รอรวมศูนย์-เป้าเดียวกัน
บทความ วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ.2556 12:31น.
มีความน่าสนใจในความเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่มความขัดแย้ง ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยเฉพาะน่าสนใจในรูปแบบ ปรากฏการณ์ เชิง "สัญลักษณ์" ที่ส่งผ่านกลุ่มในสังคมสู่ประเด็นทางการเมือง ที่แฝงอยู่ใน กระบวนการ ผลประโยชน์ทุน ความขัดแย้งทางความคิด ระหว่างมวลชน และขั้วอำนาจการเมือง
ไม่ว่าจะเป็นกรณีท่าทีของ ผบ.ทบ. และกรณีทหารสวมชุดลายพราง ไปแสดงความไม่พอใจสื่อ หลังก่อนหน้านี้ เคยมีตำรวจนครบาล ไปแสดงพลังไปม็อบหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไร่เรียงถึงการใส่หน้ากากไปม็อบสื่อ "ช่อง3" กรณีแบนละคร "เหนือเมฆ" ปรากฏการณ์ชุมนุม ของ "กลุ่มธรรมยาตรา" และแนวร่วม นำโดย "สมาน ศรีงาม" บริเวณบ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
กรณี ทหารกับสื่อ แม้ปรากฏ ทหารไม่พอใจตาม "นาย" คือ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผบ.ทบ. ยกพล บุก น.ส.พ.ผู้จัดการ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน 2 รอบ จะพยายามจบลงด้วยท่าที ยืดได้หดได้ ของ "พล.อ.ประยุทธ์" ที่ยอมขอโทษ แต่ ปรากฏการณ์นี้ ถูกนำเสนอไปแล้วสำหรับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ และกำลังพลในกองทัพ โดยเฉพาะ ทบ.
เป็นท่าที ที่เป็นผลส่วนหนึ่งมาจากการกระทบชิ่ง จาก "ประเด็นไฮไลท์" ที่ทหารมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง ในฐานะ "รั้วของขาติ" กรณี เขาพระวิหาร ที่ถือเป็น "ธีมหลัก" ในการเคลื่อนทางการเมืองของขั้วการเมือง ตรงข้ามรัฐบาลเพื่อไทย
เป็นไฮไลท์ ที่ขยายผล ประเด็นชาตินิยม ไปสู่ปะทุความขัดแย้ง จากภายใน สู่ภายนอก คล้ายเหมือนภาพการปะทะระหว่างกลุ่มเคลื่อนไหวประเด็นเขาพระวิหาร "พันธมิตร" กับ มวลชนชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนไทยเขมร ที่เคยเกิดขึ้นหลายปีก่อน ที่นำมาสู่ วาทกรรม ไทยฆ่าไทย ทำร้ายไทยกันเองให้ชาติอื่นดู ก่อนที่หนนั้น ประเด็นชาตินิยม จะจุดติดขยายไปสู่ทหาร และประเด็นการเมือง จนนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในที่สุด
ทั้งนี้ ยังไม่รวมไปถึงบริบทการออกมาเคลื่อนไหวประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย "นิรโทษกรรม" ของ "กลุ่มนิติราษฎร์" ในห้วงเวลาเดียวกันกับการออกมาอีกครั้ง (12ม.ค.) ของ "นายอุกฤษ มงคลนาวิน" ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ที่เสนอให้ศาล ดำเนินคดีการเมืองตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ โดยยึดเมตตาธรรม-เสมอภาค
โดยโพลงานวิจัยหลายสำนัก ยังได้ข้อสรุปคล้ายกันว่า สังคมไทย ยังขัดแย้งหนัก ไม่ว่าจะเป็น โพลสวนดุสิต ที่สรุปว่า สังคมยังคงขัดแย้ง แตกแยก ต่างฝ่ายต่างมีแนวคิดที่ต่างกัน 49.57% ขณะที่ สาเหตุความขัดแย้ง มาจากอำนาจและผลประโยชน์ 61.38%
มีความน่าสนใจว่า "ตัวละคร" ที่กำลังโลดแล่น ในแต่ละประเด็น แต่ละจังหวะก้าว ในความขัดแย้งเหล่านี้ เวลานี้ เอาเข้าจริง ก็ล้วนแล้วแต่เป็น "ตัวละครเดิม" ที่มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน ทั้งทางตรง-อ้อม ทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า หลายคน ปรากฏและแสดงตน แสดงทัศนะ ผ่านแต่ละ "ช่องทาง" ของตน ไปยังมวลชนชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม ภายใต้ "การรอคอย" จังหวะเวลาความสุกงอมของสถานการณ์ ก่อนจะ "รวมศูนย์" รวมประเด็น รวมมวลชน รวมความขัดแย้ง และปัญหา ปฏิบัติการภายใต้ "เป้าหมายเดียวกัน" ก็เท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น