PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

ประมวลข่าว27/3/56


@@"ทักษิณ"สไกป์ขู่ส.ส.ทำสภาฯล่มถูกเชิญมาพบแน่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคเพื่อไทยวานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สไกป์เข้ามาในที่ประชุมพรรค ใช้เวลาสั้นๆไม่ถึง 10 นาที จนส.ส.ตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นผลมาจากการที่กลุ่ม 40 ส.ว.ขู่จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกรณีพ.ต.ท.ทักษิณสไกป์เข้ามาในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณต้อง
ระมัดระวังในการพูดมากขึ้น

โดยการสไกป์ของพ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้กำชับให้ส.ส.ไปอ่านร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทให้เข้าใจ จะได้ช่วยชี้แจงในสภาฯ เชื่อว่า หลังจากนี้ การเมืองจะร้อนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทั้งในสภาและนอกสภาฯ จึงขอให้ส.ส.ช่วยกันเข้าร่วมประชุมสภาฯ อย่าให้สภาฯ ล่มอีก ให้ช่วยกันประคับประคองรัฐบาลให้ผ่านไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงคนที่เป็นกรรมาธิการต่างๆก็ต้องมาร่วมประชุมด้วย อย่าให้องค์ประชุมขาดเป็นอันขาด ใครเป็นสาเหตุให้องค์ประชุมล่ม ต้องมีมาตรการดำเนินการ ถ้าเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ มีคนต่อคิวอีกมาก ก็ให้เปลี่ยนคนอื่นมาทำหน้าที่แทน เพราะเป็นมาจะ 2 ปีแล้ว ส่วนส.ส.เขต ถ้าไม่ลงพื้นที่แล้วยังขาดประชุมอีก ก็ต้องเปลี่ยนตัว มีคนรอเสียบอีกเยอะ ทั้งนี้ถ้าการพิจารณาเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท และการแก้รัฐธรรมนูญเกิดเหตุสภาฯ ล่มอีก จะเชิญส.ส.ที่ไม่อยู่ประชุมมาพบ ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองอย่างเดียว ไม่ช่วยทำงานพัฒนาประเทศ ดังนั้นต้องไม่ทำอะไรให้เข้าทางพรรคนั้น ส่วนที่กลุ่ม 40 ส.ว.จะไปร้องศาลรัฐธรรมนูญเรื่องที่ตนสไกป์นั้น ก็ปล่อยไป เพราะพวกเขาคงไม่มีอะไรทำ

@@สมศักดิ์มั่นใจสภาถกพรบ.เงินกู้ไม่ล่ม

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลในวันที่ 28-29 ม.ค.ว่า การดูแลการประชุมจะเป็นไปตามปกติ
และเชื่อว่าบรรยากาศน่าจะดีเพราะทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ แม้ว่าส.ส.รัฐบาลจะมีการเตรียมประเด็นพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องโครงการไทยเข้มแข็งและมิยาซาว่า แต่ทุกอย่างก็ต้องอยู่ภายใต้
ข้อบังคับการประชุม ซึ่งตนเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาหากทุกฝ่ายยึดข้อบังคับ และคัดค้านด้วยเหตุผล อภิปรายอย่างสร้างสรรค์ และเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบ เหมือนที่เกิดขึ้นใน
สัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเป็นญัตติสำคัญเช่นเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราที่จะมีขึ้นในวันที่ 1-2 เม.ย. โดยสาเหตุที่มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาองค์ประชุมไม่ได้เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
สไกป์ผ่านที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยกำชับให้ร่วมประชุมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบแต่เรื่องนี้เป็นหน้าที่ที่ส.ส.ทุกคนต้องมีความรับผิดชอบอยู่แล้ว ที่ผ่านมาวาระที่ไม่สำคัญอาจมีปัญหาบ้างแต่ถ้าเทียบกับสภาสมัยที่แล้วก็ถือว่าเป็นหนังคนละเรื่อง

ส่วนร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าออกเป็นพระราชกำหนด ส่วนที่ไม่ได้ใช้ระบบงบประมาณปกติแต่ใช้การออกกฎหมายกู้เงิน
แทนเป็นการหลีกเลี่ยงระบบตรวจสอบหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องชี้แจงเอง และฝ่ายที่เห็นต่างก็ต้องฟังเหตุผลด้วย

@@"เฉลิม"ปัดตั้งวอร์รูม รับมือ พ.ร.บ.เงินกู้2

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรายงานข่าวพรรคเพื่อไทยมีการตั้งวอร์รูมรับมือตอบโต้พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท โดยใช้ห้อง 3301 ที่รัฐสภา ว่า ไม่เป็นความจริง เป็นแต่เพียงตนพูดในพรรควานนี้(26มี.ค.) ซึ่งตนหายหน้าหายตาไป 3-4 ครั้ง ห้องที่เคยนั่งนั้นซ่อม ตนก็ต้องไปนั่งตรงนู้นตรงนี้ จึงบอกว่าเมื่อห้องเสร็จในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค. ตนจะนั่งห้อง 3301 เท่านั้นเอง ไม่มีใครไปตั้งวอร์รูม และนายกฯ ท่านมีความมั่นใจและมีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะชี้แจง ที่เป็นข่าวออกมาเนื่องจากว่านายกฯได้มอบหมายตนเพราะหากมีคนบอกขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ก็บอกว่าถึงว่านั้นรองฯเฉลิม ช่วยชี้แจงหน่อย แต่หลักกการนั้นท่านนายกฯ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม รับผิดชอบ ไม่มีอะไร และตนก็วิเคาระห์ว่ากฎหายฉบับนี้ผ่านด้วยความเรียบร้อยฝ่ายค้านสุดท้ายต้องเห็นด้วย เป็นอื่นไม่ได้ ทั้งนี้ตนอ่านคำให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ขอชม ซึ่งพูดมา 3 ประเด็นก็ถูกหลัก เป็นฝ่ายค้านต้องวิเคราะแบบนี้

เมื่อถามว่ามีรายงานว่าจะมีการให้นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา ไปช่วยนั่งอยู่ในห้องที่ระบุว่าเป็นวอร์รูม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีวานนี้นายโภคิน ก็นั่งอยู่ด้วย ทั้งนี้นายโภคิน มักเป็นผู้แทนของพรรคและนักการเมืองก็มักจะถามไถ่อยู่เรื่อย

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐนตรี สไกป์มาในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยกำชับให้ส.ส.ทุกคน ไม่ให้ขาดประชุมสภา ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ท่านคงพูดเล่น ตนไม่ได้อยู่ในที่ประชุม

เมื่อถามว่าวันที่28-29 จะอยู่ที่สภาทั้งสองวันหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อยู่สิ ปกติก็ประจำอยู่แล้ว แต่เข่าตนไม่ค่อยดีตอนลงคะแนนตอนลงคะแนนไม่ได้วิ่งขึ้นวิ่งลง ซึ่งตนอยู่สภาประจำถึงร้อยละ 95 ไม่ได้ไปไหน ชอบตั้งแต่เด็ก โตมาได้เพราะสภา นักข่าวก็เขียนไม่ใช่เหรอไปทะเลเจอฉลาม มาสภาเจอเฉลิม

@@76 ส.ว. - ส.ส. เตรียมยื่นปธ.สอบพรบ.ขัดรธน.ม.169 

76 ส.ว. - ส.ส. เตรียมยื่น ประธานรัฐสภา ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตีความร่าง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พรุ่งนี้ ชี้ ขัด ม.169 และ ม.75

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สายสรรหา และ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันรวบรวมรายชื่อสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 76 คน เพื่อเตรียมยื่นต่อ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า ร่าง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้ ที่ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภานั้น ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 และาตรา 75

นอกจากนี้ยังเปิดช่องให้การดำเนินการโครงการต่างๆ โดยใช้เงินของรัฐเป็นไปอย่างง่ายดาย สามารถเลี่ยงการประมูลได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าร่างกฎหมายนี้ เป็นการรองรับการใช้จ่ายเงินกู้ 2 ล้านล้าน ของรัฐบาล ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นหากศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณาและวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ ก็จะทำให้การใช้จ่ายเงินกู้ 2 ล้านล้าน ทำได้ลำบากขึ้น และอาจไม่ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา

@@ระดม๓กองร้อยรับมือป่วนพรบ.กู้

นครบาล เตรียมกำลัง 3 กองร้อย ดูแลประชุมร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน พบมีเพียงกลุ่มสนับสนุนรวมตัว ยันไม่มีเหตุป่วน

พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการเตรียมมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย บริเวณรัฐสภา ประชุมสภาร่างพระราชบัญญัติ กู้เงิน
2 ล้านล้านบาท ว่าจากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้นพบว่า จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล มารวมตัวเพียงกลุ่มเดียว แต่ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ส่วนฝ่ายต่อต้านและกลุ่มอื่นๆ นั้น ยังไม่
มีรายงานข่าวเข้ามาว่าจะมารวมตัวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เตรียมกำลังควบคุมฝูงชนไว้ดูแล จำนวน 3 กองร้อย เพื่อดูแลความสงบในพื้นที่ ส่วนการข่าวเรื่อง

เหตุป่วนหรือเหตุรุนแรงนั้นยังไม่มีการแจ้งเข้ามาเชื่อว่าน่าจะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
////////////
@@สมศักดิ์ยันแก้รธน.ไม่บานปลายเมษาเดือด

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า ไม่น่าจะทำให้เกิดบรรยากาศที่ทำให้เดือนเม.ย.เป็นเดือนเดือดทางการเมือง เพราะ
สาระที่แก้ไม่มีอะไรมากจึงไม่น่าจะส่งผลอะไร ไม่ว่าจะเป็นประเด็น 190 หรือ 237 แต่ที่อาจจะมีการมองต่างมุมก็คือมาตรา 68 และเรื่องของ ส.ว. และการลงชื่อเพื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญราย
มาตราครั้งนี้ก็ไม่มีใครถูกหลอกให้ร่วมลงชื่อ เพราะทุกคนมีวุฒิภาวะและมีความคิดเป็นของตัวเอง การยื่นแก้ไขมาตรา 68 ก็ไม่ใช่การยัดไส้เข้ามาแต่เป็นสิทธิของสมาชิก และการปิดช่องทางไม่ให้
ประชาชนยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้นก็ไม่ใช่การตัดสิทธิของประชาชน เนื่องจากยังมีสิทธิยื่นต่ออัยการสูงสุดได้ จึงไม่ใช่การปูทางที่จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับที่ค้างการพิจารณา

วาระสามในรัฐสภาเพราะเรื่องนี้เป็นแนวทางที่เขาจะทำอยู่แล้ว ดังนั้นอะไรที่เป็นเรื่องถูกต้องตามรัฐธรรมนูญก็สามารถทำได้ แต่ถ้าไม่ถูกต้องก็ทำไม่ได้
อย่างไรก็ตามการแก้ไขมาตรา 68 เป็นปัญหาเล็กน้อยไม่ใช่สาระสำคัญที่จะทำให้เกิดปัญหาการเดินขบวน เพราะประเด็นนี้ตนไม่คิดว่าเป็นการตัดสิทธิประชาชนเป็นเพียงขั้นตอนการตรวจสอบเท่า

นั้น คือแทนที่จะให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งรับเรื่องเอง ตรวจสอบเอง ชงเอง กินเอง สอบเอง คงไม่ได้ ต้องมีการคานอำนาจ เป็นเรื่องการคานอำนาจไม่ใช่การตัดสิทธิประชาชน

เพราะยังมีสิทธิยื่นได้ตลอดเหมือนเดิมผ่านอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นการถ่วงดุลดีกว่าจะให้องค์กรเดียวไปรับผิดชอบทุกเรื่อง เพราะจะยิ่งไปกันใหญ่

เมื่อถามว่าหากเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 50 หากประชาชนพบปัญหาการล้มล้างรัฐธรรมนูญหรือล้มการปกครองสามารถที่จะยื่นได้สองช่องทางคือ อัยการสูงสุดและศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อแก้ไข
แล้วจะทำให้เหลือเพียงช่องทางเดียวคือยื่นต่ออัยการสูงสุดจะถือเป็นการมัดมือชกประชาชนหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าว
คงทำไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นการคานอำนาจ

เมื่อถามว่าจะเกิดปัญหาอัยการสูงสุดดองเรื่องจนไม่มีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า เชื่อในการคานอำนาจ


@@"นิคม"ประธานวิปรัฐสภา เรียก วิป 3 ฝ่าย ถกอภิปรายแก้รธน.พรุ่งนี้

นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภาและประธานวิปรัฐสภา เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตั้งตนเองเป็นประธานวิป 3 ฝ่าย หรือ วิปรัฐสภา เพื่อหาข้อยุติในการ

ประชุมร่วมให้กับ ทั้ง 3 ฝ่าย คือ วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา เพราะแต่ละวิปมีจำนวนที่เท่ากันคือ ฝ่ายละ 6 คน อาจมีการโต้เถียง หรือ จำนวนเสียงเท่ากันได้ โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการ

ประชุมกับวิปทั้ง 3 ฝ่าย ในเวลา 14.00 น. เพื่อกำหนดจำนวนวันและเวลาในการอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญ  คาดว่า ในวันประชุมจริง จะใช้เวลา 10 -12 ชั่วโมง ในการพิจารณาและเริ่ม ในเวลา 10.00

-22.00 น.

นอกจากนี้ นายนิคม ยังกล่าวถึงรายละเอียดของการแก้รัฐธรรมนูญว่า จะแบ่งออกเป็น 3 วาระ  โดยในการรับหลักการที่ 1 จะไม่ใช้เสียงส่วนใหญ่ แต่จะเป็นการขานชื่อ เพื่อให้เสียงผ่านเกินกึ่งหนึ่ง

ด้านวาระที่ 2 จะใช้เสียงส่วนใหญ่ แล้วเว้นไว้ 15 วัน แล้วจึงมาลงวาระที่ 3 โดยการขานชื่อ  โดยยืนยัน จะต้องกรรมาธิการ หลังรับหลักการวาระที่ 1 เรียบร้อยแล้ว

@@ปชป.ยันขวางรัฐแก้ ม.68เตือนดึงดันระวังสภาล่ม

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา และทีมกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ยืนยันทางพรรคเห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมีการแก้แล้ว อำนาจของรัฐต้องลดลง

อำนาจของประชาชนต้องเพิ่มขึ้น เพราะเจตนารมณ์ของรัฐบาลในขณะนี้ ต้องการแก้มาตรา 68 ที่อาจทำให้ระบบล่มได้ เพราะหากไปยื่นผ่านอัยการสูงสุดแล้ว มีการเพิกเฉย ไม่นำเรื่องไปส่งต่อศาล

รัฐธรรมนูญ ก็ไม่สามารถวินิจฉัยได้ แม้ศาลจะรับทราบว่ามีพฤติกรรมล้มล้างทั้งฉบับก็ตาม อีกทั้ง การแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราในครั้งนี้ อาจมีการแอบโหวตวาระ 3 ที่ค้างอยู่ เพื่อตั้ง สสร. ได้ โดยใน

เรื่องนี้ ทางพรรคได้เตรียมข้อร้องเรียน และแนววินิจฉัยเดิม ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ แต่ขอปรึกษากับผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าวก่อน ส่วนเรื่องเวลาในการอภิปรายนั้น
ยืนยันว่าไม่เพียงพอ เพราะแต่ละคนมีข้อมูล

@@เลขาฯสมช.ปิดรายชื่อปชช.ร่วมคณะเจรจาบีอาร์เอ็น

วันนี้(27 มี.ค.56) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการเจรจากับตัวแทนของกลุ่มบีอาร์เอ็นในวันที่ 28 มี.ค.นี้ว่า สำหรับคณะที่จะเดินทางไปประเทศ

มาเลเซียทั้งหมด 15 คนนั้น ในส่วนของข้าราชการ ประกอบด้วยตน พล.ต.ท.สฤษฏ์ชัย เอนกเวียง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล, พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม, . พล.ต.นักรบ บุญ

บัวทอง รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พล.ท.สุรวัฒน์ บุตรวงษ์ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสาน

งานข่าวกรอง สำนักข่าวกรองแห่งชาติ, ตัวแทนกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ, พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า

ขณะที่ภาคประชาสังคม และภาคประชาชนนั้นตัวแทนเหล่านี้ได้แจ้งความประสงค์เอาไว้ว่าไม่ต้องการเปิดเผยรายชื่อเพื่อความปลอดภัย จึงไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้

เลขาฯสมช.กล่าวว่า ทั้งนี้ รูปแบบการเจรจาบนโต๊ะยังไม่สามารถกำหนดหัวข้อและตัวบุคคลได้ เพราะต้องรอดูฝั่งตัวแทนของบีอาร์เอ็นก่อนว่ามีจำนวนเท่าใด และมีใครบนโต๊ะเจรจาบ้าง จึงจะ

กำหนดหัวข้อและตัวบุคคลเพื่อให้มีความสมดุลกันได้ ส่วนที่มีข่าวว่านายฮัสซัน ตอยิบ แสดงความไม่พอใจที่สมช.นำภาคประชาชนไปร่วมโต๊ะเจรจาในครั้งนี้นั้น เป็นเพียงกระแสข่าวที่ออกมาจาก

ฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการเจรจาครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แล้วการเดินทางไปในครั้งนี้ก็ยังนำภาคประชาสังคมและภาคประชาชนไปกับคณะด้วย ส่วนที่มีรายงานข่าวออกมาว่าบีอาร์เอ็นเตรียม

ยื่นข้อเสนอจำนวน 9 ข้อนั้น ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน เป็นเพียงรายงานข่าวที่ปล่อยออกมาจากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการเจรจา และเป็นกลุ่มที่มีความเห็นต่าง รวมทั้งการเจรจาครั้งนี้จะไม่มีการพูดคุย

เรื่องเขตปกครองพิเศษ การไปพูดคุยครั้งนี้เพื่อต้องการให้มีการลดสถิติการก่อเหตุลง

@@"เอกชัย" คาด กรอบเจรจากับกลุ่ม BRN เป็นการกำหนดโครงสร้างเจรจาเพื่ออนาคต ย้ำ กลุ่มประชาสังคมส่วนใหญ่เห็นด้วย

พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาส  ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยกับสำนัก ข่าว.ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าการเตรียมการเจรจากับกลุ่ม BRN ในวันที่ 28 มีนาคมนี้ ตนยังไม่ทราบ

ถึงรายละเอียดของกรอบการเจรจาพูดคุย คาดว่าน่าจะเป็นไปตามที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) วางไว้  คือตัวแทนหลักจากฝ่ายรัฐบาล 5 คน ซึ่งเป็นการ

พูดคุยกันในเรื่องของการวางโครงสร้างของกรอบแนวทางของการพูดคุยในอนาคต ส่วนรายละเอียดของการตั้งตัวแทนคณะเจรจา 15 คนของไทย ขณะนี้ยังไม่เปิดเผยชื่อว่า ใครบ้าง และไม่แน่นอน

ว่าเป็นการกำหนดรายชื่อแบบถาวร หรือมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทางฝ่าย BRN นั้น ก็อาจมีการเพิ่ม หรือเปลี่ยนเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ พล.อ.เอกชัย ยังกล่าวเพิ่มว่า ปฏิกิริยาของภาคประชาสังคมต่าง ๆ และกลุ่มคนในพื้นที่มีเพียงบางกลุ่มที่ติดป้ายแสดงความไม่พอใจในสิ่งที่ต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยและออกมาขับ

เคลื่อน โดยเสนอส่งตัวแทนของกลุ่มตนเข้าร่วมในการพูดคุยเจรจาทั้งนี้ ไม่ว่ากลุ่มผู้หญิง หรือ กลุ่มสภาประชาชน มีการเสนอประเด็นขอให้ลดความรุนแรงสำหรับผู้บริสุทธิ์ที่เป็นสตรีและเด็ก
ส่วนกลุ่มสภาประชาสังคมอื่นจะส่งตัวแทนคอยสังเกตการณ์ในขั้นต้น

@@ถวิล ยันคุยBRN ผิดขั้นตอน

นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ในฐานะอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การที่จะพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ในวันพรุ่งนี้

เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่คิดว่าผิดขั้นตอน สุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสีย เพราะมีการยกระดับ และให้ค่ากับกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลไทยมากเกินไป ทั้งนี้ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ กล่าวด้วย

ความเป็นห่วงว่า หากมีข้อเสนอที่ไม่อยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญไทย ทางรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร

นอกจากนี้ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ คนปัจจุบัน หรือกับใครแต่อย่างใด แต่ติดตาม

ข่าวด้วยความเป็นห่วง พร้อมให้กำลังใจกับคณะพูดคุย

@@ยะลา ตรึงกำลังเข้มระวังคาร์บอมบ์วันเจรจาBRN

บรรยากาศทั่วไปในพื้นที่ จ.ยะลา ก่อนที่จะการพูดคุยสันติภาพที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 28 มีนาคม นี้ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังสถานที่ราชการ ย่านชุมชนภายในเขตเทศบาลนครยะลา อย่างเข้มงวด เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ไม่เห็นด้วยกับการพูด

คุยสันติภาพ จะออกมาสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นได้ในช่วงนี้

ด้าน พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังรถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ตามที่ได้มีแหล่งข่าวแจ้งเข้ามา ว่า เป็นรถที่กลุ่มคนร้ายได้ประกอบวัตถุระเบิด

และเตรียมนำเข้ามาก่อเหตุในเขตเทศบาลนครยะลา ดังนั้น เพื่อไม่ประมาท ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ช.ม.

@@ศาลอ่านคำสั่ง ลุงคิม นปช.ตายจากโรคประจำตัว

ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำสั่งในคดีที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 2 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนการเสียชีวิตของ นายฐานุทัศน์ อัศวสิริมั่นคง หรือ ลุงคิม อายุ 55 ปี แนวร่วม

ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่ถูกยิงเข้าที่หลังด้านซ้าย กระสุนทะลุไขสันหลังและปอดขวา กระสุนไปฝังที่สะบักขวา บาดเจ็บสาหัสและเป็นอัมพาต เหตุเกิดบริเวณหน้าโรง

รับจำนำ น่ำเลี้ยง ถนนพระราม 4 บ่อนไก่ ในช่วงกระชับวงล้อมผู้ชุมนุมเสื้อแดง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2553

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายฐานุทัศน์ เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบ ระบบไหลเวียนโลหิต และการหายใจล้มเหลว ด้วยโรคมะเร็ง ที่ท่อน้ำดี ระยะลุกลาม ส่วนกระสุนที่ฝังอยู่บริเวณสะบักขวา ก็

ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตดังกล่าว เนื่องจากกระสุนที่ฝังอยู่ ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ดังนั้น การเสียชีวิตของ นายฐานุทัศน์ จึงไม่ใช่สาเหตุหลักมาจากการถูกยิง

@@"นพดล"เตรียมสู้ หลังปปช.ฟ้องศาลฎีกาเซ็นต์เขาวิหาร

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงข่าว ป.ป.ช. ยื่นฟ้องตนเองต่อศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงแหน่งทางการเมือง กรณี

เซ็นคำแถลงการณ์ร่วมโดยไม่ขอความเห็นชอบจากสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม มาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ในสมัยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรี

ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยระบุว่า ความจริงในเรื่องดังกล่าว สำนักงานอัยการสูงสุด ไม่สั่งฟ้องตนเอง เพราะเห็นว่าไม่มีความผิด แต่ทาง ป.ป.ช. กลับขอตั้ง กรรมการร่วมที่มาจาก ป.ป.ช. 5

คน และสำนักงานอัยการสูงสุด 5 คน แต่กรรมการก็ไม่ฟ้องอีกเช่นกัน จนท้ายที่สุด ป.ป.ช. ตัดสินใจฟ้องเอง โดยจ้างทนายจากสภาทนายมาดำเนินการ  ซึ่งการฟ้องในประเด็นดังกล่าวไม่เกี่ยวกับ

เรื่องดินแดน แต่เป็นการกล่าวหาในประเด็นการลงนาม เพราะ กระทรวงการต่างประเทศ โดยผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายเห็นว่า คำแถลงการณ์ร่วมไม่เป็นหนังสือสัญญา และไม่มีบทบัญญัติเปลี่ยน

แปลงอาณาเขต จึงไม่ใช่หนังสือสัญญาตาม มาตรา 190 ของ รัฐธรรมนูญ ตนเองและรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช จึงไม่เอาเข้าสภา และส่วนตัวย้ำมาตลอดว่า คำแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว คือ
เอกสารที่ทำขึ้นเพื่อปกป้องพื้นที่ทับซ้อนไม่ให้กัมพูชานำไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก ทางกัมพูชา จึงยอมตัดพื้นที่ทับซ้อนออก และขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทพระวิหารเท่านั้น จึงจะถือโอกาสนี้

นำความจริงไปเสนอต่อศาล เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศต่อไป
\

27 มี.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 1 ประกาศรับรอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแล้ว หลังชนะการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ กกต.ระบุไม่สามารถสอบสวนคำร้องให้เสร็จภายใน 30 วันได้

@@"สุขุมพันธุ์"ทวิตขอบคุณ

ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ @Sukhumbhandp ความว่า "กกต. มีมติ 4 ต่อ 1 รับรองผมเป็นผู้ว่าฯ กทม. แล้วครับ ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามข่าวและ

เป็นกำลังใจให้ผม ขอบคุณมากครับ"

@@คาด"สุขุมพันธุ์"เข้ากทม.ทำงานวันแรก29มี.ค.นี้

ทั้งนี้เมื่อเวลา 15.00 น. รายงานข่าวจากศาลาว่าการกทม.ว่า หากวันนี้ กกต.มีมติรับรอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯกทม. กำหนดการเบื้องต้นที่คาดว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะดำเนินการนั้น ในวันที่ 28

มี.ค.ที่ผ่านมา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะเดินทางไปรับหนังสือรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ จากนั้นในวันที่ 29 มี.ค. จะเข้าทำงานที่ศาลาว่าการกทม. โดยจะมาทำงานตามเวลาราชการ แต่อาจจะมาก่อน

เวลาทำงานเล็กน้อย เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำศาลาว่าการกทม. โดยสาเหตุที่เลือกเข้าทำงานในวันที่ 29 มี.ค.นั้น เนื่องจากเป็นวันศุกร์ ซึ่งตามความหมายแล้ว วันศุกร์ถือว่าเป็นวันดี

ไม่มีความคิดเห็น: