปลุกระดมและจุดประกายการต่อต้านของประชาชนจะยังไม่ได้ผล แต่ทักษิณและสมุนของตนก็คงจะไม่หยุดยั้ง และคงจะเดินหน้าพยายามล้ม คสช.และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้ได้ เพราะหากปล่อยให้ คสช.และรัฐบาลดำเนินตาม “โรดแมป” ต่อไปจนบรรลุวัตถุประสงค์ กลุ่มทุนสามานย์ก็จะไม่สามารถยึดรัฐสภา และทักษิณก็หมดโอกาสที่จะกลับมาเป็นใหญ่ในเมืองไทยอีก
หากจะเปรียบนักศึกษาและอาจารย์มหาวิทยาลัยกลุ่มที่ทักษิณกำลังใช้อยู่ในขณะนี้กับกระสุนปืนหรือลูกระเบิด ก็เป็นกระสุนหรือลูกระเบิดเก่าที่ด้านจนยิงไม่ออกหรือจุดไม่ติด เพราะประชาชนซึ่งเป็นเป้าหมายนั้นรู้ทัน และไม่ให้ความสำคัญแก่การพยายามปลุกระดมและจุดประกายนั้น
สิ่งที่หากเกิดขึ้นก็คงจะเป็นเพียง “วันมหาวิปลาส” ของนักศึกษาและอาจารย์หยิบมือเดียว และจะไม่ใช่ “วันมหาวิปโยค” อย่างที่ใครบางคนกำลังภาวนาและพยายามให้เกิดขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น: