PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เปลว สีเงิน : 'สถานการณ์ตีกลับ ของลุงตู่'

"ถอดยศ-ไม่ถอดยศ" ทักษิณ ไม่ทำให้ประเทศเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงก็จริง

แต่การทำเรื่องนี้ให้ "สะเด็ดน้ำ" จะมีผลทาง "จิตวิทยาสังคมชาติ" ถึงขั้นชี้ขาดอนาคตประเทศ
ผ่าน "อำนาจเหนือการเมือง"!

ระหว่างการเมืองระบอบทักษิณ ซึ่งประกาศเป้าหมายเปลี่ยนประเทศเป็น "แดงทั้งแผ่นดิน" ทักษิณสถาปนา ภายใต้หลักการบริหาร
"โกง-กิน แล้วแบ่งกัน ไม่เป็นไร"!

กับการเมืองระบอบประยุทธ์ ซึ่งมีเป้าหมาย ล้างชั่วให้ชาติ ปฏิรูปประเทศ-จัดระเบียบสังคม ก่อนเข้าสู่กลไกประชาธิปไตยเลือกตั้ง

ภายใต้หลักการ ไทยคือไตร "ชาติ-พระศาสนา-สถาบันกษัตริย์"!

ฉะนั้น คิดถูกแล้ว.........!

ที่นายกฯ ประยุทธ์ จะถอนเสี้ยนที่ตำใจ-บ่งหนามที่ตำตีนคนไทย มาร่วม ๑๐ ปี ให้เบ็ดเสร็จ-สะเด็ดน้ำ ไปในคาบนี้

ถอดยศได้ หรือ ถอดไม่ได้ นั่นเป็นเรื่องกระบวนการต่อๆ ไป.........

เอาที่เฉพาะหน้าก่อนเถอะว่า จะเอายังไงกับเรื่องนี้ จะนิ่งเฉย หรือจะนำเข้าสู่กระบวนการถอดถอน จนมีผลรู้ดำ-รู้แดงกันไป?

เพราะตรงนี้ คือต้นทาง!

เป็นต้นทางที่ "สมยศ" ปิดไปแล้ว การที่สมยศปิด คือ "ดึง-ดอง" เรื่องถอดยศทักษิณนั้น นับว่าร้ายกาจมาก

เพราะเท่ากับ "เปิดทาง" ให้ทักษิณและคณะ เปล่งบารมี ว่ายังมีอิทธิพลอำนาจเหนือการเมือง
และนั่น เท่ากับ......
"ปิดทาง" รัฐบาล คสช. โดยเฉพาะนายกฯ ลุงตู่!

เพราะพลันที่สมยศ "ออกลาย" ทุกคนก็ต้องมองว่า ลำพังสมยศไม่กล้า การที่ส่งเรื่องไปดอง ทั้งที่นายกฯ บอก "กำลังรอเซ็น"

นั่นแสดงว่า "เล่นละคร" กัน!

การเมือง-การบริหาร จะไปรอด ไม่ได้อยู่ที่ใครมีอำนาจในมือ หากแต่อยู่ที่ "ประชาชนให้ความเชื่อถือศรัทธาคนไหน"?

นี่ก็จะสิ้นปีทางราชการ ๓๐ กันยา สมยศก็จะเป็นอดีต ผบ.ตร.ไปสมสู่อยู่กับหมู่พวกแท้จริงของเขา คงไม่เอาเข้ามาเป็นรัฐมนตรีกระมัง

แต่นายกฯ ลุงตู่ยังอยู่............

แล้วจะอยู่แบบ "ไปรอด" ได้อย่างไร...........?

ในเมื่อประชาชนหมดความเชื่อถือศรัทธา ถ้าไม่ทำเรื่อง "ถอดยศทักษิณ" ให้จบสิ้นกระแสความ!?
ยิ่งถ้ายังเฉย การเฉยนั้น จะเท่ากับยอมรับว่า ที่สมยศไม่กล้าถอด เพราะนายกฯ สั่ง เป็นความจริง
ดังนั้นแล้ว นายกฯ ลุงตู่ ไม่เพียงไม่มีอำนาจเหนือการเมือง ไม่เพียงเป็นรองการเมืองระบอบทักษิณ
หากแต่.....แพ้ "ราบคาบ" ทันที!

ฉะนั้น การที่นำเรื่องโยนให้ รมว.ยุติธรรม "พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา" รับเป็นแม่งานสะสางการถอดยศ ต้องถือว่า นายกฯ ลุงตู่ ไม่ใช่เต้าหู้ขาดไส้ อย่างที่เข้าใจกัน

แค่บอก "ผมมอบให้กระทรวงยุติธรรมไปติดตามเรื่อง" แค่นี้....ศรัทธาลุงตู่ที่ถอยรูด ก็พุ่งปรู๊ดทันที
และที่มะลำเมลืองใจในหมู่คน "ประยุทธ์ก็ทหารในคาถาทักษิณ" จะหมดสิ้นความคลางแคลง-สงสัยไปครึ่ง ต่อครึ่ง!
เมื่อถึงที่สุดว่า "ถอดยศ"................

นั่นเท่ากับปลดเปลื้องพันธนาการจากคำในคลิปถั่งเช่าที่ว่า "ไว้ใจไอ้ตู่มาก" นั้น....สะบั้นไปในพลัน

อีกทางหนึ่ง เท่ากับขยี้อำนาจระบอบทักษิณ จนหมดกำลัง (เหลือแต่พวกเห็บเกาะแดก) ที่จะสร้างอำนาจเหนือการเมืองได้อีกต่อไป

และนั่น ถนนทุกสาย....
จะทุ่มความหวัง-ความเชื่อ-ศรัทธาบริสุทธิ์ ไปที่นายกฯ ลุงตู่ ยกเป็นผู้กำหนดทิศ-นำทาง-นำประเทศ ไปสู่ทางอนาคตใหม่ ชนิดเทใจ สิ้นสงสัยกันไปเลย!

พลเอกไพบูลย์ท่านก็ฉับไว นายกฯ มอบหมายปุ๊บ ก็เดินเครื่องปั๊บ จัดตารางปฏิทิน "ถอดยศทักษิณ" ได้ประมาณนี้
- ๑๐ สิงหา เรียกประชุมทีมงานฝ่ายกฎหมาย
- ทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เชิญ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. หรือ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล หัวหน้าคณะกรรมการการพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ มาประชุมร่วมคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย
- ภายในสัปดาห์ที่ ๓ ของเดือนสิงหาคม จะได้คำตอบ "ถอดยศได้-ไม่ได้" พร้อมแถลงให้ประชาชนทราบ
บทจะเร็ว....ก็ปานกามนิต!
ดูเช่นนั้น แต่ไม่หรอก จริงๆ แล้วเรื่องมันเสร็จและรู้อยู่แล้วว่า "ถอดได้-ไม่ได้" เพียงแต่ที่ผ่านมา หนอนในรูทวารทักษิณยึกยัก ไม่ "ทำให้ปรากฏ" เท่านั้น

ว่ากันไปอีกที พล.ต.อ.สมยศ กับ พลเอกไพบูลย์ เป็นเพื่อนร่วมรุ่น คือเตรียมทหารรุ่น ๑๕ "ภายใน" มันเป็นยังไง ก็รู้กันไปแล้ว ที่ประชุมร่วมก็แค่ "ทางการ" เท่านั้น!

ขั้นแรก ต้องทำความเข้าใจกันก่อน ทางยุติธรรม โดยพลเอกไพบูลย์ เป็นแม่งานสะสางเรื่องราวให้มันจบเท่านั้น
ไม่ใช่ฝ่ายจัดการถอดยศ-ไม่ถอด!

ถ้าสะสางแล้ว พบว่าตามกฎระเบียบยังถอดไม่ได้ พลเอกไพบูลย์ก็จะแจกแจงให้ทราบ
ถ้าถอดได้..........!

ยุติธรรมไม่มีอำนาจถอด ต้องเดินตามช่องกฎหมายบัญญัติ คือส่งเรื่องที่มีผลสรุปแล้ว กลับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทาง สตช.ก็ทำเรื่องเสนอ ครม.ผ่านเลขาฯ

จากนั้น นายกฯ ลุงตู่ ก็จะนำเรื่องขึ้นกราบบังคมทูลฯ ซึ่งทั้งหมดนั้น จะสรุปชัดภายในสิ้นสิงหานี้
......ฟ้าจะได้ใสเสียที!

ที่ผมว่า แค่ลุงตู่เอาจริง คะแนนศรัทธาก็พุ่งปรู๊ด ไม่ใช่พูดเอง ดูได้จากผลโพล ๒ สำนัก ที่ออกมาตรงกัน

เมื่อวาน (๙ ส.ค.๕๘)
นิด้าโพล เขาใช้หัวข้อสำรวจว่า "สถานการณ์ทางการเมืองจากนี้ เป็นอย่างไร?"
ผลออกมาว่า............
ร้อยละ ๗๔.๖๖ เป็นไปตามโรดแมป คือ ร่างรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบ สปช.ผ่านการลงประชามติ จะเลือกตั้งประมาณเดือน ก.ย.๕๙
ในหัวข้อ "ให้ทำประชามติถามความเห็นประชาชน ว่าจะให้รัฐบาลอยู่ต่ออีก ๒ ปี เพื่อปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งหรือไม่?"
ผลสำรวจออกมาว่า.....
ร้อยละ ๗๑.๕๔ เห็นด้วยกับการทำประชามติ จะทำให้ทราบถึงเสียงส่วนใหญ่ชัดเจนไปเลย เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีสิทธิ์-มีส่วนร่วมตามหลักประชาธิปไตยแท้จริง
ซึ่งทุกวันนี้ ในสังคมมีความคิดเห็นแตกต่าง รัฐบาลควรรับฟังความเห็นจากประชาชนก่อนที่จะตัดสินใจเอง จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
ส่วน "สวนดุสิตโพล" สำรวจในหัวข้อว่า...การปฏิรูปประเทศ การเลือกตั้งครั้งใหม่ และการร่างรัฐธรรมนูญ ประชาชนอยากให้การเมืองไทยดำเนินไปในทิศทางใด?
ผลสำรวจออกมา ในเปอร์เซ็นต์ที่ต่างกันก็จริง แต่ในความต่างนั้น อยู่ในกรอบเส้นเดียวกัน
คือ ร้อยละ ๔๗.๐๖ อยากให้ปฏิรูปประเทศเสร็จก่อน แล้วจึงเลือกตั้ง
ร้อยละ ๒๒.๐๗ อยากเดินตามโรดแมป เลือกตั้งในปี ๒๕๕๙ และ
ร้อยละ ๑๔.๘๘ อย่างไรก็ได้ เพราะเชื่อมั่นในตัวนายกฯ
สรุปแล้วกว่า ๙๐% นายกฯ ลุงตู่ "ครองอำนาจเหนือการเมือง" โดยประชาชนเทใจ...ยังไงก็ได้ แล้วแต่ลุง!
อืมมมมม...ลุงตู่นี่ ไม่เบาแฮะ
แค่แทงเบี้ยหน้าขุน หมากทักษิณก็แทบสิ้นตัวเดิน!

ไม่มีความคิดเห็น: