ทำไมต้อง ม.๓๐๙
บทความ วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2555 8:00น.
น่าสนใจติดตามความเข้มข้นไปสู่จุดปะทะคู่ขัดแย้งทางการเมืองอีกวาระ ในกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เคยมีความพยายามของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย มาแต่ต้น นับแต่ชนะการเลือกตั้ง ภายใต้การสนับสนุนของมวลชนเสื้อแดง
น่าสนใจนอกเหนือไปจากแนวทาง ตั้งแต่การเสนอการทำประชามติ ภายใต้คำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้า หรือ โหวตเสียงต่อในวาระสาม ของสภาฯ
น่าสนใจ ว่า "สัญญาณ" ที่ถูกส่งออกมาล่าสุดของ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ที่ให้มีการประชามติภายใต้ความมั่นใจนั้น เป็น "แนวทาง" ที่เสมือนการ "ฟันธง" โดยกลายๆ ใน "ทิศทาง" แม้จะมีท่าทีสับสนกันก่อนหน้านี้ของแกนนำเสื้อแดง ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย ภายใต้แรงกดดันจากมวลชน
ที่น่าจะเป็นเหตุผลของการออกมากระตุกอีกระลอก จากฝั่งของฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์ โดย "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"กับการ "โฟกัสเป้า" ออกมาจับไต๋ดักทาง ว่า รัฐบาลจะมีการแก้ ม.๓๐๙ เพื่อเอื้อประโยชน์นิรโทษกรรม"พ.ต.ท.ทักษิณ" ...
เป็นมาตรา ๓๐๙ ที่ระบุว่า "บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ ว่า เป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าว ไม่ว่าก่อน หรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้น และการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้"
เป็นมาตรา ๓๐๙ ที่ถูกฝ่ายค้าน และหลายฝ่ายระบุว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ควรให้ภาพที่ชัดเจนในวัตถุประสงค์การแก้ไข โดยเฉพาะกับความกังวลว่า การแก้รัฐธรรมนูญ หนนี้ อาจนำไปสู่การล้มล้างทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับรัฐประหาร โดยเฉพาะกระบวนการตรวจสอบหลังรัฐประหาร โดย คตส.ที่ดำเนินการกับ "พ.ต.ท.ทักษิณ" จะถูกล้มเลิกไปโดยปริยาย ซึ่งถือเป็นการทำลายล้างระบบนิติรัฐ นิติธรรม
โดยบรรดากระบวนการหลังรัฐประหารเหล่านี้ อย่าลืมว่า "พ.ต.ท.ทักษิณ" มีคดีสำคัญๆ ค้างอยู่ใน ป.ป.ช. ๔ คดี ประกอบด้วย ๑.คดีเอ็กซิมแบงก์ ปล่อยกู้พม่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท ๒.คดีแปลงสัญญาสัมปทานธุรกิจโทรคมนาคมเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป ๓.คดีทุจริตการออกหวยบนดิน ๒ ตัว ๓ ตัว โดยมิชอบ ๔.คดีปกปิดบัญชีทรัพย์สิน หรือ ซุกหุ้น ที่ ป.ป.ช. ยื่นฟ้องหลังศาลฎีกาฯ ได้ตัดสินยึดทรัพย์ ๔๖,๐๐๐ ล้านบาท
ที่สำคัญ หากมีการแก้ไข ม.๓๐๙ อาจมีผลเชื่อมต่อไปถึง คดีที่ดินรัชดาฯ ที่ศาลตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเวลา ๒ ปี ซึ่งหากต้นทาง "โมฆะ" จะมีผลต่อปลายทางหรือไม่ด้วย..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น