- เก็บอาการความเป็นพวก "ร่วมบริวาร" ระบอบทักษิณไว้หน่อยก็ดีนะ ท่าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และท่าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ
- การที่อัยการญี่ปุ่น "สั่งไม่ฟ้อง" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กรณีพกปืนขึ้นเครื่องบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ และไปถูกจับได้ตอนขากลับที่สนามบินญี่ปุ่น นั้น
- ในฐานะท่านทั้ง ๒ เป็นนายตำรวจผู้รักษากฎหมาย มีหน้าที่ ปราบปราม ควบคุมคนทำผิดกฎหมายมาดำเนินคดีตามกระบิลเมือง
- เมื่อทางญี่ปุ่น สั่งไม่ฟ้องในบ้านเขา........
- ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้รักษากฎหมาย ยิ่งโดยเฉพาะกับคนระดับ ผบ.ตร.จะกระดี๊กระด๊า ลิงโลด-ยินดี กับผู้ทำผิดกฎหมาย ไม่ว่ากับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ หรือกับใครทั้งสิ้น
- เป็นพวกกัน ก็เก็บความยินดีในฐานะ "คนร่วมนาย" ไว้ไปฉลองกันเองทีหลังเป็นการภายในก็ได้!
- ส่วนต่อสาธารณะ ด้วยบทบาท-หน้าที่ตำรวจ การแสดงออก ควรรักษา "จรรยาผู้รักษากฎหมาย" ไว้ศักดิ์-ไว้ศรีสถาบัน ให้เป็นที่เชื่อถือ
- คือไม่ยึดญาติ ไม่ยึดนาย ไม่ยึดมิตร ไม่ยึดศัตรู ไม่ยึดรวย ไม่ยึดจน ให้อยู่เหนือ "จรรยาบรรณตำรวจ" ในการแสดงออกและการปฏิบัติกับผู้ต้องหา
- นอกจาก "เมตตา-กรุณา" ทั่วไปในฐานเพื่อนมนุษย์.............
- นอกนั้น ไม่สมควรแสดงความ "ดีใจหรือสะใจ" จนเสียดุลแห่งธรรมและกฎหมาย เมื่อเห็นผู้ต้องหา "ผิด" หรือ "พ้นผิด" ในขั้นตอนใด-ขั้นตอนหนึ่งตามกระบวนการ
- ยิ่งกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พ้นการเอาผิดจากประเทศหนึ่ง นั่นก็ไม่ใช่บทสรุปว่า.....
- ที่นำปืนเล็ดลอดการตรวจจับจากการท่าฯ ประเทศไทย ขึ้นเครื่องบินจากสุวรรณภูมิไปได้นั้น "ความผิดที่เกิดขึ้นแล้วนั้น"
- จะโมเมว่า "ไม่ผิด" ไปด้วย!
- พล.ต.อ.สมยศ ต้องแสดงออกในบท "ผู้รักษากฎหมาย" ให้สังคมได้เชื่อถือเป็นมาตรฐานว่า...
- กับ "ความผิดที่สำเร็จแล้ว" ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ คือการนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินจากสุวรรณภูมิ ซึ่งมีตัวบทกฎหมายระบุลักษณะความผิดไว้ชัดแจ้งนั้น
- เมื่อกลับถึงไทย........
- ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าผู้รักษากฎหมายไทย จะจัดการอย่างไร กับผู้ต้องหารายนี้?
- ไม่ใช่ทราบข่าวอัยการญี่ปุ่นสั่งไม่ฟ้องปุ๊บ......
- หัวหน้าตำรวจยิ้มร่าออกข่าว "แสดงความยินดีล่วงหน้ากับครอบครัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ปั๊บ"
- แบบนั้น เท่ากับสร้างทัศนคติจากสังคมให้สะท้อนกลับว่า ........
- ผบ.ตร. "สมบูรณ์ยศ-สมบูรณ์ตำแหน่ง" แต่บกพร่องจรรยาบรรณและขาดจิตสำนึกในวุฒิภาวะ!
- ความน่าจะเป็นด้วยบรรทัดฐานกฎหมายในกรณีนี้ เพื่อสร้างมาตรฐานความเข้มงวด-เอาจริงด้านความปลอดภัยในสนามบิน พล.ต.อ.สมยศ น่าจะเปลี่ยนคำว่า "ขอแสดงความยินดี" ไปเป็นว่า........
- "ให้คุมตัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์จากสนามบินมาเข้ากระบวนการสอบสวนต่อ ในฐานะผู้ต้องหา"?
- ไม่ใช่อย่างที่ "ลูกกระเดือก" พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ทำหน้าที่โฆษก สตช.กลิ้งตาม "คอหอย" ออกข่าว
- "ว่างเมื่อไหร่ก็แวะมา" ประมาณว่า มาเมาธ์ประสามะเขือเทศด้วยกัน ไม่ใช่แบบตำรวจกับผู้ต้องหา!?
- ผมก็สังเกตมานาน พลันที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ถูกตำรวจญี่ปุ่นจับ ที่สนามบินนาริตะ
- "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" กลายเป็น "สำนักงานทนายแก้ต่าง" ให้ผู้ต้องหาที่ชื่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไปทันที
- โดย พล.ต.ท.ประวุฒิ ทำหน้าที่ "ฟอกถ่านให้ขาว" ด้วยตำแหน่งโฆษก!
- จะหาความสลดหรือสำนึกสักนิด "ในภาพใหญ่" ว่า สิ่งที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ทำ มันสร้างความเสื่อมเสียให้ประเทศชาติขนาดไหน?
- จะหาความละอายด้วยสำนึกสักนิด "ในภาพย่อย" ว่า สิ่งที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ทำ
- มันประจานและฟ้องถึงมาตรฐานตรวจสอบ และมาตรฐานการทำงานทั้งสนามบินและ ตม.ขนาดไหน?
- ไม่มีเลย.......!
- ทั้งจากคอหอยและลูกกระเดือก มีแต่ตั้งหน้า-ตั้งตากลิ้งไปด้วยกันแถลงข่าว ออกข่าว แก้ต่างให้ผู้ต้องหารายวัน
- "แจ๊ดปืนเล็กนิดเดียว....
- .......อายุมากแล้ว หลงๆ ลืมๆ"!
- "บกพร่องโดยสุจริต" เจริญตามรอยนายใหญ่หมาไม่กัด ว่างั้นเถอะ ด้วยการทำคดีของตำรวจ เคยเมตตา-ปรานี และรับฟังคำแก้ตัวจากผู้ต้องหารายไหนบ้างมั้ย ที่ถูกจับแล้ว เขาอ้างในการทำผิดว่า.....
- "ผิดนิดเดียว...ไม่เจตนา...อย่าดำเนินคดีเลย...ฉันแก่แล้ว"
- แล้วตำรวจผู้ทำคดี "ใจอ่อน" ยกประโยชน์ให้จำเลย "บนโต๊ะ" จริงๆ ไม่ใช่ใต้โต๊ะน่ะ?
- เห็นมีแต่ตะคอกกลับ....
- ไอ้นี่ ผู้ร้ายปากแข็งบ้าง อย่ามาทำแก้ตัวบ้าง กฎหมายต้องเป็นกฎหมายบ้าง ไปว่ากันที่ศาลบ้าง!
- ด้วยข้อเท็จจริงอีกด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ขณะนี้ พ้นจากความเป็นข้าราชการตำรวจไปแล้ว พูดง่ายๆ อยู่ในสถานะ "นายคำรณวิทย์"
- แต่จะกับนายคำรณวิทย์ หรือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ การใช้สถานภาพแห่งความเป็น "สถาบันตำรวจ" ไปวิ่งเต้นช่วยเหลือ "ผู้ทำผิดกฎหมาย" อย่างที่ทำกัน นั้น มันสมควรหรือ?
- มีคำพูด "สะท้อนจริง" สังคมไทยว่า.........
- เมื่อตำรวจจับใครมาสักคนหนึ่ง จะยัดข้อหาให้ก่อน แล้วไปหาความผิดมายัดใส่ทีหลัง
- แต่เมื่อถึงศาล...........
- ผู้พิพากษาจะมองผู้ต้องหาทุกคน "บริสุทธิ์" จนกว่าฝ่ายผู้กล่าวหา จะนำพยาน-หลักฐาน มายืนยันได้ชัดจริงว่า "ผิดจริง" ตามคำกล่าวหานั่นแหละ จึงจะสรุปโทษ
- เห็นแต่ราย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รายแรก .........!
- ถูกตำรวจญี่ปุ่นจับปุ๊บ ตำรวจยุคสมยศ "แก้ข้อหา" ให้ปั๊บ...ไม่ผิด..ไม่ผิด ปืนเล็กนิดเดียว
- แล้วไอ้ที่ว่า "เล็กนิดเดียว" นอร์ท อเมริกัน อาร์ม .22 แมกนัม กระบอกนี้อยากถามว่า นอกจากประเด็นพกพาขึ้นเครื่องบินแล้ว ตำรวจไม่สนใจตรวจสอบเลยหรือว่า
- เป็นปืนเถื่อนหรือปืนมีทะเบียนถูกต้อง?
- และถึงมีทะเบียน พกพาไปในที่สาธารณะ โดยเฉพาะสนามบินโดยไม่ผิดกฎหมายได้หรือ?
- การท่าฯ ก็เหมือนกัน ที่บอกว่าเครื่อง CTX-9400 ตรวจจับเฉพาะวัตถุระเบิด จึงไม่พบปืนคำรณวิทย์นั้น
- ถ้าทั้งตำรวจ ไม่นำตัวคำรณวิทย์เข้าสู่กระบวนการกฎหมาย และการท่าฯ ไม่แสดงความกระตือรือร้น "เป็นเจ้าทุกข์" เอาเรื่องคำรณวิทย์ต่อตำรวจ
- สนามบินประเทศไทย อาจกลายเป็น "ต้นทางต้องห้าม" สำหรับสนามบินอื่นๆ ทั่วโลกจะประกาศก็เป็นได้!
- ในยุค "หมาป่ากับลูกแกะ" เขาอ้างเป็นเหตุทำได้ทั้งนั้น ฉะนั้น เรื่องนี้จะหยวนๆ กันไปไม่ได้
- ก็ในเมื่อเครื่องเอกซเรย์กระเป๋าที่สนามบินของไทย ตรวจจับปืนไม่ได้ อีกทั้งตำรวจไทยก็ไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้
- สนามบินประเทศไทย จะกลายเป็น "ศูนย์กลางขนอาวุธปืน" ขึ้นเครื่องบินโดยสารออกไปทั่วโลกทันที!
- ตระหนักประเด็นนี้กันหรือยัง หรือรอให้ "เป็นเรื่อง" เสียก่อน ค่อยล้อมคอก?
- อย่าใช้เป็นเหตุโละ CTX ที่สุวรรณภูมิ แล้วจัดซื้อกันใหม่เชียว CTX มันก็เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้นี่แหละ มันพัฒนารุ่นตลอด คนใช้ก็ต้องเสียตังค์ "อัพเกรด-อัพโปรแกรม" ตามไปเรื่อยๆ
- CTX ที่นาริตะ เขาใช้รุ่น 9800 ตั้งโปรแกรมตรวจจับปืนได้ ส่วนของไทยเรา ใช้มาตั้งแต่เปิดสนามบิน เป็นรุ่น 9400
- การท่าฯ ไม่คิด "อัพเกรด-อัพโปรแกรม" ให้ทันยุค-ทันสมัยบ้างหรือ เห็นรวยมหาศาลกับจำนวนหัวคนผ่านสนามบินเป็นหมื่น-เป็นแสนล้าน เอาไปทำอะไรกันหมดล่ะ?
- โลกเจริญ ของใช้เจริญ..........
- ถ้าคนใช้ "เจริญ" ทันของใช้ เรื่องขี้หมาก็ไม่น่าเกิด?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น