PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

(ย้อหลัง2555)เกมยาว-ไทม์มิ่งอันตราย!


เกมยาว-ไทม์มิ่งอันตราย!
บทความ วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 21:11น.
419173
น่าสนใจในอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนในสังคม หลังการก้าวผ่านสถานการณ์ความหวาดกังวลจากสถานการณ์การขุมนุมใหญ่ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า ของ"องค์การพิทักษ์สยาม"โดย"เสธอ้าย"พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ (24พ.ย.55)ที่สถานการณ์ดูดุเดือดเข้มข้นตั้งแต่เริ่มต้นวันแรก เมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มี"ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง"เป็นรองนายกดูแลด้านความมั่นคง ภายใต้ ครม.ย่อย 9 คน ประกาศใช้ พบ.ความมั่นคง ใน 3 เขตพื้นที่การชุมนุม และใข้ตำรวจ 5 หมื่นนาย เข้าปฏิบัติการสะกัด ทุกทิศทางเข้าไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวปั่นยอดให้ได้แม้แต่ 5 หมื่น-แสน หรือล้าน ตามที่"เสธอ้าย"ประกาศไว้ กระทั่งเกิดการปะทะกันหลายรอบ มีการยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมและจับกุมผู้ชุมนุมกว่า100คบริเวณ สะพานมัฆวาน และแยกมิกสกวัน ที่พยายามฝ่าแนวเปิดพื้นที่การชุมนุมให้มากขึ้นเพื่อสมทบเวทีใหญ่ ไปควบคุมที่ ตร.ภาค1
น่าสนใจว่าในจังหวะ เวลาเพ-ลานั้นอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนวงนอกที่ชมผ่านสื่อTVดาวเทียม ไม่แต่ในม็อบมีทั้งพลุ่งพล่านกระเหี้ยนกระหือรือ ที่จะเข้าไปร่วม หรือพร้อมที่จะเคลื่อนไป พร้อมกับบทบรรเลงของสถานการณ์แห่ง"เงื่อนไข"แห่ง"อารมณ์-ความรู้สึก"ที่กำลังเร้ากระหึ่มขึ้นเรื่อยๆ เวลานั้นที่คล้ายเมื่อครั้งม็อบพันธมิตร ถูกตำรวจเข้าสลายการชุมนุมโดยใช้แก๊สน้ำตาที่ปรากฎเป็นฉากความวุ่นวายเลือดตกยางออกและมีผู้ชุมนุมเสียชีวิต ในอดีต แต่พลัน"เสธอ้าย"หลังรับสายโทรศัพท์ กลับตัดสินใจขึ้นเวทีประกาศ"ยุติการขุมนุม"ลงดื้อๆ
น่าสนใจว่าภายใต้เสียงก่นด่า ต่อการ ปฏิบัติการเข้มข้นของเจ้าหน้าที่ ม็อบและผู้คนวงรอบ กลับพร้อมให้อภัยกับ การตัดสินใจที่จะ"ไม่พาคนไปตาย"ของ"เสธอ้าย"ที่ประกาศยุติบทบาททางการเมืองของตนเองไปด้วย
น่าสนใจว่าหลังการยุติ เก็บฉากของ"ม็อบเสธอ้าย"บนถนน โฟกัสเป้า จึงกลับไปอยู่ที่เวทีตามระบบการเมืองในรัฐสภา กับศึกซักฟอก ไม่ไว้วางใจรัฐบาล (25-27พ.ย)ที่จะมีการลงมติ(28พ.ย.)และต่อด้วยคิวของ วุฒิสภาที่จะอภิปรายรัฐบาลแบบไม่ลงมติในบ่ายวันเดียวกัน จากนั้นจะมีการปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญ(29พ.ย.)พักยาวไปถึง21ธ.ค.55ที่สภาจะเปิดสมัยประชุมนิติบัญญัติ
