PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

(ย้อนหลัง2555)ตัวประกันเตรียมเจ็บ-ตายอีก!!


ตัวประกันเตรียมเจ็บ-ตายอีก!!
บทความ วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 8:20น.
415624
น่าสนใจในไทม์มิ่งการเมือง กำหนดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 25-26พ.ย.55ที่สอดรับในจังหวะเดียวกัน กับการขยับเคลื่อนของ "พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์" ปธ.องค์การพิทักษ์สยาม เตรียมจัดชุมนุมใหญ่ 24 พ.ย. ฤกษ์ดี 09.01 น. เป็นเวลา 3 วัน (24-26 พ.ย.) ในขณะที่มีการขยับสะสมกำลังเคลื่อนไหว ของเหล่าบรรดาคนเสื้อแดงในทุกจังหวัด เพื่อต่อต้านการเคลื่อนไหวของม็อบที่นำโดย เสธ.อ้าย

โดยมีการกล่าวหาว่า มีอดีตอำนาจเก่าให้การสนับสนับสนุนโดยมีการระบุชื่อ ของ "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์"องคมนตรี ที่แน่นอนประวัติศาสตร์จดบันทึกว่าย่อมเกี่ยวข้องสัมพันธ์ไปยังบุคคลชั้นนำของประเทศไทย ที่อยู่คละขั้วข้าง กับรัฐบาลปัจจุบัน ที่ย้อนเวลากลับไปครั้งการเคลื่อนของ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรี ที่ปลุกเร้าทหารเก่าและนักเรียนนายร้อย ภายใต้การเคลื่อนแบบคู่ขนานไปกับม็อบที่จัดขึ้นโดยทหาร สื่อ ที่มีตัวละครเดียวกันในนาม "ชมรมคนรู้ทันทักษิณ" อย่าง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และอีกหลายผู้คน ครั้งกระโน้น ที่พัฒนามาสู่"พันธมิตรประชาชนเพือประชาธิปไตย" กระทั่งสถานการณ์ดำเนินไปสู่ ปี 2548 และเกิดการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 โดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน กระทั่ง ปี 2550 มีรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ภายใต้ปฏิบัติการไล่ล่า "ทักษิณ" ไปทั่วโลก

กระทั่งมีการเลือกตั้ง เกิดรัฐบาลพรรคพลังประชาชน มีสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ เกิดปฏิบัติการ ไล่ล่ากดดันสมัคร จนตายน้ำตื้นชิมไปบ่นไป กระทั่งมี รัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เจอปฏิบัติการมวลชนปิดล้อมสภา และที่สุดก็อยู่ไม่ได้ ภายใต้ปฏิบัติการ งูเห่า ของพรรคภูมิใจไทย อันเป็นที่ มาของรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เกิดปฏิบัติการไล่ล่ากดดัน และเกิดเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ พ.ศ.2553 กระทั่ง มาสู่การเลือกตั้งและมีรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ที่ปรากฎความชัดเจนว่า มีพี่ชายให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ภายใต้มวลชนสีแดง

น่าสนใจในจุดบรรจบของเงื่อนเวลาจากภายในสู่ภายนอกจากภายนอกสู่ภายใน จากสภาสู่ถนนจากถนนสู่สภาและทำเนียบรัฐบาล ในท่ามกลางขยับเคลื่อนของสถานการณ์ในบทคู่ขนานเดิม กลุ่มคนเดิม วิถีทางและเป้าประสงค์เดิม คล้ายสถานการณ์เก่าแบบเดิมๆ นับแต่ ปี 2548,2551 และ 2553 มินับรวมอดีต 2535 หรือ ย้อนถอยไปกว่านั้น ที่พัฒนาการความรุนแรงทางการเมือง จากจุดสูงสุดคืนสู่สามัญ ภายใต้บาดแผลการล้มตายของผู้คนมากมายหลายฝ่าย โดยเฉพาะ "ประชาชน" ที่มักตกเป็น "ตัวประกัน" เจ็บจริง ตายจริง ในทุกครั้งศพแล้วศพเล่า

น่าสนใจที่ ในขณะ เหล่าบรรดาผู้คนชั้นนำทางความคิด การขับเคลื่อนและเหล่าบรรดา เสธ หัวกะทิ และผู้บงการทั้ง ผู้มีอำนาจ และเหล่าบรรดาทุนปฏิปักษ์ ต่างข้างขั้ว ที่ทั้งอดีตทหาร ทหาร นักการเมือง ฯลฯ ทั้งหลายที่อยู่เบื้องหลัง และบนเวที คนเหล่านี้ยังคงยืนหยัดบนอำนาจและยังคงปฏิบัติการทุกวิถีทาง ทุกจังหวะเพื่อแย่งชิงอำนาจ และรักษาอำนาจกันต่อไป โดยไม่สนว่าภาพรวมความเป็นไปเป็นอยู่ และอนาคตของลูกหลานจะเป็นอย่างไ

น่าสนใจ จาก"สัญญาน"และข้อมูลการข่าว บ่งชัดถึงจุดระดับทึ่ไม่มีใครกล้าวิเคราะะห์ถึง ว่า เหตุที่ฝ่ายก่อการมิอาจรอคอยความสุกงอมในประเด็นการซักฟอกรัฐบาล ให้เนิ่นช้าไปกว่านี้ได้ หาใช่เกี่ยวแค่เพียงปมปัญหาการ บริหารจัดการและข่าวการทุจริตบางระดับ หากแต่พอยน์สำคัญกลับไปอยู่ที่ เงื่อนไขเวลาการเอาผิดเอาโทษ "แกนนำ" ของบางฝ่าย ที่อาจลากดึงหลายตัวละครเข้าไปเกี่ยวข้องรับผิด และอาจถึงขั้นพังราบในหลายองค์กรการเมือง

ขณะเดียวกัน ในจังหวะการนับถอยหลังของหลายๆคน ที่มีบทบาทก็ชักอ่อนบ้าลง ในจังหวะที่อีกฝ่ายกลับเข้มแข็งและขยายตัวไปมากขึ้นเรื่อยๆ

สัญญานที่ต่างฝ่ายเคยแสร้งแสดงการประนีประนอมกันจึงหมดเวลาในความหมาย

ไม่แปลกที่การขยับรับของ "ทักษิณ" และคนเสื้อแดง ที่มีการติดตามสัญญานเหล่านี้จึงเร็วและแรง อย่างพร้อม แตกหักกับฝ่ายปฏิปักษ์

ไม่แปลกที่การขยับในจังหวะทิศทางและตัวละครที่เปิดหน้า หนนี้ ภายใต้ อำนาจรัฐ อำนาจแฝง กองกำลัง และมวลขน ทัศนะ ผนวกกับสรรพาวุธ กำลังรบ และทุนสนับสนุน ทั้งเก่า ใหม่ จึงน่าจับตาในความหมิ่นเหม่ การนำไปสู่จุดของความแรงเหนือความแรง หาก จุดปะทะ จะบรรจบลงที่ ความวุ่นวาย การแทรกซ้อน ฉวยโอกาส ของฝ่ายการเมืองโดยใช้ชีวิต "มวลชน" เป็นเดิมพัน ที่ย่ิอมนำไปสู่ การปะทะ และสงครามกลางเมือง ภายใต้การชิงอำนาจ ที่ไม่วันสิ้นสุดของเรา ที่อาจไม่ต่างไปจากหลายประเทศแถวตะวันออกกลางเวลานี้.

ไม่มีความคิดเห็น: