สัญญาณเข้ม
บทความ วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2555 7:06น.
มีความน่าสนใจใน "สัญญาณการปะทะ" ทางการเมือง อันเข้มข้นหลายปรากฎการณ์..ในห้วงเวลาที่รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจ จากปัญหาพลังงานทั้งน้ำมันและแก๊สที่กำลังบาน ไปถึงประเด็นปัญหาความเดือดร้อน ค่าครองชีพ ของประชาชน สะท้อนผ่านวาทะกรรม "แพงทั้งแผ่นดิน" จากฝ่ายค้านที่เตรียมตั้งกระทู้ถามรัฐบาลในวันพฤหัสนี้ (15มี.ค.55)
น่าสนใจ ว่า มีหลายแนวรบที่กำลังมีการปฏิบัติการโอบล้อมและปะทะ ทั้งทางเปิด และปิด ในท่ามกลางความพยายามส่ง "สัญญาณปรองดอง" จากบางฝ่าย ขณะบางแนวรบก็ "รุกไล่" ผ่านบางกลไก..ภายใต้ "ขั้วข้าง" ...
ไล่เรียง ตั้งแต่ ปฏิกริยาการ "รุก" ผ่านกระบวนการแก้ไขรัฐธรมนูญที่แตะกระทบ "องค์กรอิสระ" หลายองค์กร การยกเลิกกฎหมาย 191 ฉบับยุค คมช. ...ไปพร้อมๆกับปรากฎการณ์ ทวงถามคดี ปรส.ที่กำลังหมดอายุความในปี2556 ซึ่งมีตัวละครฝั่งตรงข้ามอำนาจรัฐปัจจุบัน ที่ค้างอยู่ใน ปปช. ,กรณี แฝดหมัดสั่ง "วรเจตน์" ที่กำลังบานปลายเชื่อมโยงไปถึงกองกำลัง "ชุดดำ" กับปฏิบัติการพัทยา และ การเชื่อมโยงถึง "อาสาสมัครทหารพราน" และกองกำลังชุดดำบุรีรัมย์เมื่อปี 2552 ยุครัฐบาลชุดก่อนที่เชื่อมต่อกับเงื่อนงำที่กำลังมีการ "ขยายผล" ในกองทัพของ "พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา" ผบ.ทบ.และโยงใยไปถึงฝ่ายการเมืองจากพรรคร่วมรัฐบาลขณะนั้น..
แม้กระทั่ง กรณี มือกระชากหัวสาวแดง ทุบรถวอยส์ทีวี.ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรห้วงวันหยุดที่ผ่านมา ที่ถูกผูกโยงย้อนหลังแห่งคดี, และปรากฎการณ์การโยกย้ายปลัดพัฒนาสังคม(13มี.ค.55) ที่ถูกโยงไปเบื้องสูง..,ปรากฎการณ์ ศาลอาญาเตรียม เปิดไต่สวนคดี 16 ศพ ที่อาจเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐในช่วงเกิดเหตุการณ์ไม่สงบเดือน เม.ย.-พ.ค.53 อันมีผู้ขยายความหมายมุ่งกระทบตรงไปยังอดีตนายกฯ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" และ "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" อดีตรองนายกฯ
กระทั่งมาถึง การเคลื่อนขยับจากเมืองหลวงสู่ชายแดนเขมรและ ๓ จังหวัดชายแดนใต้กับการเปิดข่าว "วีระ สมความคิด" ไม่สบายที่โยงไปถึงข่าวการเตรียมมาพบ "ฮุนเซน" ของ "ทักษิณ" กลางสัปดาห์นี้ ..และไล่เรียงถึงการเดินหน้ายื่นยุบพรรคเพื่อไทยของ "หมอตุลย์ สิทธิสมวงศ์" แห่งเสื้อหลากสี(13มี.ค.) ทียังไม่นับรวม ข่าวการเคลื่อนตัวของ"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" และ การเปิดข่าวการเตรียมกลับมาไทยของเขา อย่างเข้มข้นถึงขั้น "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง"และ ส.ส.
ของพรรคเพื่อไทยบางคน ออกมาระบุทั้งห้วงเวลา และพื้นที่การกลับไทยในระยะอันใกล้..ที่ส่งผลกระเพื่อมอย่างรุนแรง..กระทั่ง "นายกฯยิ่งลักษณ์" ต้องออกมาปฏิเสธ..ที่ยังไม่นับรวมอีกหลายปรากฎการณ์ "ทางปิด" ที่กำลังเคลื่อนตัวปะทะกันอย่างเข้มข้นของหลายฝ่าย..
นี่เป็นบรรยากาศ..ที่น่าจับตา กับกลิ่นไอการเมืองแบบ๒ขั้วอำนาจ..ภายใต้ "ไทม์มิ่ง" นับถอยหลังการกลับมาของ"บ้านเลขที่๑๑๑" ในเดือนพฤษภาคม ..ที่แม้จะมีผู้พยายามส่งสัญญาณ "ปรองดอง" ออกมาเป็นระยะ...แต่สัญญาณแทนที่จะเบาลงกลับ เข้มข้นแบบพร้อมแตกหักขึ้นทุกขณะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น