น่าสนใจที่ โดยภาพรวมแม้ในกระบวนการในระบบการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติต่อฝ่ายบริหาร ที่หะแรกก่อนวันที่24พ.ย.55 ไม่ได้รับความสนใจเท่ากับ การเมืองนอกสภา แต่มื่อถึงเวลา"เปลี่ยนเป้า" ข้อมูลต่างๆที่ฝ่ายค้าน ภายใต้การนำของ"พรรคประชาธิปัตย์"ก็"ส่งผล"ไม่น้อยกับ ครหาการทุจริตคอรัปขั่น ในพวกพ้อง แต่หลักๆอันป็น"ยาดำ"สอดแทรกในทุกเม็ดทุกประเด็นการอภิปรายน่าสังเกตว่ามีการพุ่งเป้าที่"พ.ต.ท..ทักษิณ ชินวัตร"อดีตนายกฯ พี่ชายของ นายก คนปัจจุบัน อย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะความพยามตอกตีไปยังจุด การละเว้นการเอาผิดเอาโทษ การให้ความสำคัญ การบ่งชัด การ"อยู่เบื้องหลัง"การบริหารงานรัฐบาลชุดนี้แบบ"ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"ภายใต้วาทกรรมเดียวกันจากม็อบนอกสภาฯ กับการต่อสู้เพื่อล้มล้าง"ระบอบทักษิณ"
เป็นการ"ส่งผล"ใน"เนื้อหา"อันเป็น"หลักเหตุ-ผล"สนความสุกงอม ที่ไปเติมเต็ม ใน"รูปแบบ"การปฏิบัติการณ์"ภายนอก"ในเชิง"ยุทธวิธี"ภายใต้"เป้าหมายเดียวกัน"คือการ"ชิงอำนาจ" ล้มล้างรัฐบาล ภายใต้พรคเพื่อไทย ชุดปัจจุบัน
น่าสนใจ ที่ในไทม์มิ่งถัดจากนี้ เป็นเดือนมหามงคล ที่ปวงชนชาวไทยจะปิติ ที่จะชื่มชมพระบารมีของ"ในหลวง"ในวันเฉลิมพระขนมพรรษา (5ธ.ค.)กับการเสด็จออกเพื่อพบ พสกนิกรของพระองค์
กระนั้น ถัดไปในไทม์มิ่ง"สัญลักษณ์"ทางการเมือง ก็น่าสนใจ กับวันรัฐธรรมนูญ (10ธ.ค.)ที่มีหลายฝ่ายเตรียมใช้เป็นหมุดหมายการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภา แบบยืดระยะยาวระหว่างการปิดพักการประชุมสภาฯไปถึง21ธ.ค. ภายใต้แพลนการ ต่อยอด "อารมณ์ตกค้าง"จากม็อบ"เสธอ้าย"อันจะ"คู่ขนาน"ไปกับการ"ขยายผล" เนื้อหา "คดี"ที่จะทะยอยบรรจุเจ้าไปสู่กระบวนการ"ถอดถอน"นายก-รัฐมนตรี ผ่าน"องค์กรอิสระ"จากผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา
น่าสนใจว่าจากสถิติของการเดินหน้า"ตรวจสอบ"จากกลไก"นิติบัญญัติ"ไปสู่กลไกของ"องค์กรอิสระ"โดย"ฝ่ายค้าน"ภายใต้"พรรคประขาธิปัตย์"ที่ผ่านมา แม้จะแพ้โหวตในการยกมือไม่ไว้วางใจในสภา แต่ก็มักชนะโดยทำให้"ส่งผล"กับ"รัฐบาล"ที่ผ่านมาเกือบทุกครั้ง
และก็ น่าสนใจเช่นกัน ว่า แม้การยุติบทบาทของ"เสธอ้าย"ลงไป(24พ.ย.55)แต่ก็ใช่ว่า บทบาทขององค์การพิทักษ์สยาม ที่มีฐาน ทุน-กองกำลัง-มวลชน และภาคีเครือข่ายที"จองกฐิน"ไว้แล้ว หาได้หมดลงไปด้วยไม่
หมากเกม และการเคลื่อนไหวทางการเมือง แบบมวลชน และแท็กติกทางกฎหมาย การตรวจสอบของแต่ละหน่วยกำลังรบ ระหว่าง"สองขั้วอำนาจ"ประเทศไทย (ทุนเก่า-ทุนใหม่)ถัดจากวันที่ 10 ธ.ค.เป็นต้นไปจึงน่าจับตา ว่าจะเป็นไป ตามที่ หลายฝ่ายออกมาสำทับไว้ในทางโหราพยากรณ์แล้วว่า ดวงของ"รัฐบาลยิ่งลักษณ์" หลัง 10 ธ.ค.อาการน่าเป็นห่วง หรือสถานการณ์ถัดไปจะ"สุกงอม"มากพอที่จะมีการต่อยอด"ยกระดับ"จาก"ไฟหัวเชื้อ"ที่"เสธอ้าย"จุดไว้ ให้เป็น เปลวไฟกองใหญ่ ปฏิบัติการไล่รัฐบาล และชิงอำนาจกลับได้หีรือไม่ โดยวิธีใด แรง-ไม่แรง สงบหรือวุ่นวายและสถานการณ์ถัดไปจากนั้น ประเทศไทย จะเป็นอย่างไรต่อไป.???

ไม่มีความคิดเห็น: