เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าวิธีการแก้ปัญหาที่ไปหลอกชาวนาเข้าโครงการรับจำนำข้าว 56/57 โดยไม่มีเงินจ่าย จนเป็นหนี้ชาวนามา 5 เดือน และมีบางรายหาทางออกไม่ได้ต้องฆ่าตัวตายจากแรงกดดันต่าง ๆ นั้น รัฐบาลจะไปบีบคอ ธกส. ให้กู้จากธนาคารต่าง ๆ เพื่อมาจ่ายชาวนา ไม่ชักปืนเข้าไปปล้นแบบโต้ง ๆ เหมือนที่พยายามทำช่วงแรก ๆ
เนื้อความตามข่าวระบุว่า เมื่อ 29 ม.ค. 57 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้ลงนามอนุมัติหนังสือเชิญชวนสถาบันการเงินเอกชนเข้าร่วมประมูลดอกเบี้ยในการปล่อยสินเชื่อวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ให้ ธ.ก.ส. นำไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าวแล้ว และได้ส่งให้ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง และนางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ลงนามอีกครั้ง เพื่อส่งให้สถาบันการเงินเอกชนต่างๆ เข้าร่วมประมูล (ไทยรัฐ http://bit.ly/1b6Wzhu)
สรุปความอย่างง่ายคือวิธีเดิม ๆ ที่รัฐบาลใช้กับโครงการรับจำนำข้าวคือ กระทรวงการคลังกู้ ธกส. และให้ ธกส. สำรองจ่ายอีกส่วน แล้วเอาเงินทั้งสองส่วนไปจ่ายชาวนา กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวได้แล้วค่อยเอามาคืน แต่ก็แทบไม่ได้คืนเพราะโกงกันสะบั้นหั่นแหลกอย่างที่ทราบกันอยู่ วิธีนี้คือ กระทรวงการคลังกู้เองและค้ำเอง
แต่วิธีการที่กำลังพยายามทำตอนนี้ พูดภาษาชาวบ้านคือ ให้ ธกส. ไปกู้จากที่อื่น ส่วนกระทรวงการคลังทำตัวเป็นผู้ค้ำประกัน
คำถามง่าย ๆ คือ
1. มันธุระอะไรของ ธกส. ที่ต้องไปกู้และกลายเป็นลูกหนี้เพื่อเอาเงินมาให้กระทรวงการคลังใช้ ในเมื่อโครงการรับจำนำข้าวไม่ใช่ของ ธกส. เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองก้น แต่ต้องเอากระดูกมาแขวนคอ
2. ด้วยวิธีการนี้ ภาระหนี้เงินกู้ทั้งหมดเป็นของ ธกส. (กู้ก้อนละ 2 หมื่นล้าน จนครบ 1.3 แสนล้าน) ไม่ใช่ของกระทรวงการคลัง เปรียบไปก็เหมือนชาวบ้านทั่วไปกู้ธนาคาร ภาระจะตกถึงคนค้ำก็ต่อเมื่อลูกหนี้ตัวจริงเบี้ยวจ่าย เมื่อภาระหนี้อยู่ที่ ธกส. ถ้ารัฐบาลไม่มีปัญญาใช้หนี้คืนให้ ธกส. ความเดือดร้อนก็ตกอยู่บนหัวลูกค้า ธกส. อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เรื่องนี้ไม่แน่ใจด้วยว่าธนาคารพาณิชย์แห่งใดจะพร้อมเสี่ยงกับ NPL ก้อนโตนี้ เห็นจะมีแต่ออมสินกับกรุงไทยที่อยู่ในกำกับรัฐที่อาจถูกบีบให้ปล่อยกู้ ส่วนลูกค้าธนาคารพาณิชย์หากมีการเอาเงินไปให้กู้งานนี้ก็มีร้อน ๆ หนาว ๆ
แต่ที่แน่ ๆ ที่โกหกชาวนาไว้ว่าได้แน่เร็ว ๆ นี้ ต้องเรียนให้ทราบกว่าการซอยย่อยเงินกู้แบบนี้กว่าจะเสร็จกระบวนการก้อนแรกเร็วสุดก็สิ้นมีนาคม
ความฉลาดอย่างฉ้อฉลที่เห็นได้ชัดคือ เป็นความพยายามที่จะเลี่ยงกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 (3 ) ที่ระบุว่า ไม่ให้คณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรักษาการดำเนินการอันมีผลเป็นอนุมัติโครงการ หรือเป็นผลสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป ซึ่งเป็นข้อห้ามเด็ดขาด โดยผลักภาระการกู้ไปเป็นของ ธกส.
วิธีการเดียวที่ต้องทำคือต้องเอาข้าวไปขายและเอาเงินมาจ่ายชาวนา ก็เห็นคุยนักคุยหนาว่ามีข้าว 14 ล้านตัน มูลค่าราว 2 แสนล้านบาท เร็ว ๆ นี้นายนิวัฒน์ บุญทรง บอกว่ากำลังจะขายได้อีก 8 แสนตัน ก็พยายามต่อไป แล้วหยุดสร้างหนี้ให้คนไทยทั้งประเทศสักทีเถอะ
โกงกันเองก็ต้องแก้ปัญหากันเองไม่ใช่ผลักภาระมาอยู่บนหัวประชาชน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น