สัญญาณ..แรง!!
บทความ วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 8:18น.
มีความน่าสนใจ ในความไม่ธรรมดา เชิง "สัญลักษณ์" อัน "เชื่อมต่อ" ที่มีความพยายาม "สื่อสาร" และ "ส่งสาร" ออกมาถึง "มวลชน" "ทุน" และ "สรรพกำลัง" อันคล้ายยุคสมัยของ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ผ่านคำกล่าวเชิงนัยของ "สนธิ ลิ้มทองกุล" เกี่ยวกับผ้าพันคอสีฟ้า ครั้งนั้น (พ.ศ.2548)... กับ ภายใต้การเคลื่อนตัวของ "เสธ.อ้าย"พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ที่ประกาศฤกษ์เวลาเคลื่อนไหว 09.01 น. วันที่ 24 พ.ย. 55 โดยยืนยันว่าเป็นเลขมงคล เพราะทางองค์การพิทักษ์สยาม มีเจตนารมณ์ที่ชัดเจนอยู่แล้วในการปกป้องสถาบัน...
น่าสนใจที่ ความไม่ธรรมดาในเชิงสัญลักษณ์ดังกล่าว ถูกอ้างบ่งชัดในเจตนารมณ์ ของการเคลื่อนไหว อันไม่ต่างจากเจตนารมณ์ของ "พันธมิตรฯ" ครั้งนั้น หากแต่จะต่างเพียงแค่ จังหวะ และ "เวลา" ที่ใช้ในการเร้าสถานการณ์ไปสู่"ความสุกงอม" ในประเด็นการขับไล่ "รัฐบาลพี่" (2548) และ "รัฐบาลน้อง" (2555) จนมีข่าว "วงใน" ออกมาในท่วงทำนอง เป็นการ "เร่งปิดเกมเร็ว" ภายในเดือน พ.ย. ก่อนถึงเดือนมหามงคล เพราะผู้อยู่เบื้องหลังเกมอีกสองถึงสามชั้น ไม่ต้องการให้สถานการณ์ของรัฐบาลนี้ทอดยาวไปถึงช่วงเวลาดังกล่าว เพราะจะส่งผลกระทบกับ "ฝ่ายก่อการ" อย่างรุนแรง ในหลายสถานการณ์ที่มีความสำคัญของประเทศไทย
ไม่แปลกที่ห้วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายฝ่ายจะเห็น 2 ขั้วอำนาจ อันเป็น "คู่ขัดแย้งหลัก" ทำการปล่อยแสง ออกอาวุธ เข้าใส่กันแบบไม่สนใจใยดีต่อสายตาความรู้สึกของประชาชน
ไม่ว่าจะเป็น ปรากฏการณ์ การยื่นถอดถอน และอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยฝ่ายค้าน การเร่งเครื่องของ DSI ส่งคดีทุจริตครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ในโครงการไทยเข้มแข็ง 2553 มูลค่า 5 พันล้าน ที่กล่าวหา "ชินวรณ์ บุณยเกียรติ"อดีต รมว.กระทรวงศึกษาธิการ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ให้กับ ป.ป.ช.
หรือแม้กระทั่ง ปฏิบัติการของกระทรวงกลาโหม ที่สั่งถอดยศ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงการเร่งคดี 98 ศพ คนเสื้อแเดง ที่ยังไม่นับรวมไปถึง
การเคลื่อนไหวของ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ "สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" ให้ประกาศยอมรับอำนาจพิจารณาของ ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ต่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติในปี 2553
ขณะ ก็มีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักของ "ทหารเก่า" ที่เคยอยู่ร่วมในพันธมิตรฯ อย่าง "พล.ต.จำลอง ศรีเมือง" ที่ประกาศชัดเจน ในการระดมกำลังเข้าร่วม โดยยอมยกเลิกงานของพันธมิตรฯ เพื่อให้มวลชนสามารถมาช่วยม็อบ"เสธ.อ้าย" ในวันที่ 24 - 25 พ.ย.
แต่ก็น่าสนใจกับลีลา "ออกตัว" ของ "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" รองนายกฯ ที่ประกาศ จะเชิญตัวแทนจาก "องค์กรอิสระ" ทั้ง ป.ป.ช., กกต., ผู้ตรวจการแผ่นดิน, กรรมการสิทธิมนุษยชน สำนักงานอัยการสูงสุด และองค์กรต่างประเทศหลายแห่ง มาเป็น "สักขีพยาน" สังเกตการณ์การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดูแล "ผู้ชุมนุม" หนนี้ ในท่ามกลางข่าวว่า จะมีการระดมกองทัพตำรวจเข้ามาดูแลกว่า 5 หมื่นคน พร้อมๆ กับการติดตั้ง "กับดัก" กล้องบันทึกเหตุการณ์ถ่ายทอดสัญญาณสดตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ สแกนอย่างละเอียดว่าใครเป็นใคร กับทั้ง "มวลชน" และ "กองกำลังอำนาจรัฐแฝง" ที่เข้ามาผสมโรง ภายใต้การข่าวกรอง ที่รายงาน การจัดกำลังทหารนอก
เครื่องแบบ เข้ามาซุ่มซ่อนในที่ต่างๆ ของทหาร ในกรุงเทพฯ ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคน อันเป็นเหตุให้มีคำสั่งจาก"รมว.กลาโหม" ให้ผู้บังคับบัญชา แต่ละค่ายทหาร สแกนกำลัง และรายงานทุกระยะแบบวันต่อวัน แม้จะยืนยันจากปากของ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผบ.ทบ. ที่ห้ามกำลังพลเข้ามายุ่งเกี่ยวกับม็อบเวลาราชการก็ตาม
เครื่องแบบ เข้ามาซุ่มซ่อนในที่ต่างๆ ของทหาร ในกรุงเทพฯ ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคน อันเป็นเหตุให้มีคำสั่งจาก"รมว.กลาโหม" ให้ผู้บังคับบัญชา แต่ละค่ายทหาร สแกนกำลัง และรายงานทุกระยะแบบวันต่อวัน แม้จะยืนยันจากปากของ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผบ.ทบ. ที่ห้ามกำลังพลเข้ามายุ่งเกี่ยวกับม็อบเวลาราชการก็ตาม
กระนั้น ก็อย่าลืม ท่าทีของ "คนเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์" "พ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์" ประธานที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ขยับเคลื่อนไหวในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จัดชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย. นี้ โดยจะเป็นการชุมนุมโดยรอบนอกบริเวณทำเนียบรัฐบาลเป็นหลัก
เป็น "ทำเนียบรัฐบาล" ซึ่งอยู่ใจกลางระหว่างม็อบ หากผู้คนมาเรือนแสนเรือนล้านตามที่ "เสธ.อ้าย" อ้าง ที่ถูกระบุจากฝ่ายข่าวของคนเสื้อแดง ว่า ตกเป็นเป้าหมายของ "ม็อบ เสธ.อ้าย" ในการปิดล้อม จนมีความกังวลไปถึงข่าวการ"ควบคุมตัวนายกฯ" รัฐมนตรี และเข้าจัดการกับ แกนนำแดง ที่มีการอ้างว่า หลายคน เริ่มหาที่หลบภัยแล้ว
เป็นทำเนียบรัฐบาล ที่ไม่ควรลืมเช่นกัน กับสถานการณ์เหตุการณ์ที่เคยถูกบุกยึดจากพันธมิตรฯ และสถานการณ์ แดงปะทะเหลือง ม็อบปะทะเจ้าหน้าที่ ฯลฯ ที่หากสถานการณ์บานปลาย จะเข้าสู่ "เงื่อนไข"การออกมาควบคุมสถานการณ์ของ "กองกำลังรักษาพระนครฯ" ของกองทัพ ภายใต้กฎทำให้สถานการณ์ประเทศต้อง "เรียบร้อยสงบ" ในทันที
เป็น "เงื่อนไข" ที่ฝ่ายรัฐบาลเพื่อไทย กังวล ในความบานปลาย ภายใต้การข่าวที่ระบุถึงการเตรียมใช้กองกำลัง "แดงปลอม" เข้าปฏิบัติการบางอย่าง..ในห้วงนั้น..
เป็นความหวาดกังวล ไม่น้อยไปกว่า การส่ง "สัญญาณ" จาก "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" รัฐมนตรีแดง ต่อหมากกลจาก "ฝ่ายตรงข้าม" ที่อาจมี "แผนสอง" วางแพลน ใช้องค์กรอิสระ เข้าจัดการรัฐบาล แม้ว่าพวกเขาจะค่อนข้ามั่นใจว่า "เสื้อแดง" จะไม่ยอม และจะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน "ฝ่ายก่อการล้มรัฐบาล" ก็ตาม
นี่จึงเป็น "สัญญาณ" ไปสู่การ "ปะทะ" ที่มีเปอร์เซ็นต์จากท่าที ไปสู่ความรุนแรงอันบานปลาย โดยเฉพาะอาการฝ่ายหนึ่ง ที่ต้องการ "จบเกมเร็ว" ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง พร้อมจะ "ต่อต้าน" และเคลื่อนไหวต่อเนื่องแบบยืดเยื้อ ทุกกระบวนท่า ไม่ยอมให้ เหมือนเก่า!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น