PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เพราะตุรกีถือว่าอุยกูร์เป็นพี่น้องเลือดเดียวกัน

เพราะตุรกีถือว่าอุยกูร์เป็นพี่น้องเลือดเดียวกัน

โดย บัณรส บัวคลี่
9 กรกฎาคม 2558 17:33 น.
เพราะตุรกีถือว่าอุยกูร์เป็นพี่น้องเลือดเดียวกัน
ภาพเอพี
        เหตุการณ์ที่ชาวตุรกีบุกเข้าไปทุบทำลายก่อจลาจลที่สถานกงสุลไทย ประจำกรุงอิสตันบูลเมื่อกลางดึกคืนวาน (พุธ 8 ก.ค.) ตรงกับเวลาประมาณ 3.00 น.ของวันที่ 9 ก.ค.ตามเวลาประเทศไทยดูค่อนข้างรุนแรง จากภาพข่าวมีการขว้างปาทุบทำลายมีภาพกระจกหน้าต่างแตกแสดงถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมากของชาวตุรกีกลุ่มดังกล่าวที่ทราบข่าวว่าทางการไทยได้ส่งตัวผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีน
      
        หลายท่านคงแปลกใจว่า เหตุใดชาวตุรกีซึ่งเป็นชาวเติร์กที่อยู่ห่างไกลประเทศจีนและไทยถึงสุดขอบทวีปเอเชียจึงเกิดมีอารมณ์รุนแรงกับกรณีชาวมุสลิมอุยกูร์จากแคว้นซินเกียงมากถึงขนาดนี้
      
        คำตอบก็คือ ด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่เมื่อราวพันปีก่อน ชาวเติร์กตุรกีเชื่อว่าบรรพบุรุษของเขาอพยพมาจากดินแดนที่เป็นแคว้นซินเกียงของจีนในปัจจุบัน ซึ่งในยุคนั้นตรงกับสมัยราชวงศ์ถังเรียกดินแดนละแวกนั้นว่าแดนซีอวี้ (แดนตะวันตก)
      
        ชาวเติร์กตุรกีเชื่อว่าบรรพบุรุษของเขาคือชนเผ่าเติร์กกลุ่มหนึ่งซึ่งชาวจีนเรียกว่า “ชาวถูเจี๋ย” ดินแดนของถูเจี๋ยในยุคราชวงศ์ถังเลยขึ้นไปจากมณฑลซินเกียงขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเล็กน้อย ถ้ามองจากแผนที่จะอยู่บริเวณด้านเหนือของทะเลทรายทากลามากันค่อนไปทางตะวันตก บทบาทและอิทธิพลของชาวเผ่าถูเจี๋ยมีสูงมากในสมัยราชวงศ์สุยต่อมาเมื่อเปลี่ยนมาเป็นราชวงศ์ถัง ชาวถูเจี๋ยเป็นภัยคุกคามทางตอนเหนืออย่างยิ่ง ถังไท่จงฮ่องเต้ (หลี่ซื่อหมิน) ใช้วิเทโศบายผูกมิตรไว้ก่อนในช่วงแรกจนเมื่อรัฐบาลถังแข็งแรงพร้อมจึงก่อสงครามกับชาวถูเจี๋ยจนได้รับชัยชนะ ขับไล่ชาวถูกเจี๋ยออกไปจากแดนซีอวี้ได้สำเร็จ
      
        ชาวถูเจี๋ยที่พ่ายศึกถังเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม ผ่านยูเรเซียไปถึงที่ราบสูงอนาโตเลีย แล้วก็เป็นบรรพบุรุษของชาวเติร์กที่เป็นประเทศตุรกีในปัจจุบัน
      
        โลกมุสลิมรับรู้ถึงสายสัมพันธ์ของชาวตุรกีกับชาวอุยกูร์มานานแล้ว และที่ผ่านมาคงมีชาวอุยกูร์จากประเทศจีนหลบหนีออกไปตั้งถิ่นฐานที่ตุรกีมาแล้วจำนวนไม่น้อย หากจำกรณีที่ทางการไทยจับกุมผู้อพยพชาวอุยกูร์ที่จังหวัดสงขลา173 คนเมื่อปีที่แล้ว (2557) ได้ จู่ๆ พวกเขาก็หายไปจากที่ควบคุมตัวอย่างไร้ร่องรอย วงการข่าวเชื่อว่านี่เป็นการไกล่เกลี่ยส่งมอบผู้คนกลับคืนต้นทางอย่างเงียบๆ โดยไม่ต้องมีการดำเนินคดี
      
        ที่จริงแล้วชาวโลกก็รู้ว่าตุรกีเป็นปลายทางของชาวอุยกูร์ ไม่ได้เป็นเรื่องลึกลับอะไรการอพยพหลบหนีก่อนๆ หน้าเมื่อถูกจับกุมได้บางคนยังอ้างว่าเป็นชาวเติร์ก ไม่ใช่อุยกูร์ สำนักข่าว wsj-วอลล์สตรีทเจอร์นัล เคยตีพิมพ์สกู๊ปชื่อ As Muslim Uighurs Flee, China Sees Jihad Risk As Homeland Grows Violent, Some Uighurs Seek Haven in Turkey ตีแผ่ว่าชาวอุยกูร์ใช้เส้นทางหลบหนีผ่านทางสายไหมตอนใต้เข้าอัฟกานิสถาน ผ่านพม่า มายังประเทศไทยไปยังมาเลเซียเพื่อพักเท้าก่อนจะเดินทางไปยังปลายทางสุดท้ายที่ประเทศตุรกี
      
       

      
        คนตุรกีมองว่ารัฐบาลจีนใจร้ายข่มเหงและกดดันพี่น้องมุสลิมเชื้อสายเดียวกับพวกเขาอย่างไม่เป็นธรรม จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะเกิดอารมณ์โกรธแค้นกับข่าวรัฐบาลไทยส่งตัวชาวอุยกูร์ที่หลบหนีออกมากลับยังประเทศจีน
      
        เรื่องสายสัมพันธ์และความโกรธแค้นน่ะ ผมไม่แปลกใจ...ส่วนที่แปลกใจก็คือ อยากรู้ว่าที่ชาวตุรกีโกรธแค้นน่ะ คือการส่งชาวอุยกูร์ 173 คนกลับประเทศเมื่อมีนาคมปีที่แล้ว (2557) หรือชุดไหนกลุ่มไหนกันแน่...ถ้าเป็นกลุ่ม 173 คนที่สงขลาเมื่อปีที่แล้ว ทำไมจึงเพิ่งมารู้เอาตอนนี้ ? 

ไม่มีความคิดเห็น: