ดูเหมือนว่าไทยจะถูกลูกหลง กรณีความตึงเครียดระหว่างจีนกับตุรกี ซึ่งมีต้นเหตุมาจากชนเผ่าอุยกูร์ โดยกลุ่มผู้ประท้วงประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเติร์กเชื้อสายอุยกูร์ ตรงเข้าปล้นสะดม และทำลายทรัพย์สินในอาคารสถานกงสุลไทย ประจำกรุงอิสตันบูลของตุรกี หลังมีรายงานว่า ไทยจะส่งตัวชาวอุยกูร์ 200 คน กลับคืนไปให้จีน
หากไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ก็แทบจะไม่มีใครให้ความสนใจสถานการณ์ในตุรกีขณะนี้ ซึ่งเกิดกระแสต่อต้านคนจีนอย่างรุนแรง คนมุสลิมในตุรกี สืบเชื้อสายและมีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและศาสนาใกล้ชิดกับชาวอุยกูร์ทางตะวันตกของจีน ดังนั้น พอมีข่าวว่า ชาวอุยกูร์ในจีนถูกห้าม ไม่ให้ถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอน จึงทำให้เกิดการประท้วงในตุรกี ขณะที่จีนก็ออกมาตอบโต้ข่าวนี้ว่า เป็นข่าวที่ถูกสื่อตะวันตกโหมกระพือให้ดูเกินจริง ทั้งที่จีนเคารพในเสรีภาพในความเชื่อของชาวมุสลิมมาโดยตลอด
แต่ดูเหมือนว่าถ้อยแถลงของจีน จะไม่ช่วยให้กระแสต้านจีนในตุรกีบรรเทาลง ตรงกันข้าม การประท้วงยังลามมาถึงการบุกโจมตีร้านอาหารจีนในกรุงอิสตันบูลอีกด้วย ทั้งยังเกิดการทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกด้วย สื่อในตุรกีรายงานว่า แม้กระทั่งนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ที่มีหน้าตาคล้ายคนจีน ก็พลอยถูกลูกหลงไปด้วย เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้รัฐบาลจีนต้องประกาศแนะนำประชาชนที่จะไปเที่ยวตุรกี และเตือนพวกเขาอย่าไปเข้าใกล้จุดที่มีการประท้วง
เมื่อถามว่า ชาวอุยกูร์คือใคร “อุยกูร์” คือชนเผ่ามุสลิมเติร์ก ในเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน มีชาวอุยกูร์ถึง 45% ส่วนชาวจีนฮั่นมีอยู่ 40% ซึ่งพื้นที่ตรงส่วนนี้ เคยเป็นส่วนหนึ่งของเติร์กเมนิสถานตะวันออกมาก่อน ก่อนจะถูกจีนเข้าครอบครองเมื่อปี 1949 ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่จึงเป็นชาวเติร์ก ก็คือชาวอุยกูร์นั่นเอง หลังจากนั้น จีนพยายามกลืนชนชาติอุยกูร์ ด้วยการส่งชาวจีนฮั่น ไปตั้งรกรากในพื้นที่นั้นให้มากๆ ส่งผลให้ชาวอุยกูร์เกรงว่า วัฒนธรรมของตนจะถูกทำลาย และปัจจุบันนี้ พื้นที่ตรงส่วนนั้นก็ถูกยกให้เป็นเขตปกครองพิเศษในจีน สถานภาพคล้ายทิเบตที่อยู่ทางใต้
แม้ชาวอุยกูร์จะอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่จีนจัดตั้งขึ้น แต่ก็ยังมีบางส่วน คิดหลบหนีออกจากจีน และส่วนใหญ่ก็มักจะหนีเข้าไปในตุรกี เมื่อปี 2009 มีชาวอุยกูร์กว่า 300,000 คน อยู่ในตุรกี และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะมีชาวอุยกูร์ หนีออกจากจีน เข้าไปในตุรกีมากขึ้น เพราะทนไม่ได้ที่ถูกทางการจีนออกกฎบังคับกิจกรรมทางศาสนาอย่างเข้มงวด ตำรวจจีนมักเรียกตัวชาวอุยกูร์ไปไต่สวน ว่าทำไมต้องไว้เครา ทำไมต้องอ่านคัมภีร์อัลกุรอาน ทำไมผู้หญิงต้องเอาผ้าปิดบังใบหน้า ทั้งยังเกิดความไม่เท่าเทียมทางสังคมระหว่างชาวอุยกูร์ กับชาวจีนฮั่น
คนที่อยู่ในซินเจียงบอกว่า จีนออกกฎให้ผู้หญิงในซินเจียงห้ามใส่ผ้าคลุมปิดบังใบหน้าหรือศีรษะ ชาวอุยกูร์ไม่อนุญาตให้ซื้อมีดในบางพื้นที่ ชาวอุยกูร์ถูกคุมเข้มเรื่องการสวด ถ้าอายุยังไม่ถึง 18 ปี ห้ามไปสุเหร่า ชาวอุยกูร์ที่จะแต่งงานกันต้องไปจดทะเบียนกับรัฐบาลจีน ห้ามไปแต่งงานกันอย่างลับๆ โดยมีอิหม่ามเป็นผู้จัดการให้ และให้ชาวอุยกูร์สูงวัยเท่านั้น ที่ไว้เคราได้
ชาวอุยกูร์บางส่วนที่หนีจากจีนมาอยู่ในตุรกี จึงรู้สึกเหมือนเกิดใหม่ เพราะที่นี่มีเสรีภาพในเรื่องศาสนาและการแต่งกาย ดังนั้น พอมีข่าวว่าไทยจะส่งชาวอุยกูร์ 200 คนกลับคืนไปให้จีน จึงทำให้ชาวอุยกูร์ในตุรกีไม่พอใจ และโจมตีสถานกงสุลไทยขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น