30 ม.ค.57
จากที่เสธ แฉว่าเป็ดเหลิม ผอ.ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ได้สั่งให้อับดุลขนกองทัพชายชุดดำมารวมอยู่จำนวนมาก และอาวุธนานาชนิด มาอารักขาความปลอดภัยตนเอง และฉากหลังป้ายสีฟ้าบุบบิบบู้บี้ ของศูนย์เถื่อนนี้ เหมือนขาย พรบ.ประกันภัย ตามห้างบิ๊กซี โลตัส ที่กองบัญชาการ บช.ปส. ถนนวิภาวดีรังสิต และได้สั่งชายชุดดำ จากพื้นที่รอบๆ กทม. , ภาคกลางทั้งหมด , ภาคตะวันออก , อีสานใต้ , อีสานเหนือ , ภาคตะวันตก
และยังมี "หน่วยปฏิบัติการพิเศษ" ของชายชุดดำหน่วยต่างๆ ที่ได้รับการฝึกฝนให้ปฏิบัติการด้านการ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของย้อย รอง ผบ.ชายชุดดำ , ปริญญา เป็นรองหัวหน้า และ ศรกฤษ ผบก.ฝรก. เป็นประจำชุด รายละเอียดแต่หน่วยที่จะใช้ มีดังนี้
- ลำดับแรก คือ อรินทราช 26 เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษระดับกองร้อย สังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ขึ้นตรงกับกองบัญชาการชายชุดดำนครบาล หน่วยงานนี้ได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น มีอุปกรณ์ครบมือ เช่น ปืนยิงแห, ปืนไฟฟ้า, ปืนพก, ปืนลูกซอง, ปืนกลเบา, ปืนไรเฟิล, ระเบิดมือ, รวมถึงอุปกรณ์ต่อต้านการจลาจล
จากที่เสธ แฉว่าเป็ดเหลิม ผอ.ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ได้สั่งให้อับดุลขนกองทัพชายชุดดำมารวมอยู่จำนวนมาก และอาวุธนานาชนิด มาอารักขาความปลอดภัยตนเอง และฉากหลังป้ายสีฟ้าบุบบิบบู้บี้ ของศูนย์เถื่อนนี้ เหมือนขาย พรบ.ประกันภัย ตามห้างบิ๊กซี โลตัส ที่กองบัญชาการ บช.ปส. ถนนวิภาวดีรังสิต และได้สั่งชายชุดดำ จากพื้นที่รอบๆ กทม. , ภาคกลางทั้งหมด , ภาคตะวันออก , อีสานใต้ , อีสานเหนือ , ภาคตะวันตก
และยังมี "หน่วยปฏิบัติการพิเศษ" ของชายชุดดำหน่วยต่างๆ ที่ได้รับการฝึกฝนให้ปฏิบัติการด้านการ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของย้อย รอง ผบ.ชายชุดดำ , ปริญญา เป็นรองหัวหน้า และ ศรกฤษ ผบก.ฝรก. เป็นประจำชุด รายละเอียดแต่หน่วยที่จะใช้ มีดังนี้
- ลำดับแรก คือ อรินทราช 26 เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษระดับกองร้อย สังกัดกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ขึ้นตรงกับกองบัญชาการชายชุดดำนครบาล หน่วยงานนี้ได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น มีอุปกรณ์ครบมือ เช่น ปืนยิงแห, ปืนไฟฟ้า, ปืนพก, ปืนลูกซอง, ปืนกลเบา, ปืนไรเฟิล, ระเบิดมือ, รวมถึงอุปกรณ์ต่อต้านการจลาจล
- ลำดับ 2 นเรศวร 261 ขึ้นตรง บก.สนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการชายชุดดำตระเวนชายแดน ขณะที่ทางยุทธการ ขึ้นตรงกับศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย กองบัญชาการกองทัพไทย ประกอบกำลังในลักษณะกองร้อยปฏิบัติการพิเศษ (ร้อย ปพ.) จำนวน 3 กองร้อย, กองร้อยกู้ชีพ และงานเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด การปฏิบัติการพิเศษ การปฏิบัติการปกปิด มีมีขีดความสามารถเชี่ยวชาญในการจู่โจมทางอากาศ ภารกิจจู่โจมชิงตัวแกนนำโดยวิธีการโรยตัวจากที่สูง
- ลำดับ 3 สยบไพรี กองบัญชาการชายชุดดำปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ผ่านการฝึกอบรมจากหลายหน่วยงาน อาทิ จากชาย 3 สี และหน่วยรบพิเศษจากต่างประเทศ DEA ของหน่วยงานยาเสพติดประเทศสหรัฐอเมริกา
- ลำดับ 4 ปราบไพรีอริศัตรูพ่าย สังกัดกองบัญชาการชายชุดดำภูธรภาค 1 ขึ้นตรงต่อ นเรศ ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐอั้งยี่บริษัทเผาไทย มีศักยภาพในปฏิบัติภารกิจจู่โจม ทางอากาศ เชี่ยวชาญในการโรยตัวเข้าอาคาร การเคลื่อนที่เร็ว หน่วยนี้มีกำลังประมาณ 2 กองร้อย
- ลำดับ 5 สยบบริปูสะท้าน เป็นหน่วยคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการชายชุดดำสอบสวนกลาง มีขีดความสามารถในการต่อสู้สูง ถนัดภารกิจจู่โจมระงับเหตุฉุกเฉิน ปราบจลาจล ก่อวินาศกรรม แต่หน่วยนี้น่าจะถูกเรียกใช้ในลำดับท้ายสุด
แต่การข่าวของเสธ สืบมาว่า ภารกิจ "จู่โจม" จับกุมแกนนำ และผู้ชุมนุม ที่เป็ดเหลิมประกาศด้วยท่าทีที่อวดเบ่งพองลมมาตลอด จะไม่มีทางสำเร็จแน่ๆ เพราะ
แต่การข่าวของเสธ สืบมาว่า ภารกิจ "จู่โจม" จับกุมแกนนำ และผู้ชุมนุม ที่เป็ดเหลิมประกาศด้วยท่าทีที่อวดเบ่งพองลมมาตลอด จะไม่มีทางสำเร็จแน่ๆ เพราะ
1. ชายชุดดำระดับผู้ปฏิบัติไม่มั่นใจในสถานะของรัฐอั้งยี่แดงรักษาการ
2. ภารกิจการ "จู่โจม" จับกุมแกนนำ ท่ามกลางมวลชนจำนวนมากนั้น เสี่ยงจะเกิดเหตุการณ์บานปลายจนนำไปสู่ความสูญเสียอย่างหนักของผู้จู่โจมเอง
3. เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมเอง มีหน่วยงานบางหน่วยของชาย 3 สีที่มีขีดความสามารถในการต่อสู้ และเป็นครูฝึกของหน่วยปฎิบัติการพิเศษเหล่านี้เสียเอง ( สุเทพ คุ้มครองโดยชายชุดขาวและเขียว, ถาวร คุ้มครองโดยชายชุดฟ้า , แกนนำอื่นๆ มีชุดจัดหนัก 3 สี และชายชุดดำส่วนดี คุ้มครองปะปน, พุทธอิสระมีคนระดับ พล.อ.คุ้มครองลับ ๆ ไม่ต่ำกว่า 8 คน )
4. หากเกิดปฏิบัติการขึ้นจริง ชาย 3 สีที่ผ่านสมรภูมิรบจริงมาแล้วเหล่านี้ จะพร้อมสวนต่อต้านปฏิบัติการต่างๆ ของชายชุดดำอย่างหนักหน่วง จะเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงที่สุด ซึ่งจะทำให้หน่วยพิเศษเหล่านี้ล้มตายแตกพ่ายไม่เป็นท่า
5. เมื่อเหล่าชาย 3 สีระดับหน่วยรบกะทิเหล่านี้สูญเสีย แน่นอนว่า ผบ.และเพื่อน ชาย 3 สี ทั่วประเทศอีกกว่า 4 แสนคนทั่วประเทศ จะถูกสั่งให้ปิดล้อมหน่วย และถล่มชายชุดดำด้วยอาวะหนักนานาชนิดเละเทะไม่ชิ้นดี ชนิดที่บิ๊ก 3 สีห้ามไม่อยู่ทีเดียว
เสธ แนะสูตรคำนวณว่า ถ้าหากจะสลายกำลังประชาชน จะต้องใช้กำลังถึง 3 เท่า ของผู้ชุมนุม เช่น ถ้ามีมวลชน 1 แสนคน ต้องใช้ชายชุดดำ 3 แสนคนเป็นอย่างน้อย...หามาได้ไหมล่ะ!!! และชาย 3 สีเขาก็ไม่ยอมง่าย ๆ ให้ทำชั่วแบบนั้นแน่ เพราะชายชุดเขียวระดับคุมกำลังเขาก็จะเอากำลังและของดีจากภาษีประชาชนมาล้อมกรอบถล่มชายชุดดำเละเหมือนกัน
เสธ ทราบมาว่าเป็ดเหลิมผู้มีเอกลักษณ์ “ เป็นลูกน้องใคร หัวหน้าตายหมด” ตอนนี้บ้าคลั่งอย่างหนัก นั่งดื่มไวน์กับภาณุพงษ์ไป สบถด่าชายชุดดำไปอย่างหยาบคาย ดูถูกดูแคลนชายชุดดำระดับปฏิบัติต่อหน้าหัวหน้าหน่วยสารพัด บางครั้งโมโหจัดถึงกับด่าว่าพวกนี้เลี้ยงเสียข้าวสุก และยังทำลายศักดิ์ศรีชายชุดดำระดับปฏิบัติ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษหัวกระทิ ระดับชาตินี้อย่างชอกช้ำใจหวานอมขมกลืน คือ
- สั่งให้ขนแท่งแบริเออร์จำนวนมากมาล้อมรอบ ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ทำเป็นกำแพงคุก ล้อมขังพวกเดียวกันเองไว้ ภายในมีสภาพไม่ต่างจากคุกคุมขังชายชุดดำมากถึง 6,000 กว่าคน เหมือนนักโทษคดีอาญาร้ายแรงที่ถูกเปาบุ้นจิ้นพิพากษาแล้ว
- มีห้องน้ำ ขี้ เยี่ยว ตด ไม่เพียงพอ จนต้องขอรถสุขาจาก กทม.มาเพิ่ม 3 คัน ส่งผลให้มีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งช่วยคลื่นเหียนไปทั่ว
- เบี้ยเลี้ยงให้เซ็นต์รับ 800 บาทต่อวัน ถูกหัวหน้าอมไป 500 บาท แถมจ่ายเงินล่าช้าอีก นานมากจนลืมกว่าจะได้รับเงิน 300 บาทจริงๆ
- พวกเขารู้สึกเกิดการเปรียบเทียบกับเหล่าชาย 3 สีที่มาตั้งด่านคุ้มครองประชาชนตามจุดต่าง ๆ เพราะมีคนนำน้ำ ขนม อาหาร ไปให้แทบขนกันไม่หวาดไม่ไหว แต่พวกเขาที่เป็นผู้พิทักสันติราษฏร์ แต่ต้องมาคุ้มครองนักเลงเป็ดเหลิม ที่ลูกคุมบ่อน และวินรถบางบอน และคุ้มครองหัวหน้าเพียงไม่กี่คน โดยละทิ้งการดูแลประชาชน!!! แถมเป็ดเหลิมสั่งให้เตรียมคอปเตอร์จอดรอไว้ภายใน สำหรับบินหนีเอาตัวรอดตามลำพังอีก...มันช้ำใจตรงนี้
- พวกเขาก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน แต่กลับถูกรัฐแดง เป็ดเหลิม และบิ๊กชายชุดดำ ส่งนำมาขังไว้ในคุกแบรริเออร์นี้มากถึง 6,000 กว่าคน โดยไม่ได้ทำอะไรเลย...พอจะกลับมวลชนสุเทพ เพียงแค่กระแอมว่าจะมาเยี่ยมเป็ดเหลิม ก็ถูกสั่งให้อยู่ต่ออีก พวกเขาท้อใจว่าจะถูกเป็ดเหลิมสั่งขังคุกอีกนานเท่าไร ถึงจะปล่อยตัวไป
ตอนนี้กำลังพลชายชุดดำจากต่างจังหวัด ก็ถูกชายชุดเขียวในระดับกองทัพภาค ประสานทางลับกระตุกดึงขากางเกงไว้ จนไม่รู้ใครเป็นใคร และข้างในชายชุดดำเองยังแบ่งเป็นฝ่ายดี กับฝ่ายชั่ว แทงกันข้างหลังจ้าละหวั่นจนวางใจใครไม่ได้
ดังนั้นการ “สร้างภาพอำพราง” และ "จัดฉาก" ว่ารัฐแดงตนเองยังเข้มแข็ง ควบคุมประชาชนให้อยู่หมัด แต่ภายในการสั่งการต่าง ๆ ทุรนทุราย แตกพล่านกันเองข้างใน ผู้สั่งการก็ออกแนวเพี้ยนหรือ "บ๊องๆบวมๆ" พิกล คำสั่งใดๆ ของศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ยามนี้จึงเสมือนผายลม ที่ชาย 3 สี และชายชุดดำฝ่ายดีแข็งขืน ไม่ยอมทำตาม สภาพรัฐอั้งยี่แดงยามนี้จึงเหมือน "ศพไร้ญาติ" รอการขนใส่รถไปทิ้งในฟาร์มจระเข้
แค่กระแอม ลับ-ลวง-พราง เป็ดเหลิมยังหลงกล สั่งขังชายชุดดำฝีมือชั้นเยี่ยมไปรวมกันไว้ได้มากขนาดนี้ !! ถ้าขนกำลังกลับ สุเทพก็กระแอมอีก อับดุลก็ต้องขนกำลังกลับมาขังอีก...ดังคำที่ว่า “นกกระจอก ไฉนเลยจะเข้าใจความคิดของพญาอินทรี “
เสธ จึงขอแนะนำชายชุดดำผู้ปฏิบัติฝ่ายดีในที่กองบัญชาการ บช.ปส. ถนนวิภาวดีรังสิต ที่ห้องน้ำไม่พอใช้ว่า “ ขี้เสร็จ..แล้วเอาใส่ถุงขว้างใส่เป็ดเหลิมเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง “
@เสธ น้ำเงิน
https://www.facebook.com/topsecretthai
2. ภารกิจการ "จู่โจม" จับกุมแกนนำ ท่ามกลางมวลชนจำนวนมากนั้น เสี่ยงจะเกิดเหตุการณ์บานปลายจนนำไปสู่ความสูญเสียอย่างหนักของผู้จู่โจมเอง
3. เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมเอง มีหน่วยงานบางหน่วยของชาย 3 สีที่มีขีดความสามารถในการต่อสู้ และเป็นครูฝึกของหน่วยปฎิบัติการพิเศษเหล่านี้เสียเอง ( สุเทพ คุ้มครองโดยชายชุดขาวและเขียว, ถาวร คุ้มครองโดยชายชุดฟ้า , แกนนำอื่นๆ มีชุดจัดหนัก 3 สี และชายชุดดำส่วนดี คุ้มครองปะปน, พุทธอิสระมีคนระดับ พล.อ.คุ้มครองลับ ๆ ไม่ต่ำกว่า 8 คน )
4. หากเกิดปฏิบัติการขึ้นจริง ชาย 3 สีที่ผ่านสมรภูมิรบจริงมาแล้วเหล่านี้ จะพร้อมสวนต่อต้านปฏิบัติการต่างๆ ของชายชุดดำอย่างหนักหน่วง จะเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงที่สุด ซึ่งจะทำให้หน่วยพิเศษเหล่านี้ล้มตายแตกพ่ายไม่เป็นท่า
5. เมื่อเหล่าชาย 3 สีระดับหน่วยรบกะทิเหล่านี้สูญเสีย แน่นอนว่า ผบ.และเพื่อน ชาย 3 สี ทั่วประเทศอีกกว่า 4 แสนคนทั่วประเทศ จะถูกสั่งให้ปิดล้อมหน่วย และถล่มชายชุดดำด้วยอาวะหนักนานาชนิดเละเทะไม่ชิ้นดี ชนิดที่บิ๊ก 3 สีห้ามไม่อยู่ทีเดียว
เสธ แนะสูตรคำนวณว่า ถ้าหากจะสลายกำลังประชาชน จะต้องใช้กำลังถึง 3 เท่า ของผู้ชุมนุม เช่น ถ้ามีมวลชน 1 แสนคน ต้องใช้ชายชุดดำ 3 แสนคนเป็นอย่างน้อย...หามาได้ไหมล่ะ!!! และชาย 3 สีเขาก็ไม่ยอมง่าย ๆ ให้ทำชั่วแบบนั้นแน่ เพราะชายชุดเขียวระดับคุมกำลังเขาก็จะเอากำลังและของดีจากภาษีประชาชนมาล้อมกรอบถล่มชายชุดดำเละเหมือนกัน
เสธ ทราบมาว่าเป็ดเหลิมผู้มีเอกลักษณ์ “ เป็นลูกน้องใคร หัวหน้าตายหมด” ตอนนี้บ้าคลั่งอย่างหนัก นั่งดื่มไวน์กับภาณุพงษ์ไป สบถด่าชายชุดดำไปอย่างหยาบคาย ดูถูกดูแคลนชายชุดดำระดับปฏิบัติต่อหน้าหัวหน้าหน่วยสารพัด บางครั้งโมโหจัดถึงกับด่าว่าพวกนี้เลี้ยงเสียข้าวสุก และยังทำลายศักดิ์ศรีชายชุดดำระดับปฏิบัติ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษหัวกระทิ ระดับชาตินี้อย่างชอกช้ำใจหวานอมขมกลืน คือ
- สั่งให้ขนแท่งแบริเออร์จำนวนมากมาล้อมรอบ ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ทำเป็นกำแพงคุก ล้อมขังพวกเดียวกันเองไว้ ภายในมีสภาพไม่ต่างจากคุกคุมขังชายชุดดำมากถึง 6,000 กว่าคน เหมือนนักโทษคดีอาญาร้ายแรงที่ถูกเปาบุ้นจิ้นพิพากษาแล้ว
- มีห้องน้ำ ขี้ เยี่ยว ตด ไม่เพียงพอ จนต้องขอรถสุขาจาก กทม.มาเพิ่ม 3 คัน ส่งผลให้มีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งช่วยคลื่นเหียนไปทั่ว
- เบี้ยเลี้ยงให้เซ็นต์รับ 800 บาทต่อวัน ถูกหัวหน้าอมไป 500 บาท แถมจ่ายเงินล่าช้าอีก นานมากจนลืมกว่าจะได้รับเงิน 300 บาทจริงๆ
- พวกเขารู้สึกเกิดการเปรียบเทียบกับเหล่าชาย 3 สีที่มาตั้งด่านคุ้มครองประชาชนตามจุดต่าง ๆ เพราะมีคนนำน้ำ ขนม อาหาร ไปให้แทบขนกันไม่หวาดไม่ไหว แต่พวกเขาที่เป็นผู้พิทักสันติราษฏร์ แต่ต้องมาคุ้มครองนักเลงเป็ดเหลิม ที่ลูกคุมบ่อน และวินรถบางบอน และคุ้มครองหัวหน้าเพียงไม่กี่คน โดยละทิ้งการดูแลประชาชน!!! แถมเป็ดเหลิมสั่งให้เตรียมคอปเตอร์จอดรอไว้ภายใน สำหรับบินหนีเอาตัวรอดตามลำพังอีก...มันช้ำใจตรงนี้
- พวกเขาก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน แต่กลับถูกรัฐแดง เป็ดเหลิม และบิ๊กชายชุดดำ ส่งนำมาขังไว้ในคุกแบรริเออร์นี้มากถึง 6,000 กว่าคน โดยไม่ได้ทำอะไรเลย...พอจะกลับมวลชนสุเทพ เพียงแค่กระแอมว่าจะมาเยี่ยมเป็ดเหลิม ก็ถูกสั่งให้อยู่ต่ออีก พวกเขาท้อใจว่าจะถูกเป็ดเหลิมสั่งขังคุกอีกนานเท่าไร ถึงจะปล่อยตัวไป
ตอนนี้กำลังพลชายชุดดำจากต่างจังหวัด ก็ถูกชายชุดเขียวในระดับกองทัพภาค ประสานทางลับกระตุกดึงขากางเกงไว้ จนไม่รู้ใครเป็นใคร และข้างในชายชุดดำเองยังแบ่งเป็นฝ่ายดี กับฝ่ายชั่ว แทงกันข้างหลังจ้าละหวั่นจนวางใจใครไม่ได้
ดังนั้นการ “สร้างภาพอำพราง” และ "จัดฉาก" ว่ารัฐแดงตนเองยังเข้มแข็ง ควบคุมประชาชนให้อยู่หมัด แต่ภายในการสั่งการต่าง ๆ ทุรนทุราย แตกพล่านกันเองข้างใน ผู้สั่งการก็ออกแนวเพี้ยนหรือ "บ๊องๆบวมๆ" พิกล คำสั่งใดๆ ของศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ยามนี้จึงเสมือนผายลม ที่ชาย 3 สี และชายชุดดำฝ่ายดีแข็งขืน ไม่ยอมทำตาม สภาพรัฐอั้งยี่แดงยามนี้จึงเหมือน "ศพไร้ญาติ" รอการขนใส่รถไปทิ้งในฟาร์มจระเข้
แค่กระแอม ลับ-ลวง-พราง เป็ดเหลิมยังหลงกล สั่งขังชายชุดดำฝีมือชั้นเยี่ยมไปรวมกันไว้ได้มากขนาดนี้ !! ถ้าขนกำลังกลับ สุเทพก็กระแอมอีก อับดุลก็ต้องขนกำลังกลับมาขังอีก...ดังคำที่ว่า “นกกระจอก ไฉนเลยจะเข้าใจความคิดของพญาอินทรี “
เสธ จึงขอแนะนำชายชุดดำผู้ปฏิบัติฝ่ายดีในที่กองบัญชาการ บช.ปส. ถนนวิภาวดีรังสิต ที่ห้องน้ำไม่พอใช้ว่า “ ขี้เสร็จ..แล้วเอาใส่ถุงขว้างใส่เป็ดเหลิมเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง “
@เสธ น้ำเงิน
https://www.facebook.com/topsecretthai
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น