PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ว่าด้วยตลาดหุ้นจีนในอีกมุม


มีแฟนนานุแฟนหลายๆ ท่าน บอกว่าทำไมผมไม่เอาเรื่องตลาดหุ้นจีนที่กำลังดิ่งเหวที่ผมพูดในการเสวนากลุ่มย่อยเมื่อสองสัปดาห์ก่อนมาเขียนให้อ่านกันแพร่หลายให้คนที่ไม่นั่งฟังได้รู้ด้วย ผมก็บอกว่ามีสองปัจจัยที่ผมไม่เขียนก็คือ ช่วงนี้กว่าเดือนหนึ่งแล้วที่ผมขี้เกียจอย่างหนัก และอีกเรื่องคือเพราะการพูดมันง่ายกว่าการเขียน ขยับปากจบเรื่องแล้วจบกัน และอีกอย่างคือเรื่องนี้คนในตลาดทุนที่ขยันอ่านข่าวต่างประเทศเขารู้ล่วงหน้ากันแล้วมาสักพัก ไม่ใช่เรื่องปุบปับตลาดโดนถล่มดึงเงินออกจากวิกฤตการณ์กรีซเบี้ยวหนี้ที่ผมต้องรีบเอามาเขียนเตือนเหมือนตลาดยุโรปเมื่อปลายเดือนที่แล้วเสียเมื่อไร
ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมจะเล่าเรื่องที่นั่งคุยกันให้ฟังย้อนหลังให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเมืองจีนเวลานี้พอให้เข้าใจครับ ถ้าจะย้อนหลังไปเมื่อปีที่แล้ว สภาพเศรษฐกิจของจีนยิ่งใหญ่มากหลังจาดสามารถดันเอาหยวนเข้าตลาดเงินของโลกได้ จะนับตั้งแต่อังกฤษรับรองการสว็อปเงิน ปอนด์-หยวน ก็คงไม่ผิดจากเวลาประมาณของผมไปมากนัก เวลานั้นหุ้นในตลาดจีนย่างเซี่ยงไฮ้คอมโปสิทกระโดดอย่างต่อเนื่องไปถึงประมาณเกือบ 120% เลยก็ว่าได้ แต่อะไรที่มันโตโดยเท็กนิกแต่ไม่มีมูลฐานมารองรับมันก็ต้องแตกเหมือนลูกโป่งถ้ามันยังโดนสูบลมเข้าไปจนเกินที่จะรับได้

เรื่องนี้มอร์แกนสแตนลี่ย์ออกมาเตือนหลายเดือนแล้วว่าใครโยกเงินไปตลาดจีนก็ระวังกันหน่อยก็แล้วกัน เพราะเข้าเร็วออกเร็วก็ไม่เจ็บตัว แต่เข้าเร็วออกช้าโดยหวังจะกินมาร์จิ้นที่ก้อนใหญ่กว่าก็ต้องทำใจรับความเสี่ยงกันเอาเอง เรื่องนี้ทางตลาดหุ้นจีนก็ออกมาโต้ว่าอเมริกาอิจฉาเห็นองุ่นเปรียวหรือเปล่า ตลาดทุนของจีนมีการรองรับของอุตสาหกรรมระดับพื้นฐานมาอย่างดีแล้วไม่ใช่มีแต่ลม ไม่ล้มง่ายๆหรอก แล้วมอร์แกนสแตนลี่ย์ก็ออกมาเตือนหนักอีกรอบตอนเดือน พค.ที่ผ่านมาว่าไม่ได้ขู่นะ เจ็บหนักแน่
ความจริงแล้วถ้ามองย้อนกลับไปอีกหลายๆ ปี มอร์แกนสแตนลี่ย์ เคยลดอันดับตลาดทุนจีนมาครั้งแรกเมื่อปี 2008 โดยกำหนด Overweight to Equal Weight แล้วเคาะเลยว่าร่วงอันดับ เพราะเวลานั้นหุ้นจีนขึ้นแบบติดจรวดจนหลายๆสำนักหันไปลงทุนกับจีนแบบไม่ยั้ง เรื่องนี้จะขยายความว่าที่มันมีปัญหาจนส่งผลมาถึงที่เห็นในวันนี้เพราะ increased equity supply, continued weak earnings growt in the context of economic deceleration, high valuations, very high margin debt to free float market capitalization ทั้งสี่อย่างตามทฤษฎีแบบไม่มีอะไรผิดไปเลย นั่นคือสาเหตุที่เซี่ยงไฮ้คอมโปสิตร่วงงไป 7.4% เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา และรูดมหาราชลงไปตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาแบบไม่ยอมโงหัว จนทะลุไปอีกเป็นเท่าตัว
จนเมื่อวานนี้ข่าวรอยเตอร์ได้ลงข่าวว่า More than 500 China-listed firms announced trading halts on the Shanghai and Shenzhen exchanges on Wednesday, taking total suspensions to about 1,300 - 45 percent of the market or roughly $2.4 trillion worth of stock - as companies scuttled to sit out the carnage. โดนซัสเพนไป 45เปอร์เซ็นต์ 2.4ล้านล้านดอลล่า ไม่ใช่ตัวเลขธรรมดาเลยในวิกฤติตลาดทุนของจีนวันนี้ แต่จะไม่แขวนก็ไม่ได้ เพราะมันจะเหมือนเอาคนเป็นอหิวาตกโรคไปนอนขี้แตกในโรงอาหาร ตัวอื่นที่ยังพอรอดก็พลอยเน่าไปด้วย

ถ้าตลาดเซี่ยงไฮ้ไม่ระงับการขายหุ้นบางตัวที่ลงฉุดตลาดมันอาจจะร่วงหนักจนตัวเลขเกินกว่านี้ก็ได้ ฝรั่งอั้งม้อถึงกับตีข่าวว่า China's market turmoil will destabilize the real economy is now a bigger risk than the crisis in Greece. ระวังนะเว้ยย..เฮ้ยย.. เรื่องจีนนี่มันอาจจะทำฉิบหายมากกว่าเรื่องกรีซเสียอีก
ผมดูหมากขาดไปตาหนึ่งที่เมื่อเดือนที่แล้ว ผมบอกว่าว่าเงินดอลล่าจะขึ้นสั้นๆ จากวิกฤติการณ์ของกรีซ ที่ถีบเงินยูโรต่ำลงทำให้ค่าดอลล่ากระเตื้องขึ้นทางเท็กนิก แต่ถึงวันนี้แรงส่งของวิกฤติการณ์ตลาดทุนจีนมันส่งผลให้ดอลล่าขึ้นไปอีกรอบ ดังนั้นผมคงต้องบอกใหม่ว่าเงินดอลล่ามันตายยากจริงวุ้ย ยูโรตายแทนไปเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา สัปดาห์นี้หยวนตายอีกหนึ่ง ถ้าจะมองย้อนหลังไปอีกปีที่แล้วรูเบิ้ลก็พังไปเกือบครึ่งก็ส่งให้ดอลล่าขยับไปไม่ใช่น้อย

รัสเซียยังไม่ฟื้นไข้ต้องนอนไปอีกสักพักน้ำข้าวต้มจะหยอดก็ไม่มีเพราะตลาดพลังงานราคาตก ยุโรปก็เพิ่งเข็นเตียงออกจากห้องไอซียูยังไม่รู้ว่าจะต้องเข็นกลับเข้าไปใหม่หรือไม่ คราวนี้จีนโดนหามร่องแร่งเลือดท่วมตัวเข้าหน่วยอีอาร์มาอีกราย
อเมริกันดอลล่ามันทำบุญมาด้วยอะไรหว่า.. ผมสงสัยจริงๆ
เครดิตภาพ บิวซิเนสอินไซด์เดอร์ โซชิโออีโคฮิสทรี


ไม่มีความคิดเห็น